เรียนต่อปริญญาโท ปริญญาเอกสร้างความรู้และเครือข่าย: อัปเลเวลการแข่งขันในสายงาน
ในโลกธุรกิจและการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การหยุดนิ่งเท่ากับการถอยหลัง การตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโท และ ปริญญาเอกในระดับที่สูงขึ้นจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความได้เปรียบ การศึกษาต่อในระดับปริญญาโท และ ปริญญาเอก คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนทั้งในด้านความรู้เชิงลึก ทักษะเฉพาะทาง และเครือข่ายคอนเนคชั่นที่ประเมินค่าไม่ได้
OVERVIEW
ทำไมการเรียนต่อป.โท-เอก จึงสำคัญในยุคนี้?
ตลาดแรงงานปัจจุบันต้องการบุคลากรที่มีความสามารถรอบด้านและมีความรู้เฉพาะทางอย่างแท้จริง การแข่งขันที่สูงขึ้นทำให้วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีอาจไม่เพียงพออีกต่อไป การเรียนต่อจึงเป็นคำตอบสำหรับผู้ที่ต้องการ:
- เพิ่มความรู้เชิงลึก: ก้าวข้ามความรู้พื้นฐานไปสู่ความเข้าใจในศาสตร์ของตนเองอย่างถ่องแท้
- พัฒนาทักษะที่จำเป็น: ฝึกฝนทักษะการวิเคราะห์ การวิจัย การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และการนำเสนออย่างมืออาชีพ
- สร้างความน่าเชื่อถือ: วุฒิการศึกษาที่สูงขึ้นเป็นเครื่องหมายการันตีถึงความมุ่งมั่นและความเชี่ยวชาญในสายงานนั้น ๆ
ยกระดับความเชี่ยวชาญด้วยปริญญาโท
การศึกษาต่อระดับปริญญาโท (Master’s Degree) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการต่อยอดความรู้จากปริญญาตรีให้เข้มข้นขึ้น หรือต้องการเปลี่ยนสายงานไปยังสาขาที่สนใจ โดยมุ่งเน้นการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริง
- ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง: หลักสูตรส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้าง Specialist ในสาขาต่าง ๆ ทำให้คุณกลายเป็นผู้รู้จริง
- โอกาสทางอาชีพที่ดีขึ้น: หลายตำแหน่งงาน โดยเฉพาะระดับผู้จัดการหรือผู้เชี่ยวชาญ ต้องการวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท ซึ่งมักมาพร้อมกับฐานเงินเดือนที่สูงขึ้น
- สร้างคอนเนคชั่นในวงการ: ได้พบปะกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนและอาจารย์ที่มาจากหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเครือข่ายสำคัญในอนาคต
ก้าวสู่การเป็นผู้นำทางความคิดกับปริญญาเอก
สำหรับผู้ที่หลงใหลในการค้นคว้า ต้องการสร้างองค์ความรู้ใหม่ หรือมุ่งสู่เส้นทางสายวิชาการ การเรียนต่อระดับปริญญาเอก (Doctoral Degree) คือเป้าหมายสูงสุด การทำวิจัยเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล จะทำให้คุณกลายเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและเป็นที่ยอมรับในวงการ
- ทักษะการวิจัยขั้นสูง: เรียนรู้กระบวนการวิจัยอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การตั้งคำถาม การออกแบบ การเก็บข้อมูล ไปจนถึงการวิเคราะห์และสรุปผล
- สร้างองค์ความรู้ใหม่: ผลงานวิทยานิพนธ์ของคุณคือการต่อยอดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับวงการวิชาการและสังคม
- เปิดประตูสู่อาชีพเฉพาะทาง: เช่น นักวิชาการ, นักวิจัยในองค์กรชั้นนำ, ที่ปรึกษาระดับสูง ที่ต้องการผู้ที่มีความสามารถในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรม
เครือข่าย: สินทรัพย์ล้ำค่าจากการศึกษาต่อ
นอกเหนือจากความรู้ในตำรา สิ่งที่มีค่าที่สุดจากการเรียนต่อ คือ “เครือข่าย” ทั้งระดับปริญญาโท และ ปริญญาเอก คุณจะได้สร้างความสัมพันธ์กับ:
- คณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ: ที่ปรึกษาและ Mentor ที่พร้อมให้คำแนะนำและเปิดโอกาสให้คุณ
- เพื่อนร่วมรุ่น: ว่าที่ผู้นำในองค์กรต่าง ๆ ที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในอนาคต
- ศิษย์เก่า: เครือข่ายรุ่นพี่ที่แข็งแกร่งซึ่งพร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนกัน
การมีเครือข่ายที่ดีสามารถช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและโอกาสใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนต่อปริญญาโท-ปริญญาเอกกับการสร้างโอกาสและเครือข่ายคนทำงาน: เผชิญและเอาชนะความท้าทายเพื่อความเติบโตทางอาชีพ)
———————————————————————————-
รวมหลักสูตรปริญญาโท-เอก มหาวิทยาลัยศรีปทุม
หลักสูตรปริญญาเอก มหาวิทยาลัยศรีปทุม
รวม 8 หลักสูตร
- หลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต (DOCTOR OF BUSINESS ADMINISTRATION)
- หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (DOCTOR OF PHILOSOPHY (EDUCATIONAL ADMINISTRATION))
- หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน (DOCTOR OF PHILOSOPHY (LOGISTICS AND SUPPLY CHAIN MANAGEMENT))
- หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี (DOCTOR OF PHILOSOPHY (ACCOUNTANCY))
- หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (DOCTOR OF PHILOSOPHY (INFORMATION TECHNOLOGY))
- หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิติรัฐกิจและการบริหาร (DOCTOR OF PHILOSOPHY (PUBLIC AND BUSINESS ADMINISTRATION JURISPRUDENCE))
- หลักสูตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต (DOCTOR OF LAWS)
- หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา (DOCTOR OF ENGINEERING (CIVIL ENGINEERING))
หลักสูตรปริญญาโท มหาวิทยาลัยศรีปทุม
รวม 9 หลักสูตร
- หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MASTER OF BUSINESS ADMINISTRATION)
- หลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต (MASTER OF MANAGEMENT ADMINISTRATION)
- หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (MASTER OF PUBLIC ADMINISTRATION PROGRAM)
- หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมการเรียนรู้และการสอน (MASTER OF EDUCATION (INNOVATIONS IN LEARNING AND TEACHING))
- หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (MASTER OF EDUCATION (EDUCATIONAL ADMINISTRATION))
- หลักสูตรบัญชีมหาบัณฑิต (MASTER OF ACCOUNTANCY)
- หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต (MASTER OF LAWS)
- หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (MASTER OF SCIENCE (INFORMATION TECHNOLOGY))
- หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา (MASTER OF ENGINEERING (CIVIL ENGINEERING))
Q&A: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเรียนต่อ
1. ควรเรียนต่อปริญญาโททันทีหลังจบปริญญาตรี หรือทำงานก่อนดี?
ไม่มีคำตอบที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและสาขาวิชา:
- เรียนต่อทันที: เหมาะสำหรับสายงานที่ต้องการความรู้เชิงลึกตั้งแต่เริ่มต้น หรือต้องการเรียนต่อเนื่องเพื่อความรวดเร็ว
- ทำงานก่อน: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาตัวเองให้แน่ใจ หรือต้องการนำประสบการณ์ทำงานมาต่อยอดในการเรียน ทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น และมีมุมมองที่กว้างกว่า
2. จะเลือกระหว่างปริญญาโทกับปริญญาเอกได้อย่างไร?
พิจารณาจากเป้าหมายในอาชีพเป็นหลัก:
- ปริญญาโท: เน้นการเป็น “ผู้ปฏิบัติงาน” ที่เชี่ยวชาญ (Expert Practitioner) เหมาะกับการทำงานในภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม หรือองค์กรทั่วไป
- ปริญญาเอก: เน้นการเป็น “ผู้สร้างความรู้” (Knowledge Creator) เหมาะกับสายงานวิชาการ, นักวิจัย, หรือผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาในสาขาที่ต้องอาศัยการค้นคว้าขั้นสูง
3. การเรียนต่อต้องเตรียมตัวเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง?
ค่าใช้จ่ายประกอบด้วยค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพ ควรวางแผนทางการเงินล่วงหน้า โดยสามารถหาแหล่งทุนสนับสนุนได้จากหลายช่องทาง เช่น ทุนของมหาวิทยาลัย, ทุนจากองค์กรภายนอก, หรือกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ลองศึกษาข้อมูลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยและค่าใช้จ่ายประกอบการตัดสินใจได้จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออย่าง QS World University Rankings