ว่าด้วยเรื่องของภาพยนตร์ อะไรบ้างที่การันตีว่าหนังเรื่องหนึ่งน่าดู อาจจะเป็นรางวัล Oscars หรือความนิยมในรูปแบบต่างๆ ทั้งตัวเนื้อเรื่องเองและการถ่ายทอด
ถ้าคิดไม่ออกว่าจะดูเรื่องอะไร พี่แอดมินมีมาแนะนำ กับ 6 ภาพยนตร์รางวัล Oscars ที่ห้ามพลาด! By #DekFilmSPU
มาดูกันที่เรื่องแรก กับเเรื่อง..
Parasite
เรียกได้ว่าเป็นกระแสหนักมากในช่วงที่เรื่องนี้ออกฉาย ภาพยนตร์ที่เรียกเสียงฮือฮา เพราะเป็นภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศเรื่องแรกที่ได้รับรางวัล “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดบนเวทีออสการ์ และมีเนื้อเรื่องที่เสียดสีปัญหาความเลื่อมล้ำทางสังคม โดยเล่าผ่านครอบครัวคิมที่มีฐานะยากจนและกำลังตกงาน แต่ลูกชายกลับจับพลัดจับผลูได้เข้าไปเป็นครูสอนพิเศษให้กับครอบครัวเศรษฐีที่ใช้ชีวิตต่างกันราวฟ้ากับเหว จนเป็นเหตุให้ครอบครัวคิมต้องสร้างเรื่องโกหก เพื่อให้พวกตนได้เข้ามาทำงานในครอบครัวเศรษฐี ซึ่งพฤติกรรมการหลอกลวงผู้อื่นเพื่อสูบเอาผลประโยชน์ของครอบครัวคิมนี้ก็เปรียบได้กับพฤติกรรมของปรสิตตามชื่อภาพยนตร์ Parasite นั่นเองค่ะ
Spotlight
อีกหนึ่งภาพยนตร์จากเรื่องจริง ที่ตีแผ่การทำงานของทีมนักข่าวฝีมือเยี่ยม “Spotlight” จากหนังสือพิมพ์ The Boston Globe ที่ต้องการเปิดโปงปัญหาการล่วงละเมิดเด็กโดยบาทหลวงท้องถิ่น ซึ่งก่อเหตุมาแล้วกว่า 30 ปี และมีเด็กที่ตกเป็นเหยื่อกว่า 10 ราย แต่กลับไม่มีการเอาผิดผู้กระทำ ซ้ำยังถูกปกปิดจนเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น และแน่นอนว่าตลอดการตามหาข้อพิสูจน์ของทีมนักข่าว ทางสำนักบาทหลวงก็ได้พยายามขัดขวางทุกวิถีทาง แต่สุดท้ายแล้วการสืบหาความจริงของเรื่องอื้อฉาวนี้กลับนำไปสู่การเปิดโปงถึงปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในวงการศาสนาทั่วโลกเลยทีเดียวค่ะ
The King’s Speech
เมื่อการกล่าวสุนทรพจน์ของกษัตริย์ผ่านทางวิทยุ หรือที่เรียกว่า King’s Speech ตามชื่อของภาพยนตร์นั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยปลอบขวัญประชาชนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่พระเจ้าจอร์จที่ 6 กลับมีปัญหาการพูดติดอ่าง ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของผู้นำเครือจักรภพเป็นอย่างมาก ควีนเอลิซาเบธ ผู้เป็นภรรยาจึงออกตามหาผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยรักษาอาการนี้ จนได้พบกับ Lionel Logue นักบำบัดปัญหาการพูด ที่ได้กลายมาเป็นผู้บำบัดรักษาพระเจ้าจอร์จที่ 6 ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วนั้นพระเจ้าจอร์จที่ 6 จะต่อสู้จนชนะอาการพูดติดอ่างหรือไม่ และการกล่าวสุนทรพจน์จะออกมาเป็นอย่างไร ต้องไปร่วมลุ้นด้วยกันในหนังเลยค่ะ
12 Years a Slave
อีกหนึ่งภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมที่ถ่ายทอดเรื่องราวความเจ็บปวดของแรงงานทาส จากการถูกกดขี่และลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในช่วงก่อนสงครามกลางเมือง โดยภาพยนตร์ 12 Years a Slave นั้นได้สร้างขึ้นจากบันทึกของนักดนตรีผิวสีที่เดิมทีเป็น “อิสรชน” แต่กลับถูกลักพาตัวไปขายในตลาดทาส ซึ่งทำให้เขาต้องพบเจอกับการถูกทรมานจากเจ้านายผู้โหดเหี้ยมเป็นเวลานานถึง 12 ปี จนเรียกได้ว่าแทบจะทำให้เขานั้นหมดสิ้นความหวังที่จะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระอีกครั้ง
Benjamin Button
บันทึกเรื่องราวความรักที่ไม่ธรรมดาของ Benjamin Button ผู้เกิดมาพร้อมโรคประหลาดที่ทำให้เขามีสภาพร่างกายเหมือนคนชราวัย 80 ปี และเมื่อเวลาผ่านไปแทนที่ร่างกายจะแก่ชราลงอย่างคนทั่วไป แต่ Benjamin กลับอ่อนเยาว์ลงเรื่อยๆ กระทั่งเขาได้ตกหลุมรักกับ Daisy ในช่วงวัย 40 ปี ที่สภาพร่างกายของทั้งคู่มาบรรจบในช่วงวัยเดียวกัน แต่เนื่องจากนาฬิกาชีวิตของทั้งคู่นั้นเดินสวนทางกัน จึงไม่อาจทำให้ทั้งคู่แก่ชราไปพร้อมกันได้เหมือนคู่รักอื่นๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วความรักของ Benjamin และ Daisy จะลงเอยอย่างไร และชวนให้เราอัศจรรย์ใจขนาดไหนนั้น ต้องไปติดตามกันต่อในหนังค่ะ
Forrest Gump
ภาพยนตร์ที่ซาบซึ้งตรึงใจด้วยเรื่องราวของ “Forest Gump” ชายผู้มีระดับ IQ เพียง 85 แต่กลับใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ด้วยการมองโลกในแง่ดี และการใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันโดยไม่จมอยู่กับเหตุการณ์ในอดีต แม้ว่าตัวเขาเองนั้นจะเคยผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มา ทั้งการถูกรังแกในวัยเด็กและการเข้าร่วมเป็นทหารในสงครามเวียดนาม ซึ่งนอกจากภาพยนตร์ Feel Good เรื่องนี้จะแฝงเอาไว้ด้วยข้อคิดดีๆ ในการใช้ชีวิตแล้ว ยังได้ถ่ายทอดเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ของสหรัฐอเมริกาผ่านชีวิตในแต่ละช่วงของ Forest อีกด้วยค่ะ
ถึงตัวภาพยนตร์จะเครียดไปสักหน่อย แต่รับรองว่าน้องๆ จะได้แง่คิดหลายอย่างแน่นอนค่ะ
ชอบดูภาพยนตร์ หรือสนใจและสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการสร้างภาพยนตร์
อยากเรียนด้านนี้ พี่แอดมินขอแนะนำ สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ เลยค่ะ
รับรองว่าได้เรียนกับตัวจริงและได้ฝึกกับอุปกรณ์จริงแน่นอน อ่านข้อมูลเพิ่มเติมคลิกเลย
www.spu.ac.th/fac/commarts/th/program/17/
ขอบคุณข้อมูลจาก : my-best.in.th