ป.โทเอก Business Content

How to วางกลยุทธ์สร้าง Connection ระหว่างเรียนปริญญาโทและปริญญาเอก เพื่อโอกาสการทำงาน

How to วางกลยุทธ์สร้าง Connection ระหว่างเรียนปริญญาโทและปริญญาเอก เพื่อโอกาสการทำงานที่ดีกว่า

How to วางกลยุทธ์สร้าง Connection ระหว่างเรียนปริญญาโทและปริญญาเอก เพื่อโอกาสการทำงานที่ดีกว่า

การศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อปริญญาโทหรือเรียนต่อปริญญาเอก เป็นช่วงเวลาทองในการสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพ หรือ “Connection” ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ประเมินค่าไม่ได้สำหรับเส้นทางอาชีพในอนาคต การมีเครือข่ายที่ดีสามารถเปิดประตูสู่โอกาสที่คุณอาจไม่เคยคาดคิด บทความนี้จะนำเสนอแนวทางและกลยุทธ์ในการสร้าง Connection อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมการสร้าง Connection ถึงสำคัญอย่างยิ่งในระดับบัณฑิตศึกษา?

เครือข่ายที่แข็งแกร่งเป็นมากกว่ารายชื่อผู้ติดต่อ แต่เป็นกลุ่มคนที่พร้อมจะสนับสนุน แลกเปลี่ยนความรู้ และมอบโอกาสให้กันและกัน ประโยชน์ของการสร้าง Connection ในช่วงเรียนมีมากมาย:

  • เปิดประตูสู่โอกาสการทำงาน: ตำแหน่งงานดีๆ หลายตำแหน่งไม่ได้ประกาศรับสมัครทั่วไป แต่มาจากการแนะนำของคนในวงการ
  • สร้างความร่วมมือทางวิชาการ: นำไปสู่การทำวิจัยร่วมกัน การเขียนบทความวิชาการ หรือการขอทุนวิจัยในอนาคต
  • ได้รับคำปรึกษาและมุมมองใหม่ๆ: การพูดคุยกับผู้มีประสบการณ์ช่วยให้คุณได้มุมมองที่กว้างขึ้น ทั้งในเรื่องงานวิจัยและเส้นทางอาชีพ
  • สร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ: การเป็นที่รู้จักในแวดวงวิชาการหรือวิชาชีพนั้นๆ ช่วยเสริมสร้างโปรไฟล์ของคุณให้แข็งแกร่ง

How to สร้าง Connection อย่างมีประสิทธิภาพระหว่างเรียน

การสร้างเครือข่ายไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์ แต่เป็นทักษะที่ฝึกฝนได้ นี่คือกลยุทธ์ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที

1. เริ่มจากคนใกล้ตัว: อาจารย์และเพื่อนร่วมคลาส

  • อาจารย์ที่ปรึกษาและคณาจารย์: เข้าพบเพื่อปรึกษาเรื่องเรียนและงานวิจัยอย่างสม่ำเสมอ แสดงความกระตือรือร้นและความสนใจอย่างแท้จริง อาจารย์เหล่านี้มักมีเครือข่ายที่กว้างขวาง
  • เพื่อนร่วมคลาสและรุ่นพี่: เพื่อนๆ และรุ่นพี่ที่กำลังเรียนต่อปริญญาโทหรือเรียนต่อปริญญาเอกเหมือนกัน คือเครือข่ายแรกที่สำคัญที่สุด พวกเขาจะเติบโตไปเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ในอนาคต

2. เข้าร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัยและภาควิชา

  • เข้าร่วมงานสัมมนา, workshop, หรือการบรรยายพิเศษที่ภาควิชาจัดขึ้นเสมอ
  • อาสาช่วยงานกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับทั้งคณาจารย์และเพื่อนต่างสาขา

3. ใช้เวทีวิชาการให้เป็นประโยชน์: งานประชุมและสัมมนา

  • ตั้งเป้าหมายไปร่วมงานประชุมวิชาการ (Conference) อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อนำเสนอผลงานและพบปะนักวิจัยจากทั่วโลก
  • เตรียม “Elevator Pitch” (การแนะนำตัวเองและงานวิจัยสั้นๆ ใน 30-60 วินาที) ไว้เสมอ
  • อย่ากลัวที่จะเข้าไปพูดคุย สอบถาม หรือแสดงความคิดเห็นกับผู้นำเสนอผลงานคนอื่นๆ

เคล็ดลับเพิ่มเติม: หากคุณกำลังมองหาแนวทางในการเลือกหัวข้อวิจัยที่น่าสนใจเพื่อนำไปเสนอในเวทีต่างๆ ลองอ่านบทความ “5 เทคนิคการเลือกหัวข้อวิจัยและหัวข้อวิทยานิพนธ์สำหรับปริญญาโทและปริญญาเอกให้ตอบโจทย์อนาคต” เพื่อเป็นแนวทางเพิ่มเติม

เครื่องมือและแพลตฟอร์มที่ช่วยในการสร้างเครือข่าย

ในยุคดิจิทัล การสร้าง Connection ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพบปะเจอหน้ากันเท่านั้น

  • LinkedIn: แพลตฟอร์มเครือข่ายวิชาชีพอันดับหนึ่ง ควรสร้างและอัปเดตโปรไฟล์ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เข้าร่วมกลุ่มที่เกี่ยวกับสาขาที่เรียน และเชื่อมต่อกับคนที่น่าสนใจ
  • ResearchGate / Academia.edu: เปรียบเสมือนโซเชียลมีเดียสำหรับนักวิจัย สามารถติดตามผลงาน ถามคำถาม และสร้างเครือข่ายกับนักวิจัยในสาขาเดียวกันได้ทั่วโลก
  • Twitter (X): นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากใช้ Twitter เพื่อแชร์ข่าวสาร บทความ และพูดคุยประเด็นต่างๆ ในแวดวงของตน

การสร้างโปรไฟล์บน LinkedIn ที่ดูเป็นมืออาชีพเป็นก้าวแรกที่สำคัญอย่างยิ่งในการสร้าง Connection บนโลกออนไลน์

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q1: เป็นคนขี้อาย ไม่กล้าเข้าหาคนก่อน จะสร้าง Connection ได้อย่างไร?

A: เริ่มจากการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ก่อน เช่น การคอมเมนต์หรือแชร์บทความที่น่าสนใจบน LinkedIn จากนั้นเมื่อต้องไปร่วมงานต่างๆ ให้ลองตั้งเป้าหมายเล็กๆ เช่น “วันนี้จะคุยกับคนใหม่ให้ได้ 2 คน” หรือเตรียมคำถามเกี่ยวกับงานวิจัยของอีกฝ่ายไว้ล่วงหน้าเพื่อใช้เปิดบทสนทนา การไปกับเพื่อนสนิทก็ช่วยลดความประหม่าได้เช่นกัน

Q2: ควรเริ่มสร้าง Connection ตั้งแต่ตอนไหนของการเรียนต่อปริญญาโท/เอก?

A: เริ่มให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่เทอมแรกที่เข้าเรียน การสร้าง Connection เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ในชั่วข้ามคืน ยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งมีเวลาในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและมีความหมายมากขึ้น

Q3: การสร้าง Connection ในสายวิชาการกับสายอุตสาหกรรมแตกต่างกันหรือไม่?

A: มีความแตกต่างในเป้าหมายเล็กน้อย สายวิชาการจะเน้นการสร้างเครือข่ายเพื่อความร่วมมือทางวิจัย การอ้างอิงผลงาน และตำแหน่งทางวิชาการ ส่วนสายอุตสาหกรรมจะเน้นทักษะ การแก้ปัญหา และโอกาสในการทำงาน อย่างไรก็ตาม หลักการพื้นฐานของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี การแสดงความสนใจในงานของผู้อื่น และการรักษาการติดต่อยังคงเหมือนกัน

สรุปได้ว่า การวางกลยุทธ์ How to สร้าง Connection ขณะเรียนต่อปริญญาโทและเรียนต่อปริญญาเอก คือการลงทุนที่สำคัญสำหรับอนาคต จงมองว่าทุกกิจกรรม ทุกการพบปะ คือโอกาสในการขยายเครือข่ายของคุณ อย่ารอให้เรียนจบแล้วค่อยเริ่ม แต่จงสร้างมันไปพร้อมๆ กับการสร้างความรู้และผลงานทางวิชาการ แล้วคุณจะพบว่าเส้นทางอาชีพหลังเรียนจบนั้นกว้างไกลกว่าที่คิด

————————————————————————————————————————

รวมหลักสูตรปริญญาโท-เอก มหาวิทยาลัยศรีปทุม

หลักสูตรปริญญาเอก มหาวิทยาลัยศรีปทุม

รวม 8 หลักสูตร

  • หลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต (DOCTOR OF BUSINESS ADMINISTRATION)
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (DOCTOR OF PHILOSOPHY (EDUCATIONAL ADMINISTRATION))
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน (DOCTOR OF PHILOSOPHY (LOGISTICS AND SUPPLY CHAIN MANAGEMENT))
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี (DOCTOR OF PHILOSOPHY (ACCOUNTANCY))
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (DOCTOR OF PHILOSOPHY (INFORMATION TECHNOLOGY))
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิติรัฐกิจและการบริหาร (DOCTOR OF PHILOSOPHY (PUBLIC AND BUSINESS ADMINISTRATION JURISPRUDENCE))
  • หลักสูตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต (DOCTOR OF LAWS)
  • หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา (DOCTOR OF ENGINEERING (CIVIL ENGINEERING))

หลักสูตรปริญญาโท มหาวิทยาลัยศรีปทุม

รวม 9 หลักสูตร

  • หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MASTER OF BUSINESS ADMINISTRATION)
  • หลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต (MASTER OF MANAGEMENT ADMINISTRATION)
  • หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (MASTER OF PUBLIC ADMINISTRATION PROGRAM)
  • หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมการเรียนรู้และการสอน (MASTER OF EDUCATION (INNOVATIONS IN LEARNING AND TEACHING))
  • หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (MASTER OF EDUCATION (EDUCATIONAL ADMINISTRATION))
  • หลักสูตรบัญชีมหาบัณฑิต (MASTER OF ACCOUNTANCY)
  • หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต (MASTER OF LAWS)
  • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (MASTER OF SCIENCE (INFORMATION TECHNOLOGY))
  • หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา (MASTER OF ENGINEERING (CIVIL ENGINEERING))

(Visited 2 times, 1 visits today)

Related posts

บทบาทของ Lifelong Learner กับการเติบโตและโอกาสในสายอาชีพหลังเรียนจบปริญญาตรี

Wadee

5 ทักษะอนาคตที่คนทำงานต้องมีในยุค AI และดิจิทัล

Wadee

Human Skills อะไรบ้างที่ AI ไม่สามารถทดแทน? เจาะลึก Skill ต้องมีในโลกการทำงาน

Wadee