นิติรัฐกิจและการบริหาร: เข็มทิศนำองค์กรสู่ความยั่งยืนในยุคดิจิทัล
ในโลกธุรกิจที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว ความท้าทายใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Disruption) กระแสความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) หรือกฎระเบียบที่ซับซ้อนขึ้น สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการ บริหารภาครัฐและภาคเอกชน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับนักบริหารระดับกลางถึงสูง การมีเพียงความเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งอาจไม่เพียงพออีกต่อไป แต่จำเป็นต้องมีมุมมองที่กว้างและลึกซึ้ง ศาสตร์แห่ง นิติรัฐกิจและการบริหาร จึงเป็นคำตอบสำคัญในการนำพาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน
OVERVIEW
ทำไมนิติรัฐกิจและการบริหารจึงสำคัญอย่างยิ่งในยุคนี้?
ความรู้แบบบูรณาการเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้นำยุคใหม่ เพื่อใช้ในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่เฉียบคมและรอบด้าน โดยหลักการของ นิติรัฐกิจและการบริหาร มีความสำคัญดังนี้
- เชื่อมโยงกฎหมายเข้ากับการบริหารจัดการ: ช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจข้อจำกัดและโอกาสทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน เช่น กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) กฎหมายการแข่งขันทางการค้า และนำมาปรับใช้ในกลยุทธ์องค์กรได้อย่างถูกต้อง
- ขับเคลื่อนองค์กรด้วยหลักธรรมาภิบาลและความยั่งยืน: ตอบสนองต่อความคาดหวังของนักลงทุนและสังคมในมิติ ESG ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นขององค์กรโดยตรง การบริหารที่สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของโลก
- สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน: ผู้นำที่เข้าใจกลไกการทำงานของทั้งสองภาคส่วน จะสามารถสร้างความร่วมมือ (Public-Private Partnership) ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อผลักดันโครงการขนาดใหญ่และสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมได้
เสาหลักในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยหลักนิติรัฐกิจและการบริหาร
เพื่อพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน ผู้บริหารจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ 3 เสาหลัก ที่เกิดจากการผสมผสานองค์ความรู้ด้าน นิติรัฐกิจและการบริหาร
- Digital Governance: การกำกับดูแลและบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล ข้อมูล และความปลอดภัยทางไซเบอร์ ให้สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานสากล
- Sustainable Management: การผนวกหลักการ ESG เข้าไปในทุกกระบวนการตัดสินใจ ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ การดำเนินงาน ไปจนถึงการรายงานผล
- Adaptive Leadership: ภาวะผู้นำที่ยืดหยุ่น สามารถปรับตัวและนำองค์กรให้ผ่านพ้นการเปลี่ยนแปลง โดยอาศัยความเข้าใจในมิติของกฎหมาย เศรษฐกิจ และสังคม
การเรียนต่อปริญญาเอก: ต่อยอดสู่ผู้นำแห่งอนาคต
สำหรับผู้บริหารที่ต้องการยกระดับขีดความสามารถสู่ขั้นสูงสุด การ เรียนต่อ ในระดับ ปริญญาเอก สาขาที่เกี่ยวข้องกับ นิติรัฐกิจและการบริหาร คือการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะเป็นการศึกษาเชิงลึกที่มุ่งเน้นการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ สามารถนำไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาที่ซับซ้อนในระดับมหภาค และสร้างแนวทางการ บริหารภาครัฐและภาคเอกชน ที่แตกต่างและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ดูรายละเอียดหลักสูตรปริญญาเอกที่เกี่ยวข้อง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: หลักสูตรด้านนิติรัฐกิจและการบริหาร เหมาะกับใคร?
เหมาะสำหรับผู้บริหารระดับกลางถึงสูง ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ ผู้บริหารหน่วยงานราชการ ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารระดับสูงในบริษัทเอกชน ที่ปรึกษาองค์กร และผู้ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำในอนาคต
Q2: ความรู้ด้านนี้แตกต่างจากการเรียนบริหารธุรกิจ (MBA) หรือนิติศาสตรบัณฑิตทั่วไปอย่างไร?
มีความแตกต่างที่สำคัญคือ “การบูรณาการ” ในขณะที่ MBA เน้นการบริหารธุรกิจ และนิติศาสตร์เน้นตัวบทกฎหมาย แต่ นิติรัฐกิจและการบริหาร จะเชื่อมโยงทั้งสองศาสตร์เข้าด้วยกัน พร้อมเพิ่มมิติด้านนโยบายสาธารณะและความยั่งยืน ทำให้ผู้เรียนมีมุมมองเชิงกลยุทธ์ที่ครบถ้วนกว่า สำหรับการตัดสินใจในระดับสูง
Q3: ทำไมการเรียนต่อระดับปริญญาเอกจึงสำคัญกับผู้บริหารในยุคนี้?
เพราะการเรียน ปริญญาเอก ไม่ใช่แค่การเรียนเพื่อรับวุฒิ แต่เป็นกระบวนการฝึกฝน “กระบวนการคิดเชิงวิจัย” (Research-based Thinking) ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้ผู้นำสามารถวิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างเป็นระบบ หาทางออกที่สร้างสรรค์และมีข้อมูลรองรับ แทนการตัดสินใจโดยใช้สัญชาตญาณเพียงอย่างเดียว
