เรียนต่อปริญญาเอก DBA สำหรับอาชีพฝ่ายจัดซื้อ: สร้างผู้นำยุทธศาสตร์จัดซื้อรุ่นใหม่
ยกระดับอาชีพของคุณจากผู้ปฏิบัติงานสู่ผู้นำเชิงกลยุทธ์ ด้วยการศึกษาขั้นสูงสุดที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาจริงในโลกธุรกิจ
OVERVIEW
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บทบาทของฝ่ายจัดซื้อได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่เป็นเพียงหน่วยงานสนับสนุนด้านการจัดหาสินค้าและบริการ กลายเป็นหน่วยงานเชิงกลยุทธ์ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้แก่องค์กร การตัดสินใจเรียนต่อในระดับสูงจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นกุญแจสำคัญสู่การเป็นผู้นำยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาในระดับปริญญาเอกอย่าง Doctor of Business Administration หรือ DBA
ทำไมฝ่ายจัดซื้อต้องเรียนต่อถึงระดับปริญญาเอก?
การทำงานในสายงานจัดซื้อและซัพพลายเชนในปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อนมากกว่าแค่การต่อรองราคา การเรียนต่อจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อพัฒนาศักยภาพให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้:
- ความซับซ้อนของซัพพลายเชนโลก: การจัดการความเสี่ยง, การปฏิบัติตามกฎระเบียบระหว่างประเทศ, และการสร้างซัพพลายเชนที่ยั่งยืน ล้วนต้องการความรู้ความเข้าใจในระดับลึก
- การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล: เทคโนโลยีอย่าง AI, Big Data, และ Blockchain กำลังเข้ามามีบทบาทในการวิเคราะห์ข้อมูลซัพพลายเออร์และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดซื้อ ผู้นำฝ่ายจัดซื้อต้องสามารถนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ได้อย่างมีกลยุทธ์
- บทบาทเชิงกลยุทธ์: ฝ่ายจัดซื้อไม่ได้ถูกวัดผลแค่การลดต้นทุน แต่ยังรวมถึงการสร้างนวัตกรรมร่วมกับซัพพลายเออร์, การบริหารความสัมพันธ์, และการสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับองค์กร ซึ่งจำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ในระดับผู้บริหาร
MBA vs DBA: เส้นทางไหนที่เหมาะกับคุณ?
หลายคนอาจคุ้นเคยกับการเรียนต่อปริญญาโทบริหารธุรกิจ หรือ MBA แต่สำหรับผู้ที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและต้องการสร้างองค์ความรู้ใหม่ การเรียนปริญญาเอกอย่าง DBA อาจเป็นคำตอบที่ใช่มากกว่า
- Master of Business Administration (MBA):
- เป้าหมาย: เน้นการนำความรู้และทฤษฎีที่มีอยู่แล้วมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ
- รูปแบบ: เรียนรู้ภาพกว้างของทุกส่วนงานในธุรกิจ (การตลาด, การเงิน, ทรัพยากรมนุษย์)
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสายงาน หรือก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้จัดการระดับกลางถึงสูงที่ต้องการทักษะการบริหารรอบด้าน
- Doctor of Business Administration (DBA):
- เป้าหมาย: เน้นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ผ่านการวิจัยเชิงประยุกต์ เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนและเกิดขึ้นจริงในองค์กร
- รูปแบบ: ศึกษาเจาะลึกในสาขาที่สนใจ เช่น กลยุทธ์การจัดซื้อ, การจัดการซัพพลายเชน, หรือนวัตกรรมการจัดหา
- เหมาะสำหรับ: ผู้บริหารระดับสูง, ที่ปรึกษา, หรือผู้เชี่ยวชาญในสายงานฝ่ายจัดซื้อที่ต้องการเป็นผู้นำทางความคิด (Thought Leader) และสร้างผลกระทบที่วัดผลได้ให้แก่องค์กร
DBA สร้างทักษะอะไรให้ผู้นำฝ่ายจัดซื้อยุคใหม่?
การเรียนต่อหลักสูตร DBA ไม่ใช่แค่การได้รับวุฒิปริญญาเอก แต่เป็นการสร้างชุดทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้นำฝ่ายจัดซื้อเชิงกลยุทธ์
- ทักษะการวิจัยประยุกต์ (Applied Research): สามารถออกแบบและดำเนินโครงการวิจัยเพื่อค้นหาคำตอบของปัญหาทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจริง เช่น “จะสร้างโมเดลประเมินความเสี่ยงซัพพลายเออร์ด้วย AI ได้อย่างไร?”
- การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking): ประเมินข้อมูลและสถานการณ์ได้อย่างรอบด้าน ไม่ติดกับดักความคิดแบบเดิมๆ สามารถตั้งคำถามที่ท้าทายและนำไปสู่แนวทางแก้ไขที่ดีกว่า
- การตัดสินใจบนฐานข้อมูล (Data-Driven Decision Making): เปลี่ยนข้อมูลดิบ (Raw Data) ให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึก (Insight) เพื่อใช้ในการวางแผนกลยุทธ์การจัดซื้อ, การเจรจาต่อรอง, และการบริหารสต็อก
- ความเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ (Strategic Leadership): สามารถมองเห็นภาพรวมและกำหนดทิศทางของหน่วยงานจัดซื้อให้สอดคล้องกับเป้าหมายสูงสุดขององค์กร
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฝ่ายจัดซื้อกับการเลือกเรียนต่อปริญญาโท MBA เพื่อยกระดับทักษะการจัดซื้อในยุคดิจิทัล เพื่อทำความเข้าใจในหัวข้อนี้มากขึ้น
ทักษะเหล่านี้เป็นสิ่งที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกมองหา และเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับจากสถาบันวิชาชีพระดับสากลอย่าง CIPS (Chartered Institute of Procurement & Supply)
สรุป: ก้าวสู่การเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ด้วย DBA
การลงทุนเรียนต่อ DBA คือการลงทุนเพื่ออนาคตในสายอาชีพฝ่ายจัดซื้อ เป็นการติดอาวุธทางปัญญาที่ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็นโอกาส และก้าวข้ามจากการเป็นผู้ปฏิบัติงานสู่การเป็น “ผู้นำยุทธศาสตร์” ที่องค์กรขาดไม่ได้อย่างแท้จริง 0ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรปริญญาเอก DBA มหาวิทยาลัยศรีปทุม
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
เรียน DBA ต้องมีประสบการณ์ในสายงานฝ่ายจัดซื้อมาก่อนหรือไม่?
โดยทั่วไปแล้วหลักสูตร DBA ต้องการผู้เรียนที่มีประสบการณ์ทำงานในระดับบริหารจัดการมาระยะหนึ่ง เพื่อให้สามารถนำประสบการณ์จริงมาเชื่อมโยงกับทฤษฎีและการทำวิจัยได้ การมีประสบการณ์ในสายงานฝ่ายจัดซื้อหรือซัพพลายเชนจะช่วยให้คุณสามารถกำหนดหัวข้อวิจัยที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อองค์กรได้ง่ายขึ้น
การเรียนปริญญาเอก DBA แตกต่างจากการเรียนปริญญาโท MBA อย่างไรในทางปฏิบัติ?
ความแตกต่างที่สำคัญคือ “ผลลัพธ์” ของการเรียนรู้ การเรียน MBA จะเน้นการเรียนรู้ผ่านกรณีศึกษา (Case Study) เพื่อนำไปปรับใช้ แต่การเรียน DBA คุณจะต้องเป็นผู้ “สร้าง” กรณีศึกษาของตัวเองผ่านการทำวิจัยในองค์กรของคุณเอง เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่หรือแนวทางปฏิบัติใหม่ๆ ที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน
จบ DBA แล้วสามารถไปทำงานในสายอาชีพอื่นนอกเหนือจากฝ่ายจัดซื้อได้หรือไม่?
ได้อย่างแน่นอน ทักษะที่ได้จากการเรียน DBA เช่น การคิดเชิงวิเคราะห์, การวิจัย, และการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เป็นทักษะที่สามารถถ่ายทอดไปใช้ได้ในทุกสายงานบริหารระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นการเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consultant), ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ (Chief Strategy Officer), หรือแม้แต่อาจารย์ในมหาวิทยาลัย
