ทำกิจกรรมแล้วได้อะไร?
รุ่นพี่จากชมรม PD มีคำแนะนำ
ขวัญ สาวหน้าใสคณะนิเทศ
ผู้คนหาตัวเองเจอจากการเป็นเด็กกิจกรรม
คำถามส่วนใหญ่ของเด็กเรียนจบ ม.6 คงไม่พ้น “การค้นหาตัวเองให้เจอว่าเราอยากเรียนอะไรต่อกันแน่?” ครั้งนี้แอดมินเลยพามาเจอรุ่นพี่น่ารักอีกคนหนึ่ง ซึ่งค้นพบคำตอบนั้นและพุ่งเป้าหมายเข้าคณะที่ชอยมาอย่างแน่วแน่ จากการที่ตนเองได้ทำกิจกรรมมาตลอดและทำมาอย่างต่อเนื่อง เคยได้ยินไหมว่าเด็กกิจกรรมนั้นทำอะไรหลายอย่างมากกก และยิ่งทำเลยยิ่งทำให้รู้ว่าเราชอบอะไร เพราะเราได้ลงมือผ่านมาหมดแล้วนั่นเอง! วันนี้พี่ขวัญ – ขวัญฤดี จะมาแชร์ประสบการณ์ดีๆ ให้น้องๆ ฟังเป็นตัวอย่างกันค่ะ เรามาลองอ่านกันเลย!
พี่ขวัญ : Hello สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ ทุกคนนะคะ เราชื่อเล่นว่า “ขวัญ” หรือ ขวัญฤดี วงค์ภาษ เรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยศรีปทุมค่ะ จบจากโรงเรียนเทพศาลาประชาสรรค์ จ.นครสวรรค์ ค่ะ ปกติแล้วขวัญเป็นคนเรียบร้อยพูดน้อยมั้งคะ (หัวเราะ) ขวัญจะเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมนะ เรียกว่าเป็นเด็กกิจกรรมมาตั้งแต่มัธยมเลยค่ะ คือไม่ชอบทำให้ตัวเองว่าง เพราะกลัวว่าจะฟุ้งซ่าน! แฮ่ๆ
การเป็นเด็กกิจกรรม
ทำให้เราทำอะไรหลายอย่าง
และค้นหาตัวเองจนเจอ
พี่ขวัญ : อย่างที่บอกว่าขวัญชอบทำกิจกรรมมาตลอดตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว เพราะขวัญรู้สึกว่ามันก็เหมือนกับการที่เราได้ลองเรียนรู้ก่อนที่จะเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยจริงๆ สิ่งนั้นเลยทำให้ขวัญได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร และอยากจะเรียนอะไร ขวัญเลยเลือกที่จะเรียนคณะนิเทศศาสตร์ เพราะเราชอบทั้งงานเบื้องหน้าและเบื้องหลัง พอเข้ามาเรียนจริงๆ ขวัญก็ได้เรียนรู้งานทั้งสองด้าน ได้ทำงานเบื้องหน้าและได้เรียนรู้ทั้งกระบวนการของการทำงานเบื้องหลังควบคู่กันไปด้วย แถมยังได้ออกไปทำงานจริงๆ ซึ่งมันดีมากๆ ถ้าขวัญเรียนจบหรือจะออกไปทำงานจริงๆก็คงไม่กังวลใจเลย เพราะที่ ม.ศรีปทุม ได้ฝึกฝนขวัญให้ลงสนามและทำงานจริงๆ มาแล้ว ตอนนี้ขวัญคิดว่าคณะนิเทศศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมตอบโจทย์ที่สุดแล้วค่ะ
สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตมหาลัย
คือเราต้องรับผิดชอบตัวเองนี่แหละ
พี่ขวัญ : จุดที่ยากที่สุดในการใช้ชีวิตในมหาลัยของขวัญก็คือ “เรื่องเวลาและความรับผิดชอบ” ค่ะ ตอนขวัญอยู่ปีหนึ่ง ขวัญเรียน 9 โมงเช้า ขวัญต้องมาถึงมหาลัย 8 โมงแล้ว แต่พอเริ่มอยู่ไปสักพัก เรามีเรียน 9 โมง แต่ก็เริ่มตื่น 9 โมง จนมีวันหนึ่ง ขวัญเรียน 9 โมงนี่แหละ แต่เราดันไปสาย 5 นาที ขวัญเลยไม่ได้เข้าเรียนวิชานั้นเลย เพราะครูล็อคประตูห้องไปแล้ว แถมบังเอิญวันนั้นเป็นวันที่ต้องพรีเซนต์งาน 10 คะแนน ขวัญก็ทำมาเสร็จแล้วนะแต่อดได้คะแนนเพราะมาสายนี่แหละ อันนี้คือตัวอย่างที่ไม่ดีนะคะทุกคนอย่าทำตามเลย (หัวเราะ) ซึ่งพอหลังจากเหตุการณ์นั้นมาขวัญก็พยายามเป็นคนตรงต่อเวลามากขึ้น และซีเรียสกับเรื่องเวลาเอามากๆ จริงๆ เรื่องของเวลามันควรมาคู่กับเรื่องของความรับผิดชอบอยู่แล้วเนาะ ขวัญเลยอยากเล่าเรื่องนี้เพื่อป็นอุทาหรณ์ เตือนใจน้องๆ ที่อยู่มหาลัยหรือกำลังจะเข้ามหาลัยไว้ว่า ความรับผิดชอบและเรื่องการตรงต่อเวลานั้นสำคัญกับเรามากแค่ไหน ใครรู้สึกว่ายาก ก็ไม่ต้องกังวลนะคะ ลองค่อยๆ ปรับตัวแบบขวัญก็ได้
ถ้าเราชอบ
เราก็ต้องสนุกกับสิ่งที่เราเลือก
นั่นแสดงว่าเรารักสิ่งนั้นจริงๆ
พี่ขวัญ : สำหรับขวัญนะ เรื่องเรียนไม่ใช่เรื่องยากในชีวิตมหาลัยเลย เพราะขวัญมีทัศนคติที่ว่าถ้าเราเลือกแล้วแสดงว่าเราชอบ ในเมื่อเราชอบเราก็ต้องสนุกกับสิ่งที่เราเลือกได้ค่ะ อย่างขวัญๆ ชอบเต้นมาก แม้จะไม่ได้เก่งมากแต่มันก็คือสิ่งที่ขวัญชอบ ตอนมัธยมขวัญได้ลงประกวดเต้นวงดนตรีลูกทุ่งค่ะ พอเข้ามหาวิทยาลัย ขวัญก็ไม่ได้ทิ้งสิ่งที่เรารัก และได้เข้ามาอยู่ในชมรม Performing Dance & Drama หรือเรียกสั้นๆว่า “PD” จริงๆ แล้วต้องอธิบายก่อนว่าชมรมนี้ไม่ได้มีแค่การเต้นอย่างเดียวนะคะ เพราะเรามีทั้งการแสดง ร้อง เต้น ละคร เบื้องหน้า เบื้องหลัง คือมีครบเลยค่ะ ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบด้านนี้มากๆ บอกเลยว่าเป็นชมรมที่ปั๊วๆ ปังๆ สุดๆ เลยค่ะ ที่สุดคือขวัญและเพื่อนๆ พี่น้องในชมรมมักจะได้รับโอกาสดีๆ ได้ไปทำการแสดงโชว์ให้กับทางมหาวิทยาลัยบ่อยๆ เช่น งานปฐมนิเทศ งานครบรอบมหาวิทยาลัย และงานรับน้อง ซึ่งตรงนี้ถือเป็นเวทีให้เราได้แสดงความสามารถ โชว์ฝีมือและฝึกฝนความชอบของเราได้อย่างเต็มที่ด้วย
ชมรม PD ที่เป็นมากกว่าชมรม
เราเจอรุ่นพี่ที่คอยซัพพอร์ตความฝันรุ่นน้อง
พี่ขวัญ : ตั้งแต่วันแรกที่ขวัญได้เข้ามาอยู่ในชมรม พูดตรงๆ เลยว่าท้อมากกกก เพราะเพื่อนๆ และรุ่นพี่ทุกคนคือเต้นเก่งกันหมด แต่ขวัญคิดว่าไม่เป็นไร ความขวัญอ่ะเนอะ (หัวเราะ) คือเป็นคนที่เลือกอะไรแล้วจะไม่ยอมถอยออกมาแน่นอน เลยเลือกที่จะฝึกฝนตัวเองมากกว่า จนปัจจุบันนี้ขวัญก็ยังเต้นไม่เก่งอยู่เหมือนเดิม (หัวเราะ) เอ้าล้อเล่น! ตอนนี้ก็พัฒนาขึ้นมาแล้วล่ะ
อย่างขวัญเนี่ย…อยู่ชมรมนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่ง ได้รับโอกาสดีๆ มาจากชมรมนี้มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการได้ร่วมงานกับพี่ศิลปินหลายๆ คน เช่น พี่ปุยฝ้าย AF, พี่แบล็คแจ็ค, นักแสดงจากค่าย GMM Grammy เอาจริงๆ คือเยอะมากเยอะกว่าที่ขวัญบอกอีก ซึ่งขวัญได้ทำงานเหล่านี้ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วนะ และชมรม PD ก็สอนอะไรให้ขวัญเยอะมาก อย่างเรื่องความอดทน การมีน้ำใจต่อกัน นั่นเพราะพวกเราอยู่กันเหมือนครอบครัว มีรุ่นพี่คอยช่วยเหลือรุ่นน้องตลอดค่ะ จนตอนนี้ขวัญพูดได้เต็มปากเลยค่ะว่าภูมิใจที่สุด! รักชมรม PD มากๆ เลยนะคะ (เยิฟ)
เราเปลี่ยนความกลัว
เป็นความกล้า
พี่ขวัญ : จริงๆ แล้วขวัญเป็นคนไม่ค่อยกล้าแสดงออกเลยนะ แต่เป็นคนที่ชอบเรื่องของการแสดงมาก ซึ่งมาเรียนตอนแรกขวัญไม่กล้าพูดกับใคร ไม่กล้าแสดงละครเลย อายมาก เป็นคนพูดเสียงเบาๆ ไม่ชัดเจนกับคำพูดตัวเองเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ทำให้ขวัญเปลี่ยน คือขวัญได้เรียนการแสดง และเวลาเรียนจะมีการ Workshop ละลายพฤติกรรมให้เรา เลยทำให้ขวัญกล้าขึ้นมาบ้าง และอีกอย่างเวลาขวัญเห็นใครพูดและพูดไม่ชัดเจนจะรู้สึกอึดอัด ทำให้เราคิดว่าคนอื่นคงรู้สึกแบบนั้นกับเราแน่ๆ ขวัญเลยเปลี่ยนวิธีการพูดการสื่อสาร จนตอนนี้ก็ดีมากเลยค่ะ
เพราะความฝันนี่แหละ
ทำให้เราเติบโต
พี่ขวัญ : ขวัญมีความฝันนะ…ฝันของเราคืออยากเป็นนักแสดงค่ะ ตอนนี้ก็พอมีผลงานอยู่บ้าง แต่ยังไม่ได้มีชื่อเสียงหรือโด่งดัง แต่หากเราก็ได้โอกาส ขวัญก็ตั้งใจที่จะลงมือทำให้เต็มที่แน่นอน! เรียนจบไปขวัญคงอยากทำงานอะไรก็ได้นะที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจและเป็นอิสระ หรือไม่ก็คิดอีกเส้นทางหนึ่งไว้ คืออยากลองทำธุรกิจเป็นของตัวเองไปเลยค่ะ แต่ไม่ว่ายังไง สุดท้ายขวัญอยากให้น้องๆ ทุกคนที่กำลังมองหาสิ่งใหม่ๆ อยู่ ได้ลองค้นหาตัวเองทำกิจกรรมให้เยอะๆ แล้วลองมาดูที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมดู มาเลือกในสิ่งที่ใช่และลงมือทำในสิ่งที่เรารักและชอบ แล้วทุกอย่างจะตอบโจทย์เราเอง ส่วนใครที่อยากติดตามกัน หรืออยากติดต่อเรื่องงาน ก็สามารถติดตามกันผ่านทาง IG : khwanruedee_ นะคะ ใครที่อ่านจบ ก็ขอให้ได้ข้อคิดดีๆ กันไปบ้าง ขอบคุณทุกคนเลยค่ะ
แอดมิน : และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของพี่ ขวัญ – ขวัญฤดี เด็กกิจกรรมที่ทำทุกสิ่ง จนได้เจอกับความชอบและมุ่งมั่นที่จะทำต่อไป เพราะรู้แล้วว่าเรารักที่จะทำอะไร ส่วนน้องๆ คนไหนที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอลองใช้วิธีของพี่ขวัญอาจจะเจอสิ่งที่เรารักก็ไ้ด้นะ!