ตั้งโอ๋ ณัฐวัฒน์ ไตรสมบูรณ์ (OCM)
สวัสดีครับ ชื่อ ณัฐวัฒน์ ไตรสมบูรณ์ ครับ ชื่อเล่นชื่อ ตั้งโอ๋
อยู่สาขาการออกแบบสื่อสารออนไลน์ หรือ OCM คณะนิเทศศาสตร์ครับ
อาจารย์นิเทศเป็นกันเองจริงไหม?
อาจารย์มีความเป็นกันเองดีครับ พูดคุยสนุก แล้วก็ไม่ตึงเครียดครับ ส่วนอาจารย์ที่เป็นที่หนึ่งในใจก็จะเป็น อาจารย์นิด ครับ เพราะว่าเขาจะค่อนข้างดูแลเรา แบบด้วยความที่เขาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาด้วย แล้วก็เขาจะดูแลเราเหมือนลูกเลยเวลามีปัญหาอะไร สงสัยอะไร ก็สามารถติดต่อหรือโทรไปถามเขาได้ เขาก็จะช่วยครับ
รีวิววิชาที่ชอบสักนิด
วิชาที่ชอบก็เป็น เอ่อ… จำวิชาไม่ได้ (หัวเราะ) แต่ว่าจะเกี่ยวกับการคิดคอนเทนท์หรือเขียนบทความอะไรพวกนี้ เพราะว่า เป็นคนชอบเขียน ชอบเล่าเรื่องราว แล้วก็ยิ่งถ้าได้โจทย์ที่ทำเกี่ยวกับเรื่องที่ตัวเองชอบก็จะรู้สึกดีมากๆ เพราะว่า เหมือนเราได้แสดงความชอบของเราออกมาบรรยายให้คนอื่นได้เห็นครับ
จัดสรรเวลาในการเรียนให้ดี
อย่างแรกเลยก็ การมาเรียนให้ทันเป็นอะไรที่สำคัญมาก เพราะว่า ก่อนอื่นถ้าเรามาสายเนี้ย ก็จะเรียนไม่รู้เรื่องนะครับ ก็..คำนวณเวลาครับว่า อย่างใหม่ๆ ตอนแรกเราอาจจะยังไม่รู้ว่าเราใช้เวลาเดินทางนานแค่ไหน ก็ไปถึงให้ไวก่อน แล้วก็ค่อยๆดูว่ารถมันติดมั้ย อะไรอย่างนี้ อย่างของพี่ จากคอนโดมามหาวิทยาลัยถ้ารถไม่ติดเลยใช้เวลา 15 นาที แต่ถ้าเซฟๆ ไว้ เอาชั่วโมงนึงดีกว่า ก็จะตื่นมาแล้วก็ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็แต่งตัวออกมาเรียน เสร็จแล้วก็เข้าเรียนใช่มั้ยครับ การจัดสรรก็ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นเรียนวิชาอะไรบ้าง แล้วก็เตรียมให้พร้อมว่าเขาจะสอนอะไรหรือแบบเอาอะไรไปจดครับ หรือถ้าขี้เกียจพกสมุดหรือขี้เกียจพกอะไรก็พกแท็บเล็ตไปหรือว่าจดในมือถือก็ได้ เพราะว่านี่ก็เป็นคนไม่ได้จดในมือถือเหมือนกันก็จดในแท็บเล็ต
อุปกรณ์ & เครื่องมือ ต้องใช้อะไรบ้างสำหรับสาขาการออกแบบสื่อสารออนไลน์
อย่างของสาขาพี่จะเรียนเกี่ยวกับพวกทำคอนเทนท์ แล้วก็อาจจะมีพวกทำกราฟิกหรือวีดีโอมานิดหน่อย ฉะนั้น อุปกรณ์ที่สำคัญของสาขานี้ก็จะเป็น คอมพิวเตอร์ครับ ซึ่งตัวเครื่องคอมเนี้ยมีเพียงพอกับคนที่เรียนอยู่แล้วเพราะว่าเขาจัดสรรไว้พอดี สเป็คก็แรงดีนะครับ ไม่มีค้าง ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ส่วนของตัวพี่เลือกซื้อโน้ตบุ๊คเอามาเรียนเอง แล้วก็แบกมาเรียนเองดีกว่า เพราะว่า มันสะดวกกว่าแล้วก็เรารู้สึกว่าเราจะได้ไม่ต้องมีปัญหาตอนเก็บไฟล์ เพราะอย่างถ้ามาเรียนคอมที่มหาวิทยาลัยมันก็ดี แต่ว่าเราอาจจะต้องวุ่นวายนิดนึงตอนเรื่องจัดไฟล์ เพราะว่าเดี๋ยวไปปนกับใคร สมมติไฟล์หายก็ต้องมานั่งหา เราก็เลยรู้สึกว่าเซฟดีกว่า หรือถ้าใครที่ไม่สะดวกซื้อคอม ซื้อโน้ตบุ๊ค ก็สามารถซื้อแฟรชไดร์ฟหรือว่าเอเทอร์นอล ฮาร์ดดิสก์ได้ เอามาเซฟไฟล์เป็นของตัวเอง แต่ส่วนตัวมองว่าโน้ตบุ๊คตัวเองสะดวกใจกว่า ครับ
รุ่นพี่สาขานี้ใจดีไหม??
รุ่นพี่ใจดีครับ เพราะว่าของสาขาพี่เป็นสาขาเปิดใหม่ พี่ก็จะเป็นรุ่นที่ 2 ก็คือจะมีรุ่นพี่แค่รุ่นเดียว แล้วเหมือนกับว่ารุ่นพี่รุ่นแรก ด้วยความที่สาขาพี่สาขาเปิดใหม่เนี่ย เขาก็จะเอารุ่นพี่ประมาณ 20 กว่าคน ก็จะไม่เยอะมาก ทำให้เรามีโอกาสได้ทำความรู้จักกับรู้พี่เยอะใกล้ชิด เขาก็จะรู้จักเราแบบทั่วถึง ก็จะมีคนที่สนิทบ้าง เพราะอาจจะรู้จักมาก่อนเข้ามหาลัยอยู่แล้ว มีอะไรก็สามารถปรึกษาเรื่องงานกันได้ แต่ว่าส่วนใหญ่ที่เรียนก็จะไม่ปรึกษางาน จะปรึกษาเฉพาะที่เป็นโปรเจกต์ใหญ่ แต่ก็คุยเล่นหรือไปเที่ยวกันครับ
เพื่อนเราเยอะไหม เป็นไงบ้าง?
ด้วยความที่สาขาพี่เป็นสาขาใหม่ด้วยอย่างที่บอกตอนแรก รุ่นพี่ก็จะน้อย รุ่นเราก็จะน้อย แต่อาจจะเยอะขึ้นมาหน่อยนิดนึง ฉะนั้นเพื่อนก็จะรู้จักกันหมดเลย ก็คือ 1 ห้องเรียนบางสาขาเขาจะต้องแบ่งเป็นเซคกัน แบ่งกลุ่มเรียนเพราะว่ามันจะไม่พอ แต่ของสาขาพี่ รุ่นพี่ 1 รุ่นก็จะพอกับ 1 ห้อง ฉะนั้นเราก็จะเจอหน้าเพื่อน มันก็จะอารมณ์เหมือนตอนเรียนมัธยม ก็จะรู้จักกัน ก็จะมีสนิทกัน คือจะบอกว่าไม่สนิทก็ไม่ได้หรอก อาจจะสนิทมากสนิทน้อย คุยมากคุยน้อย เพราะว่าจะมีผู้ชายผู้หญิงอะไรประมาณนี้ครับ ก็จะค่อนข้างเป็นกันเอง จะไม่ค่อยเกร็งเท่าไหร่ เพราะว่าในรุ่นคนน้อย เรียนเสร็จก็อาจจะมีไปนั่งเล่นที่ลานกว้าง หรือแบบเรียนเสร็จบางคนก็จะชวนไปเที่ยว ไปกินข้าวกัน ใครว่างก็ไป ส่วนใหญ่ก็จะอยู่อย่างนี้แหละครับ ถ้าไม่มีโควิดนะ (หัวเราะ) อันนี้ต้องเข้าใจก่อนที่พูดนี่คือยังไม่ได้พูดถึงช่วงโควิด ก็จะไปนั่งเล่น ฟังเพลง นั่งคุย นั่งเม้าส์มอยอะไรกันอย่างนี้แหละครับที่ลานหูกวาง ส่วนใหญ่เด็กที่นี่จะนั่งกันที่นี่ หรือบางทีฝนตกก็จะไปนั่งเล่นกันใต้ตึก หรือบางทีนี่ถึงขั้นนั่งกันถึง 2 – 3 ทุ่มเลย จะเป็นฟีลใครกลับก่อนก็ค่อยๆ แยกไป บางคนกลับทางเดียวกันก็รอกลับพร้อมกันเลย อย่างของพี่ตอนสมัยยังไม่มีโควิดก็จะกลับพร้อมเพื่อนคนนึง เพราะว่าเขากลับทางเดียวกัน ก็นั่งมอเตอร์ไซค์กลับไปด้วยกัน ก็คือแบบรอกัน วันไหนเพื่อนกลับเร็วเราก็กลับเร็วด้วย หรือวันไหนแบบทุกคนยังไม่รีบหรือเลิกเรียนเร็ว เขาก็จะเบื่อๆ เขาก็จะมานั่งเล่นกันครับ ก็จะคุยกันหมด ไม่ว่าจะคุยเรื่องการบ้าน คุยเรื่องงาน หรือว่าจะคุยเล่นอะไรมีหมดเลย
ชอบบรรยากาศในมอไหม?
ผมว่าด้วยความที่มหาลัยเรามันถือว่าไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้มันกำลังพอดี รู้สึกว่ามันไม่ได้ใหญ่จนเกินไป ทำให้เด็กหลายๆ คณะมีโอกาสได้รู้จักกัน เพราะว่าเวลาเขาไปนั่งเล่นกันก็อาจจะมีแบบกลุ่มเพื่อนคนนู้นมานั่งคุยกันอะไรอย่างนี้ ซึ่งพอมันไม่ใหญ่เนี่ย มันก็สะดวกต่อการเดินเรียน อย่างสมมติว่าเราจะปริ้นส์เอกสารหรือจะปริ้นส์งานเนี่ย ถ้าเป็นมหาลัยบางทีที่เขาใหญ่เนี่ย เขาก็จะต้องแบบขับมอเตอร์ไซค์กันเลย แต่เหมือนของเราก็จะง่ายหน่อย ก็จะเดินไปนิดเดียวก็ถึงแล้ว แล้วด้วยความที่ที่นี่มันมีค่อนข้างครบ พวกร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร คาเฟ่ ก็คือเราสามารถมากินข้าวกินอะไรที่นี่ได้เลยครับ รู้สึกว่าบรรยากาศมันโอเค
สะดวกขึ้นเพราะมีรถไฟฟ้าหน้ามอ
การเดินทางใช่มั้ยครับ อย่างของพี่เส้นทางที่พี่มาเรียนแล้วกัน มันจะไม่มีรถไฟฟ้า ก็นั่งรถตู้ 2 ต่อ จากหน้าคอนโดไปต่อตรงงามวงศ์วานแล้วก็ต่อมาถึงมหาลัยเลย ส่วนเรื่องการเดินทางถ้าจะไปเที่ยวหรือจะไปไหน ช่วงนี้ก็จะสะดวกหน่อยครับ เพราะว่ารถไฟฟ้าเปิด มหาลัยเราเดินไปก็ถึงหน้ารถไฟฟ้าเลย จะไปสยาม ไปเซ็นทรัล ไปอะไรมันสะดวกสบายหมดครับ ก็ถือว่าการเดินทางมาก็อาจจะลำบากเรื่องรถตู้นิดนึง อาจจะมีรถติด แต่ถ้าเราจะเที่ยวหรือไปหาใครต่อก็ค่อนข้างสะดวก หรือจะเข้าเมืองก็สะดวกเพราะว่ามีรถไฟฟ้าครับ
ยูนิฟอร์มในสไตล์นิเทศศาสตร์
ก็มีคิดถึงนะครับ แต่อันนี้ต้องพูดตรงๆ ว่าช่วงไหนที่ต้องใส่บ่อยก็จะเบื่อ แต่ช่วงไหนพอมันไม่ได้ใส่มันก็รู้สึกแบบ…มองมันแขวนอยู่ที่ราวแล้วเราก็แบบจะได้ใส่รึเปล่า (หัวเราะ) ซื้อมาจนไซส์เราจะเปลี่ยนแล้วก็ยังไม่ได้ใส่สักทีอะไรอย่างนี้ เพราะว่าอย่างอันนี้ต้องเกริ่นก่อนว่า ของคณะนิเทศศาสตร์ ที่ศรีปทุมเนี่ยเขาไม่ได้บังคับเรื่องชุดนักศึกษา ส่วนมากเราก็จะใส่ชุดไปรเวทมามหาลัยอะไรอย่างนี้ ตามที่เหมาะที่ควร ส่วนอย่างบางสถานการณ์ก็อาจจะแบบเป็นพิธีจริงจังหน่อย ก็อาจจะต้องใส่ชุดนักศึกษามาเช่นแบบ สอบหรือว่าเข้าร่วมพิธีต่างๆ เวลาทำกิจกรรมหรือว่าบางทีไปทัศนศึกษาก็จะใส่ชุดนักศึกษาไปกันครับ ก็จะ 80% เลยที่ใส่ชุดไปรเวท กลายเป็นว่าทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสได้ใส่ชุดนักศึกษานะจะต้องถ่ายรูป เพราะรู้สึกว่าไม่ค่อยได้ใส่ (หัวเราะ) จะต้องถ่ายรูปเก็บไว้ครับ
ช่วงเป็นเด็กใหม่ ปี 1 ปรับตัวยากไหม?
ก็ตอนที่มาเป็นนักศึกษาที่นี่ใหม่ๆ เลยใช่มั้ย…โห ด้วยความที่มันไม่คุ้นสถานที่ด้วย ก็เอาตรงๆ คือทุกอย่างดูตื่นเต้นและน่าสนใจไปหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นแบบเพื่อน สถานที่ อย่างพี่จะชอบมากตอนอยู่ปี 1 ชอบไปนั่งเล่นที่ห้องสมุดเพราะว่าห้องสมุดที่นี่ใหญ่มากแล้วก็แอร์เย็นสบาย มีที่นั่ง บางทีก็แอบไปงีบบ้างหรือเล่นมือถือบ้าง ส่วนเรื่องเพื่อนหรือรุ่นพี่ก็เป็นเรื่องปกติ เราเข้ามาเรายังไม่รู้จักใคร เราก็แบบได้ทำนู่นทำนี่ ได้คุยกัน อย่างของพี่เนี่ยมีโอกาสได้ไปประกวดดาวเดือน อันนี้นก็จะเป็นความสนุกอีกอย่างนึง เป็นกิจกรรมได้แบบซ้อมกัน ได้แบบกลับบ้านดึก ก็สนุกดีครับ ก็ได้ตำแหน่งเดือนคณะนิเทศศาสตร์ ปี 2018 มา แล้วนอกจากความสนใจในตัวสาขาแล้วความชอบของพี่ที่เป็นงานอดิเรกคือพี่สนใจในการเป็นนักแสดง พี่ก็เลยไปทำกิจกรรมกับเด็กสาขาการแสดง เพราะว่าเขาเปิดรับคนมาเล่นละครเวที พี่ก็เลยไปสมัครตั้งแต่ปี 1 เลย ก็มีโอกาสได้เล่นละครเวที ก็ทำให้ได้รู้จักเพื่อนต่างสาขาแล้วก็อาจารย์ต่างสาขามากขึ้นด้วย ก็เป็นประสบการณ์ที่สนุกดีครับเพราะว่าบางทีเราอาจจะเรียนอยู่กับสาขาตัวเอง อาจจะแบบเริ่มเบื่อบรรยากาศเดิมๆ แล้ว ลองไปหากิจกรรมอะไรทำบ้างก็ได้เจออะไรใหม่ๆ มากขึ้นครับ
ระหว่างการเรียนมีอุปสรรคอะไรบ้าง?
จริงๆ คือด้วยความที่ อย่างเรามาเรียนใช่มั้ยครับ มันก็จะมีวิชาที่เป็นสาขากับวิชาที่ต้องเรียน บังคับเรียน อย่างพี่เป็นคนไม่เก่งเลข ไม่เก่งอังกฤษ เข้ามาก็จะเครียดนิดนึง แต่ว่าเลขเนี่ยจะเจอแค่เทอมเดียว ก็พยายามสู้ๆ ไป คืออุปสรรคของพี่ก็จะเป็นวิชาที่ไม่ถนัด แต่มันก็เป็นเรื่องปกตินะเจอแค่เทอมเดียวแล้วก็ผ่านไป อาจจะเป็นวิชาที่เราไม่ถนัดเพราะว่าคนเราก็จะมีความถนัดเฉพาะด้าน อย่างพี่เป็นคนไม่ถนัดวิชาการถ่ายรูปเพราะว่าคำนวณอาจจะคำนวณเรื่องค่าแสงไม่เก่ง แต่เราอาจจะไปเก่งเรื่องวิชาที่เกี่ยวกับทำกราฟิกวิชาที่ทำอะไรในคอมประมาณนั้น ก็อย่าเรียกว่าอุปสรรคเลยครับเรียกว่าปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่เราต้องเจอ เพราะว่าเวลาเราเรียนมันจะมีผสมไปหมดเลยวิชาที่ถนัดและไม่ถนัด ซึ่งเราก็จะผ่านไปได้ด้วยการ อย่างแรกเลยช่วยเหลือตัวเองแล้วก็ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหว ลองปรึกษาเพื่อนหรือถ้าวิชาไหนไม่ไหวจริงๆ เราสามารถปรึกษาอาจารย์ ให้เขาช่วยแนะนำได้ เพราะว่าอาจารย์ที่นี่ค่อนข้างเป็นกันเอง เวลาเราไม่เข้าใจอะไรก็ถามตรงๆ ได้เลย ไม่ต้องไปเกร็งว่าเขาจะดุจะด่ารึเปล่าอะไรอย่างนี้ เพราะว่าอาจารย์ของคณะที่นี้เขาชอบให้เด็กถาม ให้เด็กสงสัยได้ไม่ผิด ถามไปเลย อย่าไปแบบไม่ถามแล้วทำไม่ได้ แล้วมาได้คะแนนน้อยอย่างนี้ครับผม
โควิดกับการปรับตัว
ส่วนตัวรู้สึกว่า โควิดเป็นโรคที่จะอยู่กับเราตลอดไปเลย แต่ว่าอันนั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือเราจะปรับตัวยังไงกับมัน เพราะว่าในอดีตเนี่ยมันก็มีโรคหลายๆโรคที่เคยเป็นโรคร้ายแรงที่แบบอันนี้ถือว่าใหม่มากที่คนอาจจะไม่ชิน ทำให้ติดและเสียชีวิตกันบ่อย เพราะว่าด้วยความที่ยารักษาโรคหรือเทคโนโลยีอะไรมันยังไม่ค่อยถึงด้วย ก็เลยรู้สึกมองว่าโควิดตอนนี้มันก็ยังถือว่าใหม่สำหรับเรา และในอนาคตถามว่ามันหายไปมั้ย มันไม่หายไปหรอก มันไม่มีทางหายไปได้ แต่มันขึ้นอยู่ว่าเราจะปรับตัวยังไง เราจะฉีดวัคซีน หรือว่าอีกหน่อยอาจจะมีเป็นยาต้าน ก็ในอนาคตหวังโควิดก็จะเป็นแค่โรคที่แบบเป็นแล้วก็ไปซื้อยาที่ร้านขายยา แต่อันนั้นมันก็ต้องขึ้นอยู่กับเวลาแล้วก็วิทยาทางการแพทย์ด้วย ฉะนั้น ณ ตอนนี้ในวันที่มันยังไม่ถึงขั้นนั้น ที่มันยังรู้สึกว่ายังเป็นโรคที่ค่อนข้างอันตรายอยู่ เราก็อยากให้ทุกคนเนี่ยดูแลตัวเอง ก็ใส่แมสก์แล้วก็ล้างมือ หรือว่าเลี่ยงที่จะเจอผู้คนเยอะๆ ถ้าไม่จำเป็นหรือว่าถ้าไม่ต้องออกไปไหนเลยอยู่บ้านได้ก็ดีครับ เพราะว่าตอนนี้จากที่เห็นนะเริ่มมีวัคซีนอะไรใหม่ๆเข้ามาแล้ว ตอนนี้คนในประเทศไทยเริ่มได้รับวัคซีนมากขึ้น ร่างกายเราก็จะมีภูมิคุ้มกันที่มากขึ้นในอนาคต ซึ่งมันก็จะดีขึ้นตามลำดับในอนาคต แต่อย่างที่บอกอันนี้อยากจะย้ำคือ มันดีขึ้นแน่แต่กว่าที่จะถึงตรงนั้นอยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพให้ดีก่อนตอนนี้ แล้วเดี๋ยวมันก็จะดีขึ้น
ฝากถึงน้องรุ่นต่อไปที่สนใจในคณะนิเทศศาสตร์
สำหรับคนที่สนใจในคณะนิเทศนะครับ บางคนอาจจะยังมีความเข้าใจว่าจบไปไม่มีงานทำ เพราะว่าหลายคนอาจจะแบบงงๆ อยู่กับคณะนี้ว่ามันคืออะไรยังไง ซึ่งอันนี้ขอพูดตรงๆ ในฐานะเด็กนิเทศแล้วกัน ไม่ว่าคุณจะเรียนอยู่คณะไหน ถ้าคุณไม่ตั้งใจเรียน หรือปล่อยปละละเลย แล้วจบไปไม่มีความกระตือรือร้น คุณเรียนคณะไหนคุณก็ตกงานได้ครับ อันนี้พูดไว้ก่อนเลยทุกคณะมีสิทธิ์ตกงานครับ ไม่ว่าจะเป็นคณะวิชาการอะไรเอย ถ้าคุณไม่ตั้งใจเรียน อย่าไปถึงขั้นตกงานเลยครับ คุณก็จะเรียนไม่จบครับอันนี้
แต่ผมเชื่อคนที่ตั้งใจเรียน แล้วก็หาตัวเองเจอ มีความสามารถ การเรียนนิเทศไม่ใช่เรื่องแย่เลยครับ เพราะว่าหลายๆ คนที่จบสาขานี้ไป จบคณะนี้ไปไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยไหนนะก็สามารถมีหน้าที่การงานที่ดีได้ ถ้าคุณมีความตั้งใจ มีความกระตือรือร้นในการทำงาน ฉะนั้น อยากให้คนที่สนใจในคณะนี้ อยู่ในด้านนี่จริงๆ ลองมาเรียนดูครับ ไม่ใช่เรื่องแย่ครับ อย่างของพี่ประสบการณ์โดยตรงเลยก็คือเข้ามาคณะนิเทศตอนแรก ก็คือรู้แหละว่าจะมาเรียนนิเทศ อาจารย์เขาก็เอาโปรชัวร์ให้ดู เขาถามว่าสาขาไหน เราก็แบบ..เออว่ะสาขาไหนดีวะ (หัวเราะ) มันจะมีเป็นชอยซ์ซึ่งตอนแรกก็แอบสับสนเหมือนกันว่าจะเรียนสาขาไหนดี สุดท้ายเราก็เลยเลือกที่จะเรียนสาขา OCM ก็คือสาขาที่เรียนอยู่เพราะว่ามันเกี่ยวกับด้านออนไลน์ แล้วก็มีเกี่ยวกับกึ่งการตลาดนิดหน่อย ซึ่งเรารู้สึกว่าเราเป็นคนที่ค่อนข้างติดโลกโซเชียลอยู่แล้ว วันๆ ถ้าไม่ไปไหนก็อยู่แต่กับคอมไม่ก็มือถือ เราเลยรู้สึกว่าเราเอาสิ่งตรงนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ดีกว่า เพราะว่าในอนาคตโลกออนไลน์เราหนีมันไม่พ้นอยู่แล้ว เดี๋ยวมันก็จะเข้ามา ไม่จะนวัตกรรมอะไรหลายๆ อย่าง อย่าง Facebook ก็เปิด Beta โลกออนไลน์ยังไงก็ไม่ตายแน่นอน
ถ้าเราลองศึกษามาดีๆ จบไปเราสามารถทำอะไรได้หลายอย่างมาก เพราะว่าโลกอินเตอร์เน็ตอีกหน่อยก็จะเป็นโลกอีกใบของเรา ฉะนั้นการที่เรามาเรียนตรงนี้ยังไงเราก็ไม่ตกรุ่นครับ รู้สึกว่าอย่างนั้น ก็เลยเลือกที่จะมาเรียนสาขานี้ บางคนบอกว่าไม่เก่งกราฟิกมาเรียนได้มั้ย เพราะสาขานี้มันมีกราฟิกด้วย เรียนได้ครับเพราะว่านี่ก็ไม่ได้เก่งมาก แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่อยากให้มีคือความคืดสร้างสรรค์ เราทำเป็นไม่เป็นไม่รู้แต่เรามีความสร้างสรรค์ก่อน แล้วเราสามารถไปให้อาจารย์หรือให้เพื่อนที่เขามีความรู้สอนได้ เพื่อที่จะเอาความคิดสร้างสรรค์ของเราตรงนี้ออกไปเป็นงานให้เขาได้เห็น ซึ่งตางนั้นไม่ใช่ปัญหาแค่แบบทุกคนมีความคิดสร้างสรรค์หรือมีความคิดริเริ่มที่จะทำอะไรสักอย่าง อันนี้คือ Point หลักที่จะมาเรียนสาขานี้ คุณไม่เก่งกราฟิกไม่เป็นไร เดี๋ยวเข้าไปเขาได้สอนแน่แต่คุณต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ต้องเป็นคนเล่าเรื่องเก่งด้วย อย่างพี่เป็นคนพูดมาก เราเลยรู้สึกว่าเราถนัดเรื่องการเล่าเรื่องเลยมาสาขานี้ดีกว่า เราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ เราได้เล่า เล่าในฐานะเบื้องหน้าหรือจะเล่าแบบเบื้องหลัง ใครพูดไม่เก่งก็อาจจะเขียนเป็นบทความได้ ถ้าใครมีคุณสมบัติตรงนี้ก็สามารถมาเรียนสาขานี้ได้ครับ