ป.โทเอก Business Content

Upskills ผ่านการศึกษาต่อ: ทักษะที่ได้จากปริญญาโท-ปริญญาเอกที่ตลาดงานต้องการ

Upskills ผ่านการศึกษาต่อ: ทักษะที่ได้จากปริญญาโท-ปริญญาเอกที่ตลาดงานต้องการ

Upskills ผ่านการศึกษาต่อ: ทักษะที่ได้จากปริญญาโท-ปริญญาเอกที่ตลาดงานต้องการ

ในโลกที่การแข่งขันสูงและการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การหยุดนิ่งอยู่กับที่อาจหมายถึงการถอยหลัง การ Upskills หรือพัฒนาทักษะจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นสำหรับความก้าวหน้าในอาชีพ และหนึ่งในเส้นทางที่ทรงพลังที่สุดในการยกระดับตัวเองก็คือการ ศึกษาต่อ ในระดับที่สูงขึ้นอย่างปริญญาโทและปริญญาเอก บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงทักษะล้ำค่าที่ตลาดงานต้องการ ซึ่งคุณจะได้รับจากการลงทุนให้กับการศึกษา

1. ทำไมการ Upskills ถึงสำคัญในยุคดิจิทัล?

เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของตลาดแรงงานทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ตำแหน่งงานแบบเดิมๆ อาจถูกลดความสำคัญลง ในขณะที่ตำแหน่งงานใหม่ๆ ที่ต้องการทักษะขั้นสูงกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การ อัปสกิล จึงเปรียบเสมือนการสร้างเกราะป้องกันและใบเบิกทางสู่อนาคต การ ศึกษาต่อ ไม่ได้ให้เพียงแค่ “วุฒิ” แต่เป็นการฝึกฝนกระบวนการคิด การวิเคราะห์ และการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่เครื่องจักรยังไม่สามารถทำแทนได้ ทำให้ผู้ที่มีทักษะเหล่านี้เป็นที่ต้องการขององค์กรชั้นนำ

2. ทักษะที่ได้จากการศึกษาต่อระดับปริญญาโท (Master’s Degree)

การเรียนต่อ ปริญญาโท คือการลงลึกในศาสตร์เฉพาะทาง ทำให้คุณกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Specialist) ในสาขานั้นๆ ซึ่งทักษะสำคัญที่ตลาดงานมองหาจากผู้จบการศึกษาระดับนี้ ได้แก่:

  • ความรู้เชิงลึก (In-depth Knowledge): คุณจะมีความเข้าใจในเนื้อหาที่ลึกซึ้งกว่าระดับปริญญาตรี สามารถนำทฤษฎีไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาจริงในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ทักษะการวิเคราะห์และแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Complex Problem-Solving): ผ่านการทำวิทยานิพนธ์ (Thesis) หรือโครงการศึกษาค้นคว้าอิสระ (Independent Study) คุณจะได้ฝึกฝนการตั้งคำถาม, รวบรวมข้อมูล, วิเคราะห์ และสังเคราะห์เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
  • ทักษะการบริหารจัดการ (Management Skills): การเรียน ปริญญาโท มักมีโปรเจกต์กลุ่มและการบริหารเวลาที่เข้มข้น โดยเฉพาะการทำวิทยานิพนธ์ที่เปรียบเสมือนการบริหารโครงการขนาดย่อมด้วยตัวเอง
  • เครือข่ายทางวิชาชีพ (Professional Network): การได้พบปะกับคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิและเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่มาจากหลากหลายสายอาชีพ ถือเป็นเครือข่ายอันล้ำค่าที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต

3. ก้าวสู่ความเป็นเลิศกับทักษะจากปริญญาเอก (Doctoral Degree)

หากปริญญาโทคือการเป็นผู้เชี่ยวชาญ การ ศึกษาต่อ ระดับ ปริญญาเอก ก็คือการก้าวไปสู่การเป็น “ผู้สร้างองค์ความรู้ใหม่” ทักษะที่ได้จากระดับนี้มีความพิเศษและเป็นที่ต้องการอย่างยิ่งในสายงานวิจัยและพัฒนา (R&D), สถาบันการศึกษา และตำแหน่งที่ปรึกษาระดับสูง

  • ทักษะการวิจัยขั้นสูง (Advanced Research Skills): ความสามารถในการออกแบบกระบวนการวิจัยที่น่าเชื่อถือ ตั้งสมมติฐาน ค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ซึ่งเป็นหัวใจของการสร้างนวัตกรรม
  • การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking): คุณจะถูกฝึกให้ตั้งคำถามกับองค์ความรู้เดิมๆ สามารถมองเห็นช่องว่างและโอกาสในการพัฒนาต่อยอดได้อย่างเฉียบคม
  • ความอดทนและความมุ่งมั่น (Perseverance & Resilience): การเรียน ปริญญาเอก เป็นเส้นทางที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความท้าทาย การจบการศึกษาได้พิสูจน์ถึงความมีวินัย ความอดทน และความสามารถในการจัดการกับแรงกดดันได้เป็นอย่างดี
  • ทักษะการสื่อสารและถ่ายทอด (Communication & Teaching): การนำเสนอผลงานวิจัยในที่ประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ รวมถึงการสอนหนังสือ เป็นการฝึกฝนทักษะการถ่ายทอดเรื่องยากให้เข้าใจง่ายได้อย่างยอดเยี่ยม

4. เชื่อมโยงทักษะสู่ตลาดงานที่ต้องการตัว

ทักษะจากการ ศึกษาต่อ ทั้งระดับ ปริญญาโท และ ปริญญาเอก เป็นที่ต้องการอย่างมากในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น:

  • สายเทคโนโลยีและนวัตกรรม: ตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist), ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI, นักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์
  • สายการเงินและการให้คำปรึกษา: นักวิเคราะห์การลงทุน, ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consultant) ที่ต้องการทักษะการวิเคราะห์เชิงลึก
  • สายวิชาการและการศึกษา: อาจารย์มหาวิทยาลัย, นักวิจัยในสถาบันต่างๆ
  • ระดับบริหาร: ผู้บริหารระดับสูงที่ต้องใช้ความสามารถในการวางกลยุทธ์และตัดสินใจจากข้อมูลที่ซับซ้อน

การวางแผน อัปสกิล ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณกำลังพิจารณาเลือกหลักสูตร ลองอ่านบทความ เลือกหลักสูตรปริญญาโทอย่างไรให้คุ้มค่า ตรงเป้าหมายในอนาคต และ แนวโน้มหลักสูตรปริญญาเอกยอดนิยมและสาขาที่เปิดสอนในปี 2025 ของมหาวิทยาลัยศรีปทุม หรือค้นหาข้อมูลหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อความมั่นใจ

5. คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการศึกษาต่อเพื่อ Upskills

Q1: การเรียนต่อ ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก เหมาะกับทุกคนหรือไม่?

A: การศึกษาต่อเป็นเครื่องมืออัปสกิล ที่ทรงพลัง แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคนและทุกสายอาชีพ ควรพิจารณาเป้าหมายในอาชีพของตนเองก่อนว่าต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือไม่ บางสายงานอาจให้ความสำคัญกับประสบการณ์การทำงานหรือใบรับรองวิชาชีพ (Certificates) มากกว่า แต่หากสายงานของคุณต้องการความรู้เชิงลึก การวิจัย หรือตำแหน่งทางวิชาการ การ ศึกษาต่อ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง


Q2: ใช้เวลาเท่าไหร่ในการ ศึกษาต่อ ระดับบัณฑิตศึกษา?

A: โดยทั่วไป หลักสูตร ปริญญาโท ในประเทศไทยจะใช้เวลาประมาณ 1.5 – 2 ปี (สำหรับภาคปกติ) ส่วนระดับ ปริญญาเอก จะใช้เวลาประมาณ 3 – 5 ปี ขึ้นอยู่กับสาขาวิชา ข้อกำหนดของหลักสูตร และความก้าวหน้าในการทำวิจัยของนักศึกษาแต่ละคน


Q3: ทักษะอะไรสำคัญที่สุดที่ได้จากการเรียนต่อ ซึ่งแตกต่างจากการทำงาน?

A: ทักษะที่โดดเด่นและแตกต่างคือ “กระบวนการคิดเชิงวิพากษ์และการวิจัยอย่างเป็นระบบ” ในการทำงาน เรามักจะแก้ปัญหาตามกรอบหรือแนวทางที่มีอยู่แล้ว แต่การศึกษาระดับสูงจะสอนให้เราตั้งคำถามกับกรอบเหล่านั้น, ค้นหาข้อมูลอย่างรอบด้าน, ออกแบบวิธีการทดสอบสมมติฐาน และสร้างองค์ความรู้หรือแนวทางแก้ไขใหม่ๆ ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นทักษะของผู้นำและนักสร้างสรรค์นวัตกรรม

โดยสรุป การตัดสินใจ ศึกษาต่อ เพื่ออัปสกิลถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ให้ผลตอบแทนเป็นทักษะล้ำค่าที่ตลาดงานต้องการ ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญเชิงลึกจาก ปริญญาโท หรือความสามารถในการสร้างนวัตกรรมจาก ปริญญาเอก ทักษะเหล่านี้จะช่วยเปิดประตูสู่โอกาสทางอาชีพที่กว้างขึ้นและสร้างความโดดเด่นให้กับคุณในระยะยาว

——————————————————————————-

รวมหลักสูตรปริญญาโท-เอก มหาวิทยาลัยศรีปทุม

หลักสูตรปริญญาเอก มหาวิทยาลัยศรีปทุม

รวม 8 หลักสูตร

  • หลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต (DOCTOR OF BUSINESS ADMINISTRATION)
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (DOCTOR OF PHILOSOPHY (EDUCATIONAL ADMINISTRATION))
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน (DOCTOR OF PHILOSOPHY (LOGISTICS AND SUPPLY CHAIN MANAGEMENT))
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี (DOCTOR OF PHILOSOPHY (ACCOUNTANCY))
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (DOCTOR OF PHILOSOPHY (INFORMATION TECHNOLOGY))
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิติรัฐกิจและการบริหาร (DOCTOR OF PHILOSOPHY (PUBLIC AND BUSINESS ADMINISTRATION JURISPRUDENCE))
  • หลักสูตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต (DOCTOR OF LAWS)
  • หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา (DOCTOR OF ENGINEERING (CIVIL ENGINEERING))

หลักสูตรปริญญาโท มหาวิทยาลัยศรีปทุม

รวม 9 หลักสูตร

  • หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MASTER OF BUSINESS ADMINISTRATION)
  • หลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต (MASTER OF MANAGEMENT ADMINISTRATION)
  • หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (MASTER OF PUBLIC ADMINISTRATION PROGRAM)
  • หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมการเรียนรู้และการสอน (MASTER OF EDUCATION (INNOVATIONS IN LEARNING AND TEACHING))
  • หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (MASTER OF EDUCATION (EDUCATIONAL ADMINISTRATION))
  • หลักสูตรบัญชีมหาบัณฑิต (MASTER OF ACCOUNTANCY)
  • หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต (MASTER OF LAWS)
  • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (MASTER OF SCIENCE (INFORMATION TECHNOLOGY))
  • หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา (MASTER OF ENGINEERING (CIVIL ENGINEERING))

(Visited 2 times, 2 visits today)

Related posts

เส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบการ Startup: ทำไมควรเรียนต่อปริญญาโท MBA สาขาบริหารธุรกิจ

Wadee

เลือกหลักสูตรปริญญาโทอย่างไรให้คุ้มค่า ตรงเป้าหมายในอนาคต

Wadee

เจาะลึกเส้นทางสายเงินเดือนวิศวกรโยธา: แตกต่างอย่างไรระหว่างจบปริญญาโทกับปริญญาเอก?

Wadee