อยากรู้ไหม ?? ว่าบนเรือเค้าใช้ชีวิตกันยังไง
วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกชีวิตบนเรือสำราญสุดหรู
ที่จะโลดแล่นไปรอบโลกของสองสาว
พี่เร & พี่กวาง ศิษย์เก่าจากวิทยาลัยการท่องเที่ยวและการบริการ สาขาวิชาการจัดการบริการธุรกิจเรือสำราญ
จะมาแชร์ทุกเรื่องบนเรือให้เรารู้ !!
(พี่กวาง) นางสาวสุธาวดี งามดี
ตำแหน่ง : Embarkation เรือ Genting Dream
(พี่เร) นางสาวเรวดี ราศิริ
ตำแหน่ง : Bar waitress เรือสำราญ MV Leisure world
2 สาว ทำหน้าที่อะไรบนเรือ
กวาง : ตำแหน่ง Embarkation บนเรือสำราญชื่อ Genting Dream หน้าที่คือ การเก็บ passport ของลูกค้า ดำเนินการในเรื่องของการยื่น passport ของลูกค้าให้กับ ตม. แต่ละประเทศที่เรือผ่านหรือเทียบท่า
เร : ตำแหน่ง Bar Waitress บนเรือ MV Leisure world ทำงานเกี่ยวกับการผสมเครื่องดื่ม การบริการเครื่องดื่มแก่ลูกค้า สิ่งที่ต้องแม่นเลยก็คือ Drink list ในเมนูมีอะไรบ้าง ส่วนผสมคืออะไร รสชาดหน้าตาเป็นแบบไหน เพราะต้องอธิบายให้ลูกค้าฟัง อีกส่วนก็จะเป็นเรื่องของท่าในการเสิร์ฟ เช่น ไวน์ จะต้องโชว์ Logo ยี่ห้อ หันขวดแบบไหน ต้องเทปริมาณเท่าไหร่จึงจะเรียกว่าเหมาะสม หลักๆก็เป็นประมาณนี้ค่ะ
กวาง : ตำแหน่งนี้ ใครได้ยินก็คง งงๆ ว่ามันมีหน้าที่นี้ด้วยเหรอ ต้องเล่าก่อนว่า ตอนอยู่บนเรือ Passport จะไม่ได้อยู่กับตัวลูกค้า Embarkation จะเป็นคนจัดเก็บและตรวจสอบว่ามันชำรุดหรือเปล่า มีวีซ่าของประเทศที่เรือจะเทียบท่าไหม การทำงานตรงนี้ทำให้เรียนรู้เยอะมากๆ กลายเป็นคนละเอียดไปเลยเพราะว่าเรื่องเอกสารที่ต้องยื่นให้ ตม. แต่ละประเทศจะต้องเป๊ะ ผิดพลาดไม่ได้
ได้งานนี้ได้อย่างไรคะ
กวาง : ได้งานนี้จากตอนไปฝึกงานสหกิจค่ะ แต่งานบนเรือสำราญ “มันไม่มีหรอกคำว่า ฝึกงาน มันมีแต่คำว่า Professtional เท่านั้น” เพราะลูกค้าที่มาใช้บริการ อย่างที่ทราบก็คือมันแพง ดังนั้นเค้าจึงคาดหวังการบริการในระดับดีเลิศแน่นอน Crew ที่ให้บริการจึงต้องมีความเป็นมืออาชีพในทุกตำแหน่ง
เร : เรได้งานหลังจากจบสหกิจเหมือนพี่กวางค่ะ ถึงอยากฝากน้องๆว่า สหกิจไม่ใช่แค่งานฝึกงาน มันคือช่วงเวลาในการพิสูจน์ตัวเองในโลกของการทำงานจริงๆ หากเราตั้งใจทุกสิ่งทุกอย่างในช่วงนั้นมันส่งผลกับอนาคตของเรา
ทำไมถึงเลือกเรียนเรือสำราญที่นี่
กวาง : ช่วงที่กำลังตัดสินใจเลือกเรียนก็ยังไม่รู้ว่าควรเลือกเรียนอะไร ชอบอะไร แต่เมื่อเปิดหน้าเว็บของ SPU และเห็นว่าเป็น ที่แรกในประเทศไทย ความรู้สึกแรกคืออยากจะเข้าไปเรียนทันที ด้วยความที่เป็นสาขาที่เปิดใหม่เลยรู้สึกอยากลองเรียน แต่หลังจากที่เข้าไปเรียน บอกได้คำเดียวว่า ที่นี่ให้มากกว่าคำว่า “พื้นฐาน” การเรียนให้อะไรกับหลากหลายด้าน เปิดมุมมองให้กว้างขึ้น พอได้มาทำงานจริงๆแล้วจึงรู้ว่า มันมากกว่าพื้นฐานยังไง สิ่งที่เราฝึกปฏิบัติมันเอามาใช้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการทำคุ๊กกี้ ทำโชว์ เรียกได้ว่าครอบคลุมและช่วยเราได้มากในการทำงาน สิ่งต่างๆ ที่เรียนสามารถใช้ได้จริง เพียงแค่ว่าเราต้องปรับและเพิ่มรายละเอียดในการทำงานมากขึ้น
เร : เลือกที่นี่เพราะมี สาขาเรือสำราญ ตั้งแต่จบ ม. 6 ก็รู้ตัวเลยว่าต้องเรียนอันนี้เท่านั้น เพราะว่า ตัวเองมีความฝันอยากเดินทางรอบโลก ดังนั้นการที่เราทำงานแบบนี้จึงตอบโจทย์ทั้งความฝัน ประสบการณ์ชีวิต และในแง่ของค่าตอบแทนที่ดี
สิ่งที่เจอมากกว่า คลื่น ลม
เร : เรเป็นคนไทยคนเดียวบนเรือ แน่นอนเลยว่า อุปสรรคแรกเลยก็คือ ภาษาค่ะ ภาษาที่ต้องใช้สื่อสารเลยก็คือภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าไม่พูดก็ทำงานไม่ได้ บนเรือมีทั้งเพื่อนร่วมงาน ฟิลิปปินส์ อินโด มาเลย์ ซึ่งเค้าเก่งกว่าเราเรื่องเดียวจริงๆเลยคือภาษาเค้าได้ แต่ในเรื่องของความรู้ ทักษะต่างๆที่ต้องใช้ในการทำงานบอกเลยว่าเราเก่งกว่าเค้า ดังนั้นการที่เราจะทำงานได้ราบรื่นก็คือเราต้องฝึกภาษา อย่างตัวเองถ้าคำไหนไม่รู้ ก็จะจดไว้ หรือมันมีคำไหนที่ความหมายเดียวกันแต่สุภาพกว่า หลังเลิกงานก็จะมาเปิดดิกดู แล้วก็จำไว้ใช้
กวาง :ในการทำงานบนเรือสำราญแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องหนักและเหนื่อยบ้าง ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ เพียงต้องพยายาม ตั้งใจ และอดทน เมื่อผ่านจุดนั้นมาแล้วเมื่อมองกลับไป มุมมองความคิดจะเปลี่ยนไปเป็นความรู้สึกที่ภูมิใจในตนเอง และคิดย้อนกลับไปว่าเราผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง แต่กว่าเราจะผ่านจุดนั้นมาได้ช่วงแรกที่เริ่มทำงานปัญหาคือการปรับตัวในสังคมและเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ ทั้งยังต้องไกลบ้าน แต่เพื่อนร่วมงานและหัวหน้าก็คอยช่วยเหลือ
“อุปสรรคอีกอย่างคือ ภาษา“
ต้องขยันพัฒนาตนเอง กล้าที่จะพูดและสื่อสาร สิ่งที่ผลักดันให้พัฒนาตนเองอยู่เสมอคือไม่อยากเป็นภาระหรือตัวถ่วงในการทำงาน ด้วยสังคมการทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เราจึงต้อง Active ตนเองขึ้นเพื่อพัฒนาความสามารถให้เทียบเท่ากับคนอื่นๆ
…….. การทำงานในเรือสำราญสอนให้รู้จักพัฒนาตนเอง ขยันมากขึ้น
และใส่ใจในรายละเอียดในเรื่องของการบริการ
ทำให้ลูกค้าพึงพอใจกับการบริการมากที่สุด การมองโลกก็เปลี่ยนไปกลายเป็นคนคิดบวก
และปรับตัวในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย…..
– พี่กวาง –
ทำงานบนเรือโหดไหม ไม่ได้ลงจากเรือไปไหนเลยจริงหรือเปล่า ??
เร : ไม่ขนาดนั้น ที่เคยได้ยิน บางคนก็จะคิดว่า อยู่แต่บนเรือ ไม่ได้เห็นฝั่ง แต่จริงๆแล้ว พอเรือเทียบท่าที่ไหน หากวันนั้นเราไม่ตรงกับ Shift ของเรา ก็สามารถลงเรือไปเที่ยวบนฝั่งได้ค่ะ ไป Shopping ทานข้าว เดินเที่ยว
กวาง : ทุก 2 เดือน เรือจะมี Crew Party ให้พนักงานได้ Relax จากการทำงาน ทุกคนก็จะมาสนุกกัน แต่มีข้อห้ามอย่างเดียวเลยคือห้ามโป๊ค่ะ นอกนั้นจะดื่ม จะอะไรก็ปล่อยอิสระเลยค่ะ และทุกอย่างบนเรือ ฟรี!! หมดเลยค่ะ อาหารเครื่องดื่ม ยกเว้นแอลกอฮอร์นะคะ เวลาทำงานเราก็จะได้ทิปจากลูกค้า เท่ากับว่า เงินเดือนเราเก็บได้ทั้งหมดแทบไม่ได้ใช้เลย
เรื่องประทับใจในการทำงาน
กวาง : ตอนเรียนเราก็ไม่รู้หรอกว่า เราจะมาถึงจุดๆนี้ แต่ตอนนี้เมื่อเรายืนอยู่บนเรือ หลังเลิกงาน มองไปที่ทะเล คือมันดี มันไม่มีรถติดเลย พอนึกย้อนกลับไป ก็ภูมิใจมากๆ ชีวิตเราเปลี่ยนไปเลย จากเมื่อก่อนขึ้นรถเมล์ ตอนนี้ทำงานอยู่บนเรือ มีเพื่อนร่วมงานต่างชาติมากมาย ได้พูดภาษาอังกฤษทุกวัน
หลักการง่ายๆในการดำเนินชีวิต
เร : เพียงมีความตั้งใจ พยายาม และอดทน ไม่ว่าอะไรเราก็สามารถทำได้
ส่งต่อ Passion ให้น้องๆ
กวาง : อย่ากลัวที่จะลอง อย่าเอาเหตุผลเรื่องอายุมาเป็นข้อจำกัดในการสร้างโอกาสให้ตนเอง อายุเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการทำงาน อยากทำอะไรก็ทำ ลองให้รู้ว่าเราชอบสิ่งไหน หากคิดว่าใช่ก็ทำให้เต็มที่
เร : กล้าที่จะฝัน กล้าที่จะทำ อย่ากลัวก่อนได้ลองก่อนได้ลงมือทำ เมื่อลองแล้วพบว่าไม่ชอบก็แค่ลองใหม่ในทางที่ชอบ และเราจะค้นพบเส้นทางของเราในสักวัน