CFO ในยุคใหม่: ทำไมปริญญาโทและปริญญาเอกคือกุญแจสู่ตำแหน่ง C-Level
ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน หรือ CFO ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การดูแลตัวเลขอีกต่อไป แต่ได้วิวัฒนาการสู่การเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์คนสำคัญขององค์กร การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การ ศึกษาต่อ ในระดับสูงกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการก้าวสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง หรือ C-Level
OVERVIEW
บทบาทของ CFO ที่เปลี่ยนไปในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล
ในอดีต Chief Financial Officer อาจถูกมองว่าเป็นผู้ดูแลบัญชีและการเงินของบริษัท แต่ปัจจุบัน บทบาทนี้ขยายขอบเขตไปไกลกว่านั้นมาก ผู้บริหารในตำแหน่ง C-Level ด้านการเงินต้องมีความสามารถรอบด้านเพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า
- ✔
Strategic Partner: ทำงานร่วมกับ CEO และผู้บริหาร C-Level คนอื่น ๆ เพื่อกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ขององค์กร - ✔
Data-Driven Decision Maker: ใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์ขั้นสูง (Data Analytics) เพื่อประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ ไม่ใช่แค่รายงานผลประกอบการ - ✔
Technology Advocate: นำเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) และระบบอัตโนมัติมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน - ✔
Risk Manager: บริหารจัดการความเสี่ยงที่ซับซ้อน ตั้งแต่ความเสี่ยงทางการเงินไปจนถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์และปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์
การศึกษาต่อปริญญาโทและปริญญาเอก: มากกว่าแค่ใบปริญญา
การลงทุนเวลาและทรัพยากรเพื่อการ ศึกษาต่อ ในระดับ ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก ไม่ได้มอบแค่คุณวุฒิ แต่ยังมอบทักษะและความรู้เชิงลึกที่จำเป็นสำหรับบทบาท Chief Financial Officer สมัยใหม่
ปริญญาโท (Master’s Degree): ประตูสู่ความเชี่ยวชาญเชิงลึก
หลักสูตร ปริญญาโท เช่น MBA (Master of Business Administration) ที่เน้นด้านการเงิน หรือ MSc in Finance/Financial Engineering จะช่วยเสริมสร้างทักษะสำคัญ ได้แก่
- ✔
ความรู้ทางการเงินขั้นสูง: เข้าใจโมเดลทางการเงินที่ซับซ้อน การประเมินมูลค่ากิจการ และการบริหารการลงทุน - ✔
ทักษะการบริหารจัดการ: เรียนรู้การบริหารคน โครงการ และการวางกลยุทธ์ ซึ่งเป็นหัวใจของการทำงานในระดับ C-Level - ✔
เครือข่าย (Networking): สร้างคอนเนคชันกับคณาจารย์และเพื่อนร่วมชั้น ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้นำในหลากหลายอุตสาหกรรม
ปริญญาเอก (Doctoral Degree): สร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่
แม้จะไม่ใช่เส้นทางสำหรับทุกคน แต่การศึกษาต่อในระดับ ปริญญาเอก (Ph.D. หรือ DBA) มอบข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่หรือองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
- ✔
ทักษะการวิจัยและการคิดเชิงวิพากษ์: สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่ไม่มีโครงสร้างชัดเจน ตั้งสมมติฐาน และค้นหาคำตอบด้วยกระบวนการที่เป็นระบบ - ✔
การเป็นผู้นำทางความคิด (Thought Leadership): สร้างความน่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ลึกซึ้งที่สุดในสาขานั้น ๆ
การศึกษาต่อปริญญาโทและปริญญาเอก ช่วยเพิ่มโอกาสสู่ตำแหน่ง C-Level ได้อย่างไร
คุณวุฒิการศึกษาระดับสูงเป็นมากกว่าแค่บรรทัดในเรซูเม่ แต่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่น ความสามารถในการเรียนรู้ และการมีกรอบความคิดเชิงกลยุทธ์ที่จำเป็นสำหรับผู้บริหารระดับ C-Level
- ✔
สร้างความแตกต่าง: ในตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูง การมีวุฒิ ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก ทำให้โปรไฟล์โดดเด่นและน่าสนใจสำหรับตำแหน่งงานสำคัญ - ✔
ตอบโจทย์ความท้าทายที่ซับซ้อน: ธุรกิจปัจจุบันเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ตลอดเวลา ผู้ที่มีทักษะการวิเคราะห์และแก้ปัญหาขั้นสูงที่ได้จากการ ศึกษาต่อ จะสามารถรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้ดีกว่า - ✔
เพิ่มความน่าเชื่อถือ: การมีวุฒิการศึกษาสูงช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับคณะกรรมการบริษัท นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ว่าคุณมีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้
ดังนั้น การวางแผนเส้นทางสู่การเป็นผู้บริหารระดับสูง จึงควรพิจารณาการ ศึกษาต่อ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาอาชีพ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับบทบาท Chief Financial Officer ในอนาคต
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการศึกษาต่อ
1. จำเป็นต้องจบปริญญาโทหรือปริญญาเอกเท่านั้นหรือไม่ ถึงจะเป็น Chief Financial Officer ได้?
ไม่จำเป็นเสมอไป ประสบการณ์ทำงานที่โชกโชนและความสำเร็จที่พิสูจน์ได้ยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด อย่างไรก็ตาม การมีวุฒิการศึกษาระดับสูงจะช่วยเร่งเส้นทางอาชีพและเปิดประตูสู่โอกาสในองค์กรชั้นนำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตำแหน่ง C-Level ที่ต้องการทั้งความรู้เชิงลึกและวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์
2. ควรเลือกเรียนต่อปริญญาโทสาขาอะไร เพื่อมุ่งสู่ตำแหน่ง C-Level?
สาขาที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ MBA (บริหารธุรกิจ) ที่มีความเข้มข้นด้านการเงิน (Finance Concentration) นอกจากนี้ หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาการเงิน (Master of Science in Finance) หรือสาขาที่เกี่ยวข้องกับ Data Science และ Business Analytics ก็กำลังเป็นที่ต้องการสูง เนื่องจากทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ Chief Financial Officer ยุคใหม่
3. ประสบการณ์ทำงานกับการศึกษาต่อ อะไรสำคัญกว่ากัน?
ทั้งสองสิ่งสำคัญและส่งเสริมซึ่งกันและกัน ประสบการณ์ทำงานสร้างความเข้าใจในภาคปฏิบัติ ในขณะที่การ ศึกษาต่อ ช่วยเสริมกรอบทฤษฎีและมุมมองเชิงกลยุทธ์ สำหรับตำแหน่ง CFO และ C-Level อื่นๆ การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างประสบการณ์หลายปีกับการศึกษาระดับสูง (เช่น ปริญญาโท) ถือเป็นสูตรสำเร็จที่ดีที่สุด อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับมุมมองนี้ได้จาก Harvard Business Review