SPU

ชีวิตมหา’ลัยที่ไม่เหมือนใคร! ประสบการณ์ตรงจากกิจกรรมและ Project สุดสร้างสรรค์ ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม

เข้าใจดีเลยว่าช่วงม.ปลายฯ เป็นช่วงที่สับสนที่สุดในชีวิต ทั้งเรื่องสอบเข้ามหา’ลัย ทั้งการเลือกคณะที่ใช่ เลือกสังคมที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ไปอีก 4 ปีเต็มๆ วันนี้พี่เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงแบบไม่มีกั๊ก ในมุมที่อาจจะหาอ่านในโบร์ชัวร์ไม่ได้ นั่นคือ “ชีวิตนอกห้องเรียน” ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม หรือที่พวกเราเรียกกันติดปากว่า SPU นี่แหละ บอกเลยว่ามันส์และสร้างตัวตนเราได้มากกว่าที่คิดเยอะ!

 

สำหรับน้องๆ ที่กำลังเล็ง มหาวิทยาลัยศรีปทุม ไว้ หรือยังลังเลอยู่ ลองอ่านบทความนี้ดูนะ ว่าที่นี่ให้อะไรเรามากกว่าแค่ความรู้ในตำราเรียนบ้าง และมันจะเปลี่ยนน้องๆ ไปตลอดกาลได้ยังไง

 

ทำไมต้อง SPU? ก้าวแรกที่ไม่ได้มีแค่เรื่องเรียน

ก่อนจะไปลงลึกเรื่องกิจกรรม ขอเกริ่นก่อนว่าอะไรทำให้พี่เลือกที่นี่… คำตอบสั้นๆ เลยคือปรัชญา “เรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง” มันไม่ใช่แค่คำโปรยสวยๆ นะ แต่มันคือเรื่องจริง! ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา เราจะสัมผัสได้เลยว่า SPU ไม่ได้อยากปั้นเราให้เป็นแค่หนอนหนังสือ แต่อยากสร้าง “คนทำงาน” ที่พร้อมลุยในสนามจริงทันทีที่เรียนจบ

บรรยากาศในมหา’ลัยมันเลยจะมีความเป็น Professional สูงมาก ตึกทันสมัย อุปกรณ์ครบครัน ฟีลเหมือนมาออฟฟิศมากกว่าโรงเรียน แต่มันก็ไม่ได้เครียดขนาดนั้นนะ เพราะความเฟรนลี่และความช่วยเหลือจากรุ่นพี่และอาจารย์นี่แหละที่ทำให้ทุกอย่างมันลงตัว มันคือการผสมผสานระหว่างความจริงจังในการสร้างอนาคตกับความสนุกของชีวิตวัยรุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Fact ที่ควรรู้: มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) มีชื่อเสียงและโดดเด่นมากในคณะที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ, การสื่อสาร, ดิจิทัลอาร์ตส์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่นี่คือแหล่งรวมตัวของคนมีฝันที่อยากจะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ให้กับโลกใบนี้เลยล่ะ

ตะลุยโลกกิจกรรม: ไม่ใช่แค่รับน้อง แต่คือการสร้างตัวตน!

โอเค… มาถึงพาร์ทที่ทุกคนรอคอย! ชีวิต 4 ปีในมหา’ลัยจะจืดชืดมากถ้าเอาแต่นั่งเรียนในห้องแล้วกลับบ้าน ที่ศรีปทุมมี “สนามเด็กเล่น” ของผู้ใหญ่ให้เราได้ปลดปล่อยพลังเยอะมาก ซึ่งพี่ขอแบ่งเป็นหมวดๆ ให้เห็นภาพชัดขึ้น

1. กิจกรรมรับน้องสร้างสรรค์: ลบภาพจำเก่าๆ ไปได้เลย

ใครกลัวเรื่องรับน้องโหดๆ หรือระบบโซตัส บอกเลยว่าที่ SPU สบายใจได้ ที่นี่เน้นกิจกรรมที่สร้างสรรค์และสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องจริงๆ อย่างการเล่นเกมส์สันทนาการ, กิจกรรม Walk Rally แนะนำสถานที่ในมหา’ลัย, หรือการทำโปรเจกต์เล็กๆ ร่วมกันเป็นกลุ่ม มันคือการละลายพฤติกรรมที่ทำให้เรารู้จักเพื่อนใหม่และสนิทกับรุ่นพี่ได้เร็วขึ้นมากๆ ซึ่งพี่ๆ นี่แหละจะเป็น Connection แรกและเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของเราไปตลอด 4 ปี

2. ชมรม: ที่รวมตัวของคนแพสชั่นเดียวกัน

ไม่ว่าน้องจะชอบอะไร ที่ศรีปทุมมีพื้นที่ให้เสมอ! ชมรมที่นี่มีหลากหลายและแอคทีฟมากๆ ขอยกตัวอย่างที่ฮิตๆ นะ:

  • ชมรม E-Sports: สำหรับคอเกมเมอร์ ที่ไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาแข่งจริงจัง มีห้องซ้อม มีโค้ช สร้างทีมไปแข่งระดับประเทศมาแล้วนักต่อนัก
  • ชมรมถ่ายภาพ : ใครรักการถ่ายภาพต้องเข้าชมรมนี้เลย มีตั้งแต่สอนพื้นฐานยันเทคนิคขั้นสูง ออกทริปถ่ายรูปบ่อยมาก แถมยังได้ฝึกถ่ายงานอีเวนต์จริงๆ ของมหา’ลัยด้วยนะ
  • ชมรมอาสาพัฒนา: สายจิตอาสาที่อยากช่วยเหลือสังคม ชมรมนี้จะพาน้องๆ ไปทำกิจกรรมดีๆ เช่น สร้างโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร หรือจัดกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งประสบการณ์
  • ชมรมด้านดนตรีและศิลปะการแสดง: ไม่ว่าจะเป็น SPU Band, ชมรมเต้น, ชมรมละครเวที ที่นี่คือเวทีให้น้องๆ ได้โชว์ของแบบเต็มที่

การเข้าชมรมมันไม่ใช่แค่การทำงานอดิเรกนะ แต่มันคือการฝึกทักษะการทำงานร่วมกับคนอื่น การบริหารจัดการ และที่สำคัญคือการได้เจอเพื่อนต่างคณะที่มีความชอบเหมือนกัน ซึ่งเป็นคอนเนคชั่นที่ดีมากๆ ในอนาคต

3. โครงการประกวดและเวทีปล่อยของ

นี่แหละคือไฮไลท์เด็ดของ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่นี่มีเวทีประกวดภายในเยอะมากกกก และสนับสนุนให้นักศึกษาไปแข่งเวทีข้างนอกด้วย โครงการพวกนี้มันเหมือนสนามรบจำลองที่ทำให้เราได้ใช้งัดความรู้ที่เรียนมาทั้งหมดมาสู้กันจริงๆ

ตัวอย่างเช่น:

  • โครงการประกวดแผนการตลาด (Marketing Plan Contest): เด็กการตลาดจะได้โจทย์จริงจากแบรนด์ดัง มาวางแผนการตลาดแข่งกัน ทีมที่ชนะนอกจากจะได้รางวัลแล้ว ผลงานยังอาจถูกนำไปใช้จริงด้วย!
  • SPU Hackathon: เด็ก IT, เด็กออกแบบ จะถูกจับมารวมทีมกันในเวลาจำกัดเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือแอปพลิเคชันเพื่อแก้ปัญหาอะไรบางอย่าง เป็นกิจกรรมที่เค้นศักยภาพแบบสุดๆ
  • โครงการประกวดหนังสั้น : เด็กนิเทศฯ จะได้ปล่อยของเต็มที่ ตั้งแต่เขียนบท ถ่ายทำ ตัดต่อ จนออกมาเป็นผลงานที่สามารถใส่ในพอร์ตฟอลิโอได้อย่างภาคภูมิใจ

การเข้าร่วมโครงการพวกนี้มันให้อะไรมากกว่ารางวัล เพราะมันคือ “หลักฐาน” ที่จับต้องได้ว่าเราทำอะไรเป็นบ้าง ตอนไปสมัครงาน แค่เราบอกว่าเคยผ่านโปรเจกต์พวกนี้มานะ HR ตาวาวแน่นอน!

4. อีเวนต์พิเศษและ Workshop จากตัวจริงในวงการ

ตามสโลแกน “เรียนกับตัวจริง” เลย ที่ SPU จะมีการเชิญ Speaker ที่เป็นตัวท็อปในวงการต่างๆ มาจัด Talk หรือ Workshop ให้กับนักศึกษาบ่อยมาก เราเคยได้เจอนักการตลาดดิจิทัลมือหนึ่งของประเทศ, ผู้กำกับหนังร้อยล้าน, CEO สตาร์ทอัพยูนิคอร์น มาแล้วแบบใกล้ชิดสุดๆ การได้ฟังประสบการณ์ตรงและถามคำถามกับพวกเขา เป็นอะไรที่เปิดโลกและสร้างแรงบันดาลใจได้มหาศาลจริงๆ


Case Study: เจาะลึกโครงการที่เปลี่ยนเราไปตลอดกาล

ขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวที่พีคที่สุดในชีวิตมหา’ลัยของพี่ คือการเข้าร่วมโครงการ “SPU Creative Content Challenge” มันเป็นโครงการที่ท้าทายให้แต่ละทีมสร้างแคมเปญคอนเทนต์ออนไลน์เพื่อโปรโมทสินค้าของ SME ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับมหา’ลัย

“ตอนแรกก็กลัวนะ เพราะเราไม่เคยทำอะไรสเกลใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย แต่ก็ตัดสินใจรวมทีมกับเพื่อนต่างคณะ มีทั้งเด็กการตลาด นิเทศฯ และ IT”

ช่วงเวลา 2 เดือนนั้นโหดมาก เราต้องลงพื้นที่ไปคุยกับเจ้าของแบรนด์เพื่อหา Insight, กลับมา Brainstorm กันจนดึกดื่น, ถ่ายทำคอนเทนต์, ยิงแอด, วัดผล… มันคือการทำงานแบบเอเจนซี่โฆษณาจริงๆ มีทั้งความเห็นไม่ตรงกัน งานไม่เป็นไปตามแผน แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้

แม้ว่าทีมพี่จะไม่ได้รางวัลชนะเลิศ แต่สิ่งที่ได้กลับมามันมีค่ามากกว่านั้นเยอะ:

  1. Hard Skills: ได้ฝึกใช้โปรแกรมตัดต่อ, โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูล, การวางแผน Media Plan จริงๆ
  2. Soft Skills: ทักษะการสื่อสาร, การเจรจาต่อรอง, การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า, การทำงานเป็นทีม คือพุ่งทะยานแบบก้าวกระโดด
  3. Portfolio: เรามีผลงานแคมเปญจริงๆ พร้อมตัวเลขผลลัพธ์ที่วัดได้ไปใส่ในพอร์ตฯ
  4. Connection: ได้รู้จักรุ่นพี่ที่เป็น Mentor, ได้คอนเนคชั่นกับเจ้าของแบรนด์ และที่สำคัญคือสนิทกับเพื่อนในทีมแบบมองตาก็รู้ใจ

โครงการนี้มันเปลี่ยนพี่จากนักศึกษาที่เรียนไปวันๆ ให้กลายเป็นคนที่กล้าคิด กล้าทำ และเข้าใจโลกของการทำงานมากขึ้นจริงๆ นี่แหละคือความหมายของ “ประสบการณ์จริง” ที่ศรีปทุมมอบให้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) จากรุ่นพี่ SPU ตัวจริง

รวบรวมคำถามสุดฮิตที่น้องๆ ชอบทักมาถาม เพื่อประกอบการตัดสินใจของทุกคน!

Q1: สังคมที่ศรีปทุมเป็นยังไง? เพื่อนๆ และรุ่นพี่โอเคไหม?

A: สังคมที่นี่ค่อนข้างเปิดกว้างและเป็นกันเองมากครับ/ค่ะ ด้วยความที่มหา’ลัยเน้นการทำงานกลุ่มและทำโปรเจกต์เยอะ ทำให้เราต้องร่วมมือกันตลอดเวลา ไม่ค่อยมีใครมานั่งแข่งขันชิงดีชิงเด่นกัน ฟีลแบบช่วยกันเรียน ช่วยกันทำงานให้จบมากกว่า รุ่นพี่ก็ใจดีมาก พร้อมให้คำปรึกษาตลอด ไม่มีระบบโซตัสที่น่ากลัวแน่นอน คอนเฟิร์ม!

Q2: มหาวิทยาลัยศรีปทุมเด่นเรื่องอะไรเป็นพิเศษ?

A: ถ้าเอาแบบเด่นๆ เลยนะ SPU จะแข็งแกร่งมากในกลุ่มคณะบริหารธุรกิจ (โดยเฉพาะการตลาด), คณะนิเทศศาสตร์ (การโฆษณา, การประชาสัมพันธ์), คณะดิจิทัลมีเดีย (พวกเกม, แอนิเมชัน, กราฟิก) และคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ เพราะเรามีคอนเนคชั่นกับบริษัทชั้นนำในวงการเหล่านี้เยอะมาก ทำให้นักศึกษาได้ฝึกงานและทำงานกับตัวจริงอยู่เสมอ

Q3: การเดินทางไป ม.ศรีปทุม บางเขน ยากไหม?

A: ง่ายมาก! นี่คือข้อดีสุดๆ ของ SPU บางเขนเลย เพราะมหา’ลัยตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน และที่สำคัญคือ ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีบางบัว แบบเดินจากสถานีเข้าประตูมหา’ลัยได้เลย! สะดวกสบายสุดๆ ไม่ต้องต่อรถให้วุ่นวาย นอกจากนี้ก็มีรถเมล์ผ่านหลายสาย ใครอยู่โซนกรุงเทพตอนเหนือหรือปริมณฑลเดินทางสะดวกแน่นอน

Q4: ไม่มีพื้นฐานเลย จะเรียนคณะที่อยากเข้าได้ไหม?

A: ได้แน่นอน! อาจารย์ที่นี่เข้าใจดีว่านักศึกษาแต่ละคนมาจากพื้นฐานที่แตกต่างกัน ในช่วงปีแรกๆ หลักสูตรจะปูพื้นฐานให้ใหม่ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น ขอแค่เรามีความตั้งใจ ความชอบ และความพยายามที่จะเรียนรู้จริงๆ ก็สามารถเรียนและประสบความสำเร็จในคณะนั้นๆ ได้สบายมาก

Q5: ค่าเทอมแพงไหม? มีทุนการศึกษาหรือเปล่า?

A: ด้วยความที่เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ค่าเทอมก็จะสูงกว่ามหา’ลัยรัฐเป็นปกติ แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพการสอน, อุปกรณ์, และคอนเนคชั่นที่จะได้รับ ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ที่สำคัญคือ SPU มีทุนการศึกษาให้เยอะมาก! มีทั้งทุน SPU ตัวจริง, ทุนความสามารถพิเศษ (ด้านกีฬา, ศิลปะ), และทุนสำหรับผู้สร้างตัวตน (Portfolio 3D) น้องๆ ที่สนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ของมหา’ลัยได้เลย มีโอกาสดีๆ รออยู่เพียบ

 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ให้อะไรมากกว่าใบปริญญา

ตลอดเวลาที่เรียนอยู่ที่นี่ พี่ยืนยันได้เลยว่า มหาวิทยาลัยศรีปทุม ไม่ได้มอบแค่ความรู้ทางวิชาการ แต่ที่นี่คือ “โรงเรียนสอนชีวิต” ที่แท้จริง กิจกรรมและโครงการต่างๆ ไม่ใช่แค่เรื่องสนุกสนาน แต่มันคือบททดสอบที่หล่อหลอมให้เราเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแกร่งขึ้น, มีความรับผิดชอบมากขึ้น, และกล้าที่จะไล่ตามความฝันของตัวเอง

มันคือการสร้าง Soft Skills, การสร้าง Portfolio, และการสร้าง Connection ที่เงินก็หาซื้อไม่ได้ ถ้าเปรียบใบปริญญาเป็น “ตั๋ว” เข้าสู่โลกของการทำงาน ประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้รับจากรั้ว SPU ก็คือ “แผนที่และเข็มทิศ” ที่จะทำให้เราเดินทางบนเส้นทางนั้นได้อย่างมั่นคงและโดดเด่นกว่าใคร

สำหรับน้องๆ ที่กำลังมองหาสถานที่ที่จะได้ค้นหาตัวเองและปลดปล่อยศักยภาพแบบไร้ขีดจำกัด พี่ก็อยากจะฝาก SPU ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ลองหาโอกาสมา Campus Visit หรือลองทักไปสอบถามข้อมูลในเพจของคณะที่สนใจดูนะ

แล้วเจอกันที่ SPU นะ ว่าที่รุ่นน้องทุกคน!

 

 

(Visited 1 times, 1 visits today)

Related posts

หลักสูตร 2 ปริญญา ทางเลือกใหม่ของ Dek Gen Z เรียน 2 ศาสตร์ จบใน 4 ปี รับ 2 ปริญญา

P'Krish

ต้องรู้! เรียนวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ SPU  4 ปีเรียนอะไร?

P'Krish

จบ ปวส. ปุ๊บ! ต่อ ป.ตรี ปั๊บ! อยากรู้มีคณะไหนบ้าง? ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม มาดูกันเลย!

P'Krish