และแน่นอน วันนี้พี่แอดมินจะพาน้องๆ ไปรู้จักกับ
… พี่เอิร์ท ชนากานต์ จันทร์ศิริ …
ศิษย์เก่า วิทยาลัยการท่องเที่ยวและการบริการ สาขาธุรกิจการบิน
อีกหนึ่งสาวสวย คนเก่ง แห่ง SPU กับ
บทบาทพนักงานภาคพื้น Thai Airways
เรื่องเล่า….ชีวิตในรั้วมหา’ลัย
พี่เอิร์ท : ต้องบอกว่า เอิร์ทมีความฝันที่อยากจะเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินตั้งแต่เด็ก แต่พอเราได้เข้ามาเรียนจริงๆ ช่วงแรกก็มีแอบติดเพื่อน ติดเที่ยว ติดสนุก ใช้ชีวิตผิดระเบียบมาตลอด เพราะคิดว่ามันดูเก๋ ดูเท่ห์ กว่าคนอื่นที่เราสามารถแหกกฎระเบียบของสาขาฯ ได้ แต่พอเริ่มขึ้นปี 2 เทอม 2 ก็เริ่มรู้แล้วว่า ชีวิตเราต้องเริ่มจริงจังได้แล้ว ถ้าเราอยากเดินตามสายงานที่เรารัก เราเลยกลับมาตั้งใจเรียนมากขึ้น รักษากฎระเบียบ ทำตามกฎที่อาจารย์ทุกท่านเคยสอนไว้“การเรียนที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มันไม่ใช่แค่มหาวิทยาลัยเอกชน ที่จะมาเรียนส่งๆ ก็จบได้ แต่ความจริงเราเรียนหนักมากๆ ไม่ต่างจากที่อื่นเลย แค่เราเผลอรักสนุก ไม่โฟกัสการเรียน ก็อาจมีผลทำให้ผลการเรียนตกได้ง่ายๆ เพราะที่นี่โหดมาก”ส่วนเพื่อนก็จะได้เปลี่ยนกลุ่มไปเรื่อยๆ เพราะเป็นคนทำอะไรตามใจตัวเอง อย่างเช่น อยากลงเรียนวิชานี้ เวลานี้ แต่เพื่อนในกลุ่มไม่โอเค ไม่ลงเรียนด้วย เราก็จะเลือกเรียนตามที่ใจเราอยากจะเรียน แล้วเรียนคนเดียว จึงทำให้ได้เจอเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้เรารู้จักเพื่อนเยอะขึ้นค่ะ ทำให้สังคมเรากว้างขึ้น เป็นเหมือนการสร้าง Connection ไปในตัวชีวิตก้าวแรก : ทำงานอะไร…ที่ไหน สนุกแบบที่คิดไหม?
“ปัจจุบัน เอิร์ท เป็นพนักงานภาคพื้น สายการบินไทย (Thai Airways)”
พี่เอิร์ท : เราเป็นคนที่เต็มที่กับทุกเรื่อง ยกตัวอย่างตอนฝึกงาน เราไม่มีเงินเดือน แต่ก็ยังทำมันอย่างเต็มที่ จนพี่ๆ ที่สอนงานเราพูดว่า ทำงานเท่ากับพนักงานทั่วไปเลย ทั้งที่ไม่ได้เงินแต่ เราตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เพราะอยากเรียนรู้เพื่อสานฝันให้เป็นจริง พอมาถึงชีวิตในการทำงานจริง ก็ได้ใช้ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยและจากการฝึกงานมาใช้ ซึ่งมันทำให้เราสามารถเรียนรู้การทำงานได้ค่อนข้างไว มีทัศนคติที่ดีและสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ถ้าเราได้ทำงานที่เราชอบและมีความสุข มันจะทำให้เราอยากไปทำงานในทุกๆ วันค่ะ เรียกว่าตอนนี้แฮปปี้กับงานมากค่ะ 🙂 พี่เอิร์ท : จากสถานการณ์ตอนนี้ พนักงานสายการบินส่วนใหญ่จะโดนพักงานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ… แต่เราก็ไม่ท้อนะคะ คิดในแง่บวกว่า ได้หยุดงาน กลับมาดูแลตัวเอง ออกกำลังกายมากขึ้น พอเริ่มเข้าที่ก็หารายได้เสริม ทำอาหารขายแบบ Delivery ในช่วงนี้แทนงานประจำนอกจากนั้นก็ยังมีขายเจล สเปรย์ล้างมือ แมส น้ำหอม เรียกว่าขายเกือบทุกอย่างเลยค่ะ พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส นำความสามารถ ความรู้ หรือความคิดที่เรามีออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ อยู่บ้านเพื่อหยุดเชื้อ แต่ก็ต้องทำมาหากินไปด้วย “เพราะความจนมันน่ากลัว” มีอะไรทำก็ทำไปเลยค่ะ อย่าอายทำกิน ไม่มีกินน่ากลัวกว่าเยอะค่ะ… ใช้เวลาที่ได้พักงานให้คุ้มค่าและมีประโยชน์กันนะคะ