พี่แนน สุพรรษา ศิษย์เก่าคนเก่ง คณะศิลปศาสตร์ กับชีวิตในญี่ปุ่น

 

ฮาโหลลล !!! ชาว SPU สบายดีกันไหมคะ หลังจากที่เราร่วมมือ ร่วมใจกัน อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติกันมาสักระยะแล้ว น้องๆเรียน Online กันจากที่บ้าน เหงาหรือเปล่า?? วันนี้ พี่ Admin จะพาไปทำความรู้จักกับพี่แนน คนเก่งจากคณะศิลปศาสตร์ที่ข้ามน้ำ ข้ามทะเลไปอยู่ที่ญี่ปุ่น นู่นนนนน พร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลย….

สวัสดีค่ะ น้องๆ SPU ทุกคน

… พี่แนน สุพรรษา คำพาอินทร์ …

ศิษย์เก่า คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสื่อสารธุรกิจ

 

UploadImage
จุดประกายความชอบ ภาษาญี่ปุ่น จากความถนัดสู่ความชอบ
พี่แนน : ที่เลือกเรียนญี่ปุ่น เพราะตอนม.ปลาย มีแค่ไม่กี่สายให้เลือก ตัวเองเป็นคนที่ไม่ถนัดวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เลยเลือกสายภาษา เพราะผลลัพธ์เป็นไปในทางที่ดี ทั้งทฤษฎี และปฏิบัติ แต่ความสามารถเรายังไม่เต็มที่ พอเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย ก็เลยเลือกเรียนต่อทางนี้โดยตรง ก็คือ ศิลปศาสตร์ ภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสื่อสาร และรู้สึกว่า ตัดสินใจถูกมาก เพราะพอเป็นสิ่งที่เราชอบและพอได้ทำเราก็ทำมันได้ดี จึงทำให้มีความสุขในการเรียน ไม่รู้สึกขี้เกียจ หรือไม่อยากเรียนเลย
เล่าให้ฟังเรื่องโครงการการฝึกงานที่ญี่ปุ่น ให้น้องๆ ได้รู้จัก
พี่แนน : โครงการที่แนนเข้าร่วมตอนนี้ เป็นโครงการของคณะศิลปศาสตร์ ที่มาศึกษาต่อญี่ปุ่น ระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน ที่ จังหวัดคานากาว่า เมืองยามาโตะ ก่อนจะมาก็จะมีการปรับพื้นฐานที่โรงเรียนสอนภาษาที่ประเทศไทยก่อน สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐาน 3 เดือน จึงจะผ่านเกณฑ์คุณสมบัติเข้าร่วมโครงการได้
 
UploadImage

ชีวิตในแต่ละวันของพี่แนนที่ญี่ปุ่น

พี่แนน : ชีวิตประจำวันที่นี่ก็ ตื่นเช้าไปเรียน เลิกเรียนตอนบ่าย แล้วก็ไปทำงานพาร์ทไทม์ค่ะ  ก็ค่อนข้างจะหนักเหมือนกัน แต่ต้องทำเพราะว่าค่าเรียนทั้งหมดแนนเป็นคนรับผิดชอบเอง รวมทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วย จังหวัดคานากาว่าเป็นจังหวัดของภูเขาไฟฟูจิ และเป็นจังหวัดอันดับ 3 ที่ใหญ่ของญี่ปุ่น ที่ที่แนนอยู่ สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ทุกๆวัน ถ้าอากาศเเจ่มใส  บรรยากาศดีมากๆ ค่ะ  
การปรับตัวเมื่อต้องมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง
พี่แนน : เรื่องที่ตัองปรับตัวมากที่สุดเลยก็คือ การรับผิดชอบชีวิตตัวเองค่ะ อยู่ไทย เรามีครอบครัวที่ดูแลเราทุกๆเรื่อง  ทำกับข้าวให้เรา ค่าไฟ ค่าน้ำต่างๆ เราแทบไม่มีส่วนรู้เรื่องตรงนี้เลย อยู่นี่คือต้องทำทุกอย่างจริงๆค่ะ เรียกว่าซ้อมเป็นผู้ใหญ่เลยก็ว่าได้ ได้ฝึกความรับผิดชอบตัวเอง ได้วางแผนชีวิต การใช้จ่าย การกินอยู่ การเดินทาง เรียกได้ว่าโตขึ้นเยอะกว่าตอนที่อยู่เมืองไทย อีกเรื่องก็คือความอดทนเพราะว่าทั้งเรียนทั้งทำงานด้วย ก็เหนื่อยค่ะ กลับถึงที่พักก็ต้องรีบพักผ่อนเพื่อออมแรงไว้วันรุ่งขึ้น ในส่วนของอื่นๆ ก็เช่น เรื่องของการฝึกระเบียบวินัย การทิ้งขยะ ต้องเเยกขยะ เพราะอย่างที่เรารู้กันว่า ที่ประเทศญี่ปุ่นประชาชนเค้ามีระเบียบวินัยสูงมาก เเล้วก็เรื่องอาหารการกินค่ะสิ่งที่ชอบที่มาอยู่ญี่ปุ่นก็คือ การข้ามถนนของที่นี่ ไม่ว่าคุณจะขับรถมาเร็วแค่ไหน คุณจะต้องจอด เมื่อมีคนจะข้ามถนน การเว้นระยะตามหลังของรถ ไม่จอดทับทางม้าลาย ทุกคนเคารพกฏจราจรเป็นอย่างดี เราก็รู้สึกปลอดภัยในการใช้ชีวิต อย่างที่บอกคือ ระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่น เป็นไปโดยอัตโนมัติและไม่ค่อยมีคนฝ่าฝืนกฏ ทุกคนปฏิบัติจนกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิตประจำวัน
UploadImage
เป้าหมายต่อไปหลังจบโครงการ
พี่แนน : หลังจบโครงการนี้ แนนตั้งใจจะไปสมัครเป็นแอร์โฮสเตรส สายการบิน JAL ค่ะ เพราะตอนนี้ภาษาญี่ปุ่นของเราสามารถสื่อสารได้ดีแล้ว การที่เราได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เราก็สามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมของเค้าได้แล้ว โครงการนี้ให้อะไรหลายๆ อย่างนะคะ ทำให้เราได้มีเพื่อนต่างชาติเยอะขึ้น เรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติจากประเทศที่ไม่เคยได้รู้จักมาก่อน เราก็จะมาเจอกันที่นี่“ฝากถึงน้องๆ ที่ชอบภาษาญี่ปุ่น ว่าภาษาที่เราเรียนในคสาส เป็นเเค่แนวทางในการนำมาใช้ แต่การพูดในชีวิตจริงๆ ไม่เหมือนกัน มันแตกต่างกันมาก แต่เพราะต้องเรียนในคลาส มันจะทำให้เราเข้าใจประโยคนั้นๆ พี่อยากให้น้องๆ เวลาอยู่ในคลาส ฟังวิธีการพูดของอาจารย์เยอะๆ  แล้วนำมาฝึกพูด ตั้งใจเรียน และจดบันทึก คันจิเป็นสิ่งสำคัญ พยายามฝึกเขียน ฝึกจำบ่อยๆ จะทำให้เราง่ายขึ้นเวลานำมาใช้ค่ะ”
 
พี่ Admin ขอปรบมือให้กับความมุ่งมั่นของพี่แนนดังๆเลยค่ะ ใช้ความถนัด มาต่อยอดไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ เราชาว SPU ขอเอาใจช่วยให้ความฝันของพี่แนนประสบความสำเร็จเร็วๆนะคะ ว่าที่แอร์โฮสเตสคนสวย ^^