อนาคตไกลกว่าใคร! สร้างแต้มต่อ
ในสายอาชีพด้วยทักษะ 3 ภาษา
“อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น”
ในโลกยุคใหม่ที่เชื่อมถึงกันหมดแค่ปลายนิ้ว การมีทักษะมากกว่าหนึ่งภาษาก็เหมือนมีพลังวิเศษติดตัว! 💖
แล้วถ้าเรามีถึง 3 ภาษา สุดปังอย่าง อังกฤษ จีน ญี่ปุ่นล่ะ? บอกเลยว่าอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้าแน่นอนค่ะ!
ทำไมต้องเก่ง 3 ภาษา? เปิดเหตุผลสุดว้าว! ✨
การรู้ภาษา อังกฤษ เปรียบเสมือนกุญแจพื้นฐานที่ทุกคนต้องมี แต่การเพิ่มภาษา จีน และ ญี่ปุ่น เข้าไปในคลังสกิลของเรานั้น คือการอัปเกรดตัวเองให้กลายเป็นตัวละครระดับแรร์ไอเทมในตลาดงานเลยทีเดียว! ทักษะ 3 ภาษา นี้เป็นการรวมพลังของภาษาสากล (อังกฤษ), ภาษามหาอำนาจทางเศรษฐกิจ (จีน) และภาษาแห่งนวัตกรรมและวัฒนธรรมป๊อป (ญี่ปุ่น) ทำให้โปรไฟล์ของเราโดดเด่นและน่าสนใจแบบสุดๆ ไปเลยค่ะ
ประตูสู่โลกกว้างด้วยภาษาอังกฤษ (English) 🌍
ภาษา อังกฤษ คือภาษากลางของโลกอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะการทำงานในบริษัทข้ามชาติ การเสพสื่อบันเทิง การเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ หรือการท่องเที่ยว ภาษาอังกฤษคือเพื่อนซี้ที่จะพาเราไปได้ทุกที่ การมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่แข็งแรงจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการต่อยอดไปสู่การเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ใครที่อยากฝึกฝนเพิ่มเติม
เจาะตลาดมังกรด้วยภาษาจีน (Chinese) 🐲
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเทศจีนมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมหาศาล การรู้ภาษา จีน จึงเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสทางธุรกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด ไม่ว่าคุณจะทำงานสายไหน การสื่อสารภาษาจีนได้จะช่วยสร้างความประทับใจและเพิ่มโอกาสในการร่วมงานกับบริษัทหรือลูกค้าชาวจีนได้อย่างง่ายดาย การเรียนรู้ 3 ภาษา ที่มีภาษาจีนรวมอยู่ด้วย จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับอนาคต
การเรียนภาษาจีนช่วยเพิ่มแต้มต่อในสายอาชีพได้อย่างไร?
ทักษะภาษา จีน ทำให้คุณเป็นที่ต้องการในธุรกิจ E-commerce, Logistics, การนำเข้า-ส่งออก และการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับประเทศจีนโดยตรงค่ะ
สานสัมพันธ์แดนปลาดิบด้วยภาษาญี่ปุ่น (Japanese) 🍣
ภาษา ญี่ปุ่น ไม่ได้มีดีแค่ใช้ดูอนิเมะหรืออ่านมังงะนะคะ! ญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์มากมาย การสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้จะทำให้เราเข้าถึงองค์ความรู้เฉพาะทางและมีโอกาสร่วมงานกับบริษัทญี่ปุ่นชั้นนำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ วัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์ยังทำให้การเรียนรู้ภาษานี้เต็มไปด้วยความสนุกและความท้าทายอีกด้วยค่ะ
Q&A คลายข้อสงสัยคนอยากเก่ง 3 ภาษา 🙋♀️
ถาม: ควรเริ่มเรียนทั้ง 3 ภาษาพร้อมกันเลยไหมคะ?
ตอบ: แนะนำให้เริ่มทีละภาษาจะดีกว่าค่ะ! 💖 อาจจะเริ่มจากภาษา อังกฤษ ให้แข็งแรงก่อน แล้วค่อยต่อยอดด้วยภาษา จีน หรือ ญี่ปุ่น ตามความสนใจและความจำเป็นในการใช้งาน วิธีนี้จะช่วยให้เราไม่สับสนและสามารถโฟกัสได้อย่างเต็มที่ พอมีพื้นฐานที่ดีแล้ว การเรียนภาษาที่สามจะง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ
ถาม: ในบรรดา อังกฤษ, จีน, ญี่ปุ่น ภาษาไหนยากที่สุดคะ?
ตอบ: ความยากง่ายขึ้นอยู่กับแต่ละคนเลยค่ะ! ภาษา อังกฤษ อาจจะคุ้นเคยที่สุดเพราะใช้ตัวอักษรเหมือนภาษาไทย ส่วนภาษา จีน จะท้าทายที่ตัวอักษร (ฮั่นจื้อ) และเสียงวรรณยุกต์ ในขณะที่ภาษา ญี่ปุ่น จะมีระบบตัวเขียนถึง 3 แบบและไวยากรณ์ที่ซับซ้อน ลองเลือกภาษาที่รู้สึก “คลิก” กับเรามากที่สุดดูนะคะ!
ถาม: มีตำแหน่งงานสำหรับคนที่พูดได้ทั้ง 3 ภาษานี้โดยเฉพาะไหมคะ?
ตอบ: มีแน่นอนค่ะ! และเป็นตำแหน่งที่ได้เปรียบสุด ๆ ด้วย คนที่เชี่ยวชาญทั้ง 3 ภาษา นี้เป็นที่ต้องการอย่างมากในสายงานการทูต, ผู้จัดการระดับภูมิภาคในบริษัทข้ามชาติ, นักแปลระดับสูง, งานด้านการโรงแรมและการบินที่ต้องดูแลลูกค้าระดับ VIP จากทั่วโลก หรือแม้กระทั่งในอุตสาหกรรมเกมและบันเทิง บอกเลยว่าค่าตอบแทนสูงและอนาคตไกลมากค่ะ!
