ป.โทเอก Business Content

สร้างความได้เปรียบในตลาดงาน: ทักษะอนาคต (Future Skills) ที่คนทำงานขาดไม่ได้

Future Skills

สร้างความได้เปรียบในตลาดงาน: ทักษะอนาคต (Future Skills) ที่คนทำงานขาดไม่ได้

โลกการทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติ การแข่งขันในตลาดแรงงานจึงสูงขึ้นกว่าที่เคย การเตรียมความพร้อมด้วยชุด ทักษะอนาคต (Future Skills) ที่จำเป็น จึงไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จและความก้าวหน้าในสายอาชีพสำหรับคนทำงานทุกคนในยุคดิจิทัล

ทักษะอนาคต (Fusure Skills) คืออะไร และทำไมจึงสำคัญ?

ทักษะอนาคต ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ทักษะด้านเทคโนโลยี (Hard Skills) อย่างการเขียนโค้ดหรือการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ยังรวมถึงทักษะด้านอารมณ์และสังคม (Soft Skills) ที่เครื่องจักรหรือ AI ไม่สามารถทำแทนได้ ความสำคัญของทักษะเหล่านี้มาจาก:

  • การเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งงาน: งานรูปแบบเดิมๆ กำลังถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้คนทำงานต้องปรับตัวไปทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจที่ซับซ้อนมากขึ้น
  • ความต้องการของตลาด: องค์กรยุคใหม่มองหาบุคลากรที่มีความสามารถรอบด้าน สามารถเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
  • การทำงานร่วมกับ AI: คนทำงานในอนาคตจะต้องสามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มศักยภาพและสร้างผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

เจาะลึก 5 ทักษะอนาคตที่คนทำงานต้องมี

จากรายงานของ World Economic Forum และเทรนด์ของตลาดโลก สามารถสรุป ทักษะอนาคต ที่สำคัญสำหรับคนทำงานได้ดังนี้

  • 1. การคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Analytical & Complex Problem-Solving)

    ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล ระบุแก่นของปัญหา และหาทางแก้ไขอย่างเป็นระบบ ถือเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการรับมือกับความท้าทายที่คาดเดาไม่ได้

  • 2. ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity & Innovation)

    การคิดนอกกรอบเพื่อสร้างสรรค์แนวทางใหม่ๆ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือโมเดลธุรกิจ เป็นสิ่งที่ AI ยังทำได้ไม่ดีเท่ามนุษย์ ทักษะนี้จึงสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มได้อย่างมหาศาล

  • 3. ความเข้าใจด้านเทคโนโลยี AI และ Big Data (AI & Big Data Literacy)

    ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่คนทำงานทุกคนควรมีความเข้าใจพื้นฐานว่า AI และข้อมูลขนาดใหญ่ทำงานอย่างไร เพื่อนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ในการทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ

  • 4. ความฉลาดทางอารมณ์และการสื่อสาร (Emotional Intelligence & Communication)

    ทักษะการเข้าใจตนเองและผู้อื่น การทำงานร่วมกัน การเจรจาต่อรอง และการโน้มน้าวใจ เป็นทักษะของมนุษย์โดยแท้ที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันราบรื่นและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

  • 5. การเรียนรู้ตลอดชีวิตและความสามารถในการปรับตัว (Lifelong Learning & Adaptability)

    โลกที่หมุนเร็วทำให้ความรู้เก่าหมดอายุไว การมีทัศนคติที่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ (Growth Mindset) และความยืดหยุ่นในการปรับตัวตามสถานการณ์ คือ ทักษะอนาคต ที่จะทำให้คุณอยู่รอดและเติบโตได้ในทุกสภาวะ

จะเริ่มต้นพัฒนาทักษะเหล่านี้ได้อย่างไร?

การพัฒนาทักษะไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาสอน คุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยตัวเองผ่านช่องทางต่างๆ

  • เรียนผ่านคอร์สออนไลน์ หรือลงคอร์สปริญญาโท-เอก เพื่อความรู้ที่ลึกขึ้น: ในแพลตฟอร์มออนไลน์มีหลักสูตรมากมายที่เกี่ยวข้องกับทักษะอนาคต หรือหากสนใจเรียนแบบลงลึก เรียนกับตัวจริงที่มีประสบการณ์จริงในสายงาน อาจมองหาคอร์สปริญญาโท-เอก หลักสูตรที่ตอบโจทย์สายงานของตัวเองได้
  • เข้าร่วม Workshop หรือสัมมนา: เพื่อเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและสร้างเครือข่ายกับคนในแวดวงเดียวกัน
  • ลงมือทำโปรเจกต์ส่วนตัว: ลองนำความรู้ที่เรียนมาไปประยุกต์ใช้จริง เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์และความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
  • อ่านและติดตามข่าวสาร: ติดตามเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออย่างสม่ำเสมอ
  • ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง: อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การจัดการ Work และ Life อย่างไร ให้ไม่ Burnout เพื่อรักษาสมดุลระหว่าง Work และ Life กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จและความสุขที่ยั่งยืน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q1: คนทำงานที่ไม่ใช่สายเทคโนโลยี จำเป็นต้องมีทักษะอนาคตเหล่านี้หรือไม่?

A: จำเป็นอย่างยิ่ง ทักษะอนาคตส่วนใหญ่ เช่น การคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และความฉลาดทางอารมณ์ เป็นทักษะสากลที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกสายอาชีพ และจะยิ่งสำคัญมากขึ้นเมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม

Q2: ควรเริ่มพัฒนาทักษะไหนก่อนเป็นอันดับแรก?

A: แนะนำให้เริ่มต้นจาก “การเรียนรู้ตลอดชีวิตและความสามารถในการปรับตัว” เพราะเป็นทักษะที่เป็นพื้นฐานของการพัฒนาทักษะอื่นๆ ทั้งหมด เมื่อคุณมีทัศนคติที่พร้อมเรียนรู้ การจะต่อยอดไปสู่ทักษะเฉพาะทางอื่นๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น

Q3: องค์กรจะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้พนักงานพัฒนาทักษะเหล่านี้ได้อย่างไร?

A: องค์กรสามารถสนับสนุนได้โดยการจัดโปรแกรมฝึกอบรม (Upskill/Reskill), สนับสนุนงบประมาณสำหรับการเรียนรู้ผ่านคอร์สออนไลน์, สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการเรียนรู้และกล้าทดลองสิ่งใหม่ๆ รวมถึงการมอบหมายงานที่ท้าทายเพื่อให้พนักงานได้ฝึกใช้ทักษะในสถานการณ์จริง

(Visited 2 times, 1 visits today)

Related posts

แนวโน้มการเรียนต่อปริญญาโทสำหรับวิศวกรโยธาในไทย (Civil Engineering): ตัวเลือกและเส้นทางสู่ความก้าวหน้า

Wadee

นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดย Next Gen CEO: 5 ตัวอย่างจากไทยและเวทีโลก

Wadee

แนวโน้มหลักสูตรปริญญาเอกยอดนิยมและสาขาที่เปิดสอนในปี 2025 ของมหาวิทยาลัยศรีปทุม

Wadee