คณะดิจิทัลมีเดียFaculty

Digital Art คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม กับโอกาสในอุตสาหกรรมครีเอทีฟปี 2025

Digital Art คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม กับโอกาสในอุตสาหกรรมครีเอทีฟปี 2025


Digital Art กับโอกาสในอุตสาหกรรมครีเอทีฟปี 2025: นี่ไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆ แต่คืออนาคตของเรา!

สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน! ในฐานะ คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงการออกแบบและศิลปะดิจิทัลมาสักพัก วันนี้อยากจะมาชวนคุยเรื่องที่โคตรจะจริงจังแต่ก็สนุกมากๆ นั่นก็คือ “Digital Art”  เราเชื่อว่าหลายคนคงเคยไถฟีด TikTok, Instagram หรือ X แล้วเจอภาพอาร์ตสวยๆ อลังการ จนต้องหยุดนิ้วโป้งแล้วซูมดูรายละเอียดใช่มั้ย? บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นแค่งานอดิเรกสวยๆ แต่พี่อยากจะบอกดังๆ ตรงนี้เลยว่า…
“สิ่งที่เราเห็นนั่นแหละ คือหนึ่งในทักษะที่ตลาดงานครีเอทีฟปี 2025 และอนาคตข้างหน้าต้องการตัวมากที่สุด!”

Digital Art คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม กับโอกาสในอุตสาหกรรมครีเอทีฟปี 2025

 

บทความนี้ไม่ได้จะมาสอนวาดรูปนะ แต่จะมาเปิดโลกให้เห็นว่า การวาดรูปบนคอมหรือ iPad ที่เราชอบทำกันเนี่ย มันต่อยอดไปเป็นอาชีพอะไรได้บ้างในโลกยุคใหม่ และทำไมมันถึงกลายเป็น “ตั๋วทอง” ที่จะพาเราเข้าไปสู่อุตสาหกรรมครีเอทีฟที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งในไทยและต่างประเทศ ถ้าพร้อมแล้ว…ไปลุยกันเลย!

ก่อนอื่นเลย Digital Art คืออะไรกันแน่?

ถ้าให้พูดแบบบ้านๆ เลย Digital Art ก็คือการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือหลักครับ มันไม่ใช่แค่การวาดรูปด้วยเมาส์ปากกาบนโปรแกรม Photoshop หรือ Procreate เท่านั้นนะ แต่มันครอบคลุมไปถึง:

  • 2D Illustration: ภาพประกอบสองมิติที่เราเห็นในหนังสือ, เว็บไซต์, เกมมือถือ, สติกเกอร์ LINE
  • 3D Modeling & Sculpting: การปั้นโมเดลสามมิติสำหรับตัวละครในเกม, สิ่งของในหนัง Animation, หรือแม้กระทั่งโมเดลสถาปัตยกรรม
  • Animation & Motion Graphics: การทำให้ภาพนิ่งมีชีวิตขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนที่เราดู, Intro สวยๆ ในช่อง YouTube, หรือโฆษณาเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดีย
  • UI/UX Design: การออกแบบหน้าตาและประสบการณ์การใช้งานของแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่เราใช้กันทุกวัน (ใช่ครับ นี่ก็เป็น Digital Art แขนงหนึ่ง!)
  • VFX (Visual Effects): การสร้างเอฟเฟกต์พิเศษสุดอลังการในภาพยนตร์ เช่น แสงเลเซอร์, การระเบิด, หรือเวทมนตร์ต่างๆ

เห็นมั้ยว่ามันกว้างและแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากกว่าที่คิดเยอะเลย!

Fact ที่น่าสนใจ: อุตสาหกรรมเกมทั่วโลกมีมูลค่าสูงกว่าอุตสาหกรรมหนังและเพลงรวมกันซะอีก และทุกๆ เกมที่เราเล่น ล้วนต้องการ Digital Artist จำนวนมหาศาลในการสร้างโลกและตัวละครเหล่านั้นขึ้นมา

ทำไมปี 2025 ถึงเป็นปีทองของ Digital Artist?

โลกกำลังหมุนเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ และทุกอย่างต้องการ “ภาพ” ในการสื่อสาร นี่คือเหตุผลที่ทักษะด้าน Digital Art กลายเป็นที่ต้องการอย่างมาก:

1. คอนเทนต์ คือ พระเจ้า (Content is King)

ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็กๆ ที่ขายของออนไลน์ ไปจนถึงบริษัทใหญ่ระดับโลก ทุกคนต่างแย่งชิงความสนใจของเราบนหน้าจอ และอาวุธที่ดีที่สุดก็คือ “Visual Content” ที่สวยงามและน่าดึงดูด ไม่ว่าจะเป็นภาพโฆษณา, Infographic, วิดีโอสั้น, หรือภาพประกอบบทความ ล้วนต้องการฝีมือของ Digital Artist ทั้งสิ้น

2. การระเบิดของอุตสาหกรรมเกมและ E-Sports

เกมไม่ใช่เรื่องของเด็กเล่นอีกต่อไป มันคืออุตสาหกรรมบันเทิงขนาดใหญ่ที่เติบโตไม่หยุด ตั้งแต่เกม AAA ฟอร์มยักษ์บนคอนโซล ไปจนถึงเกมมือถือง่ายๆ ล้วนต้องการศิลปินดิจิทัลในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบตัวละคร (Character Design), ออกแบบฉาก (Environment Art), ออกแบบหน้าจอเกม (UI Artist) ไปจนถึงการทำ Animation และเอฟเฟกต์ต่างๆ

3. กระแส Metaverse, Web3 และ NFT

แม้กระแสจะดูเงียบไปบ้าง แต่เทคโนโลยีเบื้องหลังยังคงพัฒนาอยู่ โลกเสมือน (Virtual Worlds), อวตาร (Avatars), และสินทรัพย์ดิจิทัล (NFTs) ล้วนต้องการศิลปิน 3D และนักออกแบบที่มีทักษะในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ๆ นี่คือโอกาสสำหรับคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ

4. ความต้องการในวงการภาพยนตร์และสตรีมมิ่ง

ลองนึกถึงหนัง Marvel หรือซีรีส์ใน Netflix สิ ฉากอลังการเกินจริงที่เราเห็นแทบทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกและฝีมือของ VFX Artist และ Concept Artist จำนวนมาก แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่แข่งขันกันผลิต Original Content ยิ่งทำให้ความต้องการบุคลากรสายนี้สูงขึ้นไปอีก

 

เจาะลึกเส้นทางอาชีพ! เป็น Digital Artist ทำอะไรได้บ้าง?

โอเค พอเห็นภาพรวมแล้วว่าทำไมมันถึงบูม ทีนี้มาดูกันดีกว่าว่าถ้าเรามีสกิลนี้ เราจะไปทำอาชีพอะไรได้บ้าง พี่จะลิสต์สายงานที่กำลังมาแรงและเป็นที่ต้องการมากๆ ในปี 2025 มาให้ดูกัน

1. Concept Artist / Illustrator (นักออกแบบคอนเซ็ปต์ / นักวาดภาพประกอบ)

ทำอะไร?: เป็นเหมือนด่านหน้าของโปรเจกต์ใหญ่ๆ มีหน้าที่เปลี่ยนไอเดียหรือบทที่เป็นตัวหนังสือให้ออกมาเป็น “ภาพ” ที่ทุกคนในทีมเห็นตรงกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวละคร, สัตว์ประหลาด, ยานอวกาศ, หรือฉากในเกมและภาพยนตร์ รวมถึงการวาดภาพประกอบสำหรับสื่อต่างๆ
ทักษะที่ต้องมี: พื้นฐานการวาดรูปแน่นปึ้ก, ความคิดสร้างสรรค์สูง, เข้าใจเรื่องการเล่าเรื่องด้วยภาพ (Visual Storytelling), ใช้โปรแกรมอย่าง Photoshop, Procreate ได้คล่องแคล่ว
ทำงานที่ไหน?: สตูดิโอเกม, สตูดิโอแอนิเมชัน, บริษัทผลิตภาพยนตร์, สำนักพิมพ์

2. 3D Modeler / 3D Artist (ศิลปิน 3 มิติ)

ทำอะไร?: นำภาพ Concept Art 2 มิติ มาปั้นให้กลายเป็นโมเดล 3 มิติที่จับต้องได้ในโลกดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นตัวละคร, อาวุธ, รถยนต์, หรือตึกรามบ้านช่องในเกมและหนัง
ทักษะที่ต้องมี: ความเข้าใจในรูปทรงและสัดส่วน, การใช้โปรแกรม 3D เช่น Blender, Maya, ZBrush, มีความละเอียดรอบคอบสูง
ทำงานที่ไหน?: สตูดิโอเกม (แทบทุกที่!), บริษัท VFX, บริษัทสถาปัตยกรรม (ทำภาพ Perspective), บริษัทโฆษณา

3. UI/UX Designer (นักออกแบบหน้าตาและประสบการณ์ผู้ใช้)

ทำอะไร?: สายนี้อาจจะไม่ได้วาดรูปจ๋าๆ แต่ใช้หลักการของศิลปะและการออกแบบสูงมาก UI (User Interface) คือการออกแบบ “หน้าตา” ของแอปฯ หรือเว็บให้สวยงามน่าใช้ ส่วน UX (User Experience) คือการออกแบบ “ประสบการณ์” ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายและไม่สับสน เป็นอาชีพที่ผสมผสานระหว่างศิลปะ, จิตวิทยา, และเทคโนโลยี
ทักษะที่ต้องมี: ความเข้าใจผู้ใช้, ทักษะการออกแบบ Layout และองค์ประกอบศิลป์, การใช้โปรแกรมออกแบบอย่าง Figma, Adobe XD
ทำงานที่ไหน?: บริษัทเทคโนโลยี, สตาร์ทอัพ, ธนาคาร, บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ (พูดง่ายๆ คือ ทุกบริษัทที่มีแอปฯ หรือเว็บไซต์)

4. Motion Graphics Designer (นักออกแบบโมชั่นกราฟิก)

ทำอะไร?: ปลุกชีวิตให้กราฟิกนิ่งๆ กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ เช่นไตเติ้ลหนัง, โลโก้ที่ขยับได้, วิดีโออธิบายข้อมูล (Explainer Video), หรือโฆษณาสั้นๆ บนโซเชียลมีเดีย
ทักษะที่ต้องมี: ความเข้าใจเรื่องจังหวะและการเคลื่อนไหว (Timing & Spacing), ทักษะด้านองค์ประกอบศิลป์, ใช้โปรแกรมอย่าง Adobe After Effects, Illustrator, Photoshop ได้เป็นอย่างดี
ทำงานที่ไหน?: เอเจนซี่โฆษณา, สถานีโทรทัศน์, บริษัทโปรดักชันเฮาส์, ทีมมาร์เก็ตติ้งในบริษัทต่างๆ หรือรับงานฟรีแลนซ์ให้ Youtuber

5. โอกาสในประเทศไทยล่ะ? มีจริงแค่ไหน? (GEO Focus)

หลายคนอาจจะกังวลว่าตลาดงานในไทยจะใหญ่พอไหม? พี่ขอยืนยันเลยว่า “ใหญ่และกำลังโตขึ้นเรื่อยๆ” ครับ!

  • วงการเกมไทย: ตอนนี้มีสตูดิโอเกมสัญชาติไทยเกิดขึ้นเยอะมาก และหลายเกมก็ไปสร้างชื่อเสียงในระดับโลก ทำให้ต้องการบุคลากรสายอาร์ตจำนวนมาก
  • การตลาดดิจิทัล: ทุกแบรนด์ในไทยหันมาทำ Digital Marketing กันหมด ทำให้ความต้องการคนทำ Visual Content, Motion Graphics สำหรับยิงแอดใน Facebook, IG, TikTok สูงมาก
  • วงการบันเทิงและ T-Pop: ไม่ว่าจะเป็น MV เพลง, ปกอัลบั้ม, โปสเตอร์โปรโมตคอนเสิร์ต ล้วนต้องการงานกราฟิกและอาร์ตเวิร์คเจ๋งๆ ทั้งนั้น
  • การทำงานระยะไกล (Remote Work): โลกเปิดกว้างขึ้นมาก เราสามารถนั่งทำงานอยู่ที่บ้านในกรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่ แล้วรับงานจากบริษัทในสิงคโปร์, ยุโรป, หรืออเมริกาได้สบายๆ ขอแค่มี Portfolio และทักษะภาษาอังกฤษที่ดีพอ

Q&A: คำถามที่พบบ่อยจากน้องๆ ที่อยากเข้าวงการ Digital Art

ถ้าไม่ได้วาดรูปเก่งมาตั้งแต่เด็ก จะเป็น Digital Artist ได้มั้ย?

ได้แน่นอน! พรสวรรค์เป็นแค่ส่วนเล็กๆ ที่เหลือคือพรแสวงล้วนๆ ครับ การเป็น Digital Artist ที่ดี ไม่ได้วัดกันที่ว่าใครวาดรูปสวยกว่ากันตั้งแต่เกิด แต่วัดกันที่ความเข้าใจในพื้นฐานศิลปะ (Art Fundamentals) เช่น แสงเงา, สี, Perspective, Anatomy และความขยันในการฝึกฝน หลายคนเริ่มต้นจากศูนย์และกลายเป็นศิลปินมืออาชีพได้ด้วยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอครับ

จำเป็นต้องใช้ iPad Pro หรืออุปกรณ์แพงๆ เพื่อเริ่มต้นไหม?

ไม่จำเป็นเลย! นี่คือความเข้าใจผิดที่พบบ่อยมาก อุปกรณ์เป็นแค่เครื่องมือ ทักษะสำคัญกว่าเยอะ เราสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเมาส์หนู (Mouse) ธรรมดาๆ กับโปรแกรมฟรีอย่าง Krita หรือ GIMP หรือถ้ามีงบขึ้นมาหน่อย ลองหาเมาส์ปากกา (Pen Tablet) ราคาเริ่มต้นหลักพันก็ใช้งานได้ดีเยี่ยมแล้วครับ โฟกัสที่การฝึกฝนพื้นฐานให้แน่นก่อน พอเราเก่งขึ้นและเริ่มมีรายได้ ค่อยอัปเกรดอุปกรณ์ก็ยังไม่สาย

อยากเป็น Digital Artist ต้องเรียนคณะอะไร?

มีหลายทางเลือกมากเลยครับ! คณะที่ตรงสายโดยตรงก็เช่น คณะดิจิทัลอาร์ต, คณะศิลปกรรมศาสตร์ (สาขานิเทศศิลป์, ออกแบบสื่อสาร), คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (สาขาออกแบบนิเทศศิลป์) หรือคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (สาขามัลติมีเดีย) แต่ในยุคนี้ การเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Self-Taught) ก็สำคัญไม่แพ้กัน หลายคนจบไม่ตรงสายแต่ใช้คอร์สออนไลน์, YouTube, และการฝึกฝนจนมี Portfolio ที่แข็งแกร่งและได้งานดีๆ เยอะแยะไปครับ

ทำไมต้องเลือกเรียนคณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม

เพราะที่คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม  ไม่ได้สอนแค่ทฤษฎี แต่ให้น้องๆ ได้ลงมือทำจริงตั้งแต่ปี 1! มีอุปกรณ์ครบครันทั้งห้อง Lab, Studio, Motion Capture, VR/AR พร้อมอาจารย์และพี่ๆ ในวงการเกม แอนิเมชัน และ Digital Art มาสอนโดยตรง ที่สำคัญยังมีเวทีประกวด-โปรเจกต์จริงให้สร้างผลงานใส่ Portfolio ตลอด 4 ปี และยังได้ Connection กับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมครีเอทีฟอีกด้วย

Portfolio คืออะไร? และมันสำคัญแค่ไหน?

Portfolio คือสิ่งที่สำคัญที่สุด! มันคือ ‘แฟ้มสะสมผลงาน’ ที่จะโชว์ให้คนอื่นเห็นว่าเราทำอะไรได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยหรือสมัครงาน เขาจะดู Portfolio ของเราก่อนเรซูเม่ด้วยซ้ำ Portfolio ที่ดีควรคัดเฉพาะผลงานที่ดีที่สุด (Quality over Quantity) จัดหมวดหมู่ให้ชัดเจน และแสดงให้เห็นถึงสไตล์และทักษะที่หลากหลายของเรา มันคือตัวแทนของเราในโลกครีเอทีฟเลยล่ะ

หาแรงบันดาลใจและติดตามเทรนด์ใหม่ๆ ได้จากที่ไหน?

โลกออนไลน์คือขุมทรัพย์เลย! เว็บไซต์อย่าง ArtStation, Behance, Pinterest, DeviantArt คือแหล่งรวมผลงานของศิลปินเทพๆ ทั่วโลก ลองเข้าไปดูงานเยอะๆ วิเคราะห์ว่าทำไมงานชิ้นนั้นถึงสวย ส่วนการตามเทรนด์ ให้ติดตาม Community ใน Twitter, Instagram, Discord หรือกลุ่ม Facebook ที่เกี่ยวกับ Digital Art และวงการเกม/หนัง เราจะเห็นว่าตอนนี้เขากำลังฮิตสไตล์ไหน หรือมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ เข้ามาครับ

สรุป: ก้าวแรกสู่การเป็น Digital Artist เริ่มได้ตั้งแต่วันนี้

เส้นทางสาย Digital Art ในปี 2025 และอนาคตข้างหน้าสดใสมากๆ มันไม่ใช่แค่งานอดิเรกหรือความฝันลมๆ แล้งๆ อีกต่อไป แต่เป็นเส้นทางอาชีพที่มั่นคง สร้างรายได้ดี และเปิดโอกาสให้เราได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่

สำหรับน้องๆ ที่อายุ 14-18 ปี นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นค้นหาตัวเองและฝึกฝนทักษะ ไม่ต้องรอให้เข้ามหาวิทยาลัย เราสามารถเริ่มได้เลยตั้งแต่วันนี้:

  1. เรียนรู้พื้นฐาน: เปิด YouTube สอนวาดรูปพื้นฐาน (Art Fundamentals) แล้วทำตามทุกวัน
  2. หาเครื่องมือที่ใช่: เริ่มจากโปรแกรมฟรีอย่าง Krita, Medibang Paint (สำหรับ 2D) หรือ Blender (สำหรับ 3D)
  3. ลงมือทำ: ตั้งเป้าหมายเล็กๆ เช่น วาดรูปวันละ 1 ชั่วโมง หรือปั้นโมเดล 3 มิติ ง่ายๆ สัปดาห์ละ 1 ชิ้น
  4. สร้าง Portfolio: เปิดบัญชี ArtStation หรือ Behance แล้วเริ่มอัปโหลดผลงานที่เราภูมิใจ (ไม่ต้องรอให้เพอร์เฟกต์!)
  5. หา Community: เข้าร่วมกลุ่ม Discord หรือ Facebook ของคนรัก Digital Art เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และรับแรงบันดาลใจ

พี่เชื่อว่าถ้าเรามีความชอบเป็นที่ตั้ง มีความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ และมีความกล้าที่จะโชว์ผลงานของตัวเอง โอกาสในอุตสาหกรรมครีเอทีฟก็เปิดรอเราอยู่เสมอครับ อย่ามองว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว แต่จงมองว่ามันคือ “ทักษะแห่งอนาคต” ที่เราสร้างได้ด้วยมือของเราเอง

หยิบปากกาขึ้นมา แล้วเริ่มสร้างอนาคตของตัวเองกันเลย!

 

  • DIGITAL ARTS
    สร้างงาน Art ในโลกออนไลน์ แบบไร้ขีดจำกัด
  • GRAPHIC DESIGN
    ออกแบบ UX UI สุดล้ำ ตอบโจทย์ธุรกิจยุคดิจิทัล
  • COMPUTER ANIMATION & VISUAL EFFECTS
    สร้างโลกในจินตนาการทั้ง 2D / 3D ให้เป็นจริง ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย
  • INTERACTIVE & GAME DESIGN
    ออกแบบเกมสุดมันส์ พร้อมสร้างงานแข่งขัน E-Sport ได้ตั้งแต่เรียน

>> สมัครออนไลน์ คลิกที่นี่ <<

(Visited 3 times, 1 visits today)

Related posts

รู้หรือไม่? ทำไม “การออกแบบ” ถึงจำเป็นต่อทุกธุรกิจ

P'Krish

5 คณะ สายภาษา SPU เลือกได้หลากหลายสายงาน

P'Krish

อยากเป็นผู้ประกอบการระดับ Global? สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ เลือกเรียน คณะบริหารธุรกิจ SPU

P'Krish