เส้นทางสู่อาชีพเจ้าของธุรกิจและที่ปรึกษาทางบัญชีสำหรับบัณฑิตศรีปทุม

Part 1: เส้นทางสู่การเป็น “เจ้าของธุรกิจ” – จากนักบัญชีสู่ CEO สาวสุดปัง!

ใครว่าเด็กบัญชีต้องนั่งทำตัวเลขอยู่หลังโต๊ะอย่างเดียว? ไม่จริงเลย! ความรู้ด้านบัญชีนี่แหละคือ ‘แต้มต่อ’ ที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ เพราะในขณะที่คนอื่นอาจจะมองเห็นแค่สินค้าสวยๆ หรือการตลาดเก๋ๆ แต่เรา… เรามองเห็นลึกลงไปถึงโครงสร้างทางการเงิน, กระแสเงินสด, จุดคุ้มทุน และกำไรที่แท้จริง! พูดง่ายๆ คือ เรามองเกมขาดกว่าใครเพื่อน!

ทำไมความรู้บัญชีถึงเป็น ‘หัวใจ’ ของการทำธุรกิจ?

• เข้าใจสุขภาพทางการเงิน: งบการเงินไม่ใช่แค่เอกสารส่งสรรพากร แต่มันคือ EKG ที่บอกว่าธุรกิจของเราแข็งแรงแค่ไหน เราจะรู้ได้ทันทีว่าเงินสดกำลังจะขาดมือมั้ย? หรือกำไรที่เห็นเป็นแค่ตัวเลขลวงตาหรือเปล่า?
• ตั้งราคาขายอย่างมีกลยุทธ์: ไม่ใช่แค่บวกกำไรที่อยากได้เข้าไปดื้อๆ แต่เราสามารถคำนวณต้นทุนทุกเม็ด (Fixed Cost, Variable Cost) เพื่อตั้งราคาที่แข่งขันได้และมีกำไรเหลือพอให้ธุรกิจเติบโต
• วางแผนภาษีได้อย่างชาญฉลาด: เรื่องปวดหัวของเจ้าของธุรกิจมือใหม่ แต่เป็นสนามเด็กเล่นของเรา! การวางแผนภาษีที่ดีช่วยประหยัดเงินให้บริษัทได้มหาศาล ซึ่งเงินส่วนนั้นสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจได้อีกเยอะ
• คุยกับธนาคารและนักลงทุนรู้เรื่อง: เวลาจะขอสินเชื่อหรือระดมทุน สิ่งที่พวกเขาอยากเห็นที่สุดคือแผนธุรกิจและประมาณการทางการเงินที่สมเหตุสมผล ซึ่งเป็นสิ่งที่เราชาวบัญชี SPU ทำได้อย่างมืออาชีพ

Step-by-Step: ก้าวแรกสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ สำหรับบัณฑิตบัญชี SPU

อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองเหรอ? ไม่ต้องกลัว! มาดูกันทีละสเต็ปเลย

Step 1: ค้นหาสิ่งที่ใช่ + ตรวจสอบความเป็นไปได้

เริ่มต้นจาก Passion ของเราก่อนเลย ชอบอะไร? สนใจอะไรเป็นพิเศษ? อาจจะเป็นร้านกาแฟเล็กๆ, แบรนด์เสื้อผ้า, ธุรกิจบริการออนไลน์ หรือแม้แต่การเปิดสำนักงานบัญชีของตัวเอง! เมื่อเจอสิ่งที่ชอบแล้ว ให้ใช้ความรู้ด้านการวิเคราะห์ของเรามาประเมินความเป็นไปได้ทางการตลาด (Market Feasibility) ดูว่ามีกลุ่มลูกค้าไหม คู่แข่งเป็นใคร แล้วเราจะสู้เขาได้อย่างไร

Step 2: เขียนแผนธุรกิจ (Business Plan) ฉบับเทพ

นี่คือพื้นที่โชว์ของ! ในขณะที่คนอื่นอาจจะเก่งเรื่อง Marketing Plan แต่พาร์ท Financial Plan คือจุดที่เราจะฉายแสงที่สุด! ใส่ให้เต็มทั้งประมาณการรายได้, โครงสร้างต้นทุน, การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน (Break-Even Point), และประมาณการงบการเงินล่วงหน้า 3-5 ปี แผนธุรกิจที่ดีจะเปรียบเสมือน GPS นำทางให้ธุรกิจของเราไม่หลงทาง

Step 3: การจดทะเบียนและเรื่องกฎหมายภาษี

จะจดเป็นบุคคลธรรมดา, ห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทจำกัดดี? แต่ละรูปแบบมีข้อดีข้อเสียและภาระทางภาษีต่างกัน ซึ่งความรู้ที่เรียนมาจาก คณะบัญชี ศรีปทุม จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกรูปแบบที่เหมาะสมและประหยัดภาษีที่สุดสำหรับธุรกิจของเราได้ รวมถึงการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ต้องวางแผนให้ดีตั้งแต่แรก

Step 4: จัดการระบบบัญชีหลังบ้านให้เป๊ะ

อย่าให้เกิดเหตุการณ์ ‘หาเอกสารไม่เจอ’ หรือ ‘ตัวเลขไม่ตรง’ เด็ดขาด! ในฐานะที่เราเป็นนักบัญชี เราต้องวางระบบตั้งแต่แรก อาจจะเริ่มจากการใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ง่ายๆ ที่เชื่อมต่อกับระบบขายหน้าร้าน (POS) ได้ จะช่วยให้เราเห็นข้อมูล Real-time และปิดงบได้ง่ายขึ้นเยอะเลย

การเป็นเจ้าของธุรกิจอาจจะเหนื่อยและท้าทาย แต่สำหรับบัณฑิตบัญชีอย่างเรา มันคือการนำความรู้ทั้งหมดที่เรียนมาใช้จริงแบบ 360 องศา และความรู้สึกที่ได้เห็นตัวเลขในงบกำไรขาดทุนที่เราสร้างขึ้นมาเองกับมือ…มันฟินสุดๆ ไปเลยล่ะ!

Part 2: เส้นทางสู่ “ที่ปรึกษาทางบัญชี” – เปลี่ยนตัวเลขให้เป็นกลยุทธ์ขั้นเทพ

ถ้าเธอคือคนที่หลงใหลในโลกของตัวเลข ชอบการวิเคราะห์แก้ปัญหา และสนุกกับการให้คำแนะนำที่สร้าง Value ให้กับคนอื่น อาชีพ “ที่ปรึกษาทางบัญชี (Accounting Consultant)” คือเส้นทางที่ใช่สำหรับเธอเลย! บทบาทนี้ไปไกลกว่าการทำบัญชีหรือตรวจสอบบัญชีทั่วไป แต่คือการเป็น ‘คู่คิด’ หรือ ‘มันสมอง’ ให้กับเจ้าของธุรกิจ

ที่ปรึกษาทางบัญชี ทำอะไรบ้าง? ไม่ใช่แค่นักบัญชีธรรมดา!

• วางระบบบัญชี (Accounting System Setup): ช่วยธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นหรือต้องการปรับปรุงระบบ ให้มีผังบัญชีและกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ รองรับการเติบโตในอนาคต
• ที่ปรึกษาภาษีอากร (Tax Advisor): ไม่ใช่แค่ยื่นภาษี แต่คือการวางแผนภาษีทั้งระบบ (Tax Planning) เพื่อให้ธุรกิจเสียภาษีอย่างถูกต้องและน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ตามกฎหมาย
• วิเคราะห์งบการเงินเพื่อการตัดสินใจ: แปลงตัวเลขในงบการเงินที่ดูน่าเบื่อ ให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึก (Insight) ที่ผู้บริหารสามารถนำไปใช้ตัดสินใจทางธุรกิจได้ เช่น ควรจะขยายสาขาดีไหม? หรือควรจะลดต้นทุนส่วนไหน?
• ให้คำปรึกษาด้านการควบคุมภายใน (Internal Control): ช่วยวางระบบเพื่อป้องกันการทุจริตและลดความผิดพลาดในการทำงานภายในองค์กร
• ที่ปรึกษาเฉพาะทาง: เช่น การควบรวมกิจการ (M&A), การปรับโครงสร้างหนี้, หรือการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายและมีมูลค่าสูงมาก

Step-by-Step: ปั้นตัวเองสู่ที่ปรึกษาทางบัญชีมือโปร

เส้นทางนี้อาจจะต้องใช้เวลาและความทุ่มเทในการสร้างโปรไฟล์ แต่ผลตอบแทนทั้งในแง่รายได้และคุณค่าในวิชาชีพนั้นคุ้มค่าแน่นอน

Step 1: เริ่มต้นเก็บประสบการณ์จาก ‘สนามจริง’

ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากการทำงานใน สำนักงานบัญชี หรือบริษัทตรวจสอบบัญชีชั้นนำ (ที่เรารู้จักกันในนาม Big 4) ที่นี่คือโรงเรียนฝึกวิชาชั้นยอด ที่จะทำให้เราได้เจอกับธุรกิจหลากหลายประเภท ได้เห็นเคสยากๆ และเรียนรู้มาตรฐานการทำงานที่เป็นสากล การเริ่มต้นที่นี่ 2-4 ปี จะเป็นฐานที่แข็งแกร่งมาก

Step 2: ค้นหาสายที่เชี่ยวชาญ (Find Your Niche)

หลังจากทำงานไปสักพัก เราจะเริ่มรู้ว่าเราชอบหรือถนัดด้านไหนเป็นพิเศษ เช่น บางคนอาจจะสนุกกับเรื่องภาษีมากๆ ก็มุ่งไปทางสาย Tax Consultant บางคนชอบการวางระบบ ก็ไปทางสาย System Implementation หรือบางคนเก่งเรื่องการตรวจสอบ ก็มุ่งไปสาย Internal Audit การมี Niche ที่ชัดเจนจะทำให้เราโดดเด่นและเป็นที่ต้องการตัวมากขึ้น

Step 3: อัปเกรดตัวเองด้วยใบปริญญาและ Certificate

นี่คือสิ่งที่จะการันตีความเป็นมืออาชีพของเรา! ใบปริญญาจาก คณะบัญชี SPU คือใบเบิกทางชั้นดี แต่การจะไปให้สุดในสายที่ปรึกษา เราต้องมีใบประกาศวิชาชีพเพิ่มเติม

• ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA): ที่สุดของวิชาชีพบัญชีในไทย เป็นใบอนุญาตที่เปิดประตูสู่งานตรวจสอบและให้ความเชื่อมั่นระดับสูง
• ผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA): สำหรับการตรวจสอบและรับรองบัญชีของห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดเล็ก
• ใบประกาศอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น CIA (Certified Internal Auditor) หรือ CISA (Certified Information Systems Auditor) สำหรับสายเฉพาะทาง

Step 4: พัฒนา Soft Skills ให้เฉียบคม

ที่ปรึกษาที่เก่งไม่ได้มีแค่ Hard Skills (ความรู้บัญชี/ภาษี) แต่ต้องมี Soft Skills ที่ยอดเยี่ยมด้วย

• Communication: สามารถอธิบายเรื่องบัญชีภาษีที่ซับซ้อนให้เจ้าของธุรกิจที่ไม่ใช่นักบัญชีเข้าใจได้ง่าย
• Problem-Solving: มองปัญหาของลูกค้าให้ออก และเสนอทางแก้ที่ปฏิบัติได้จริง
• Presentation & Negotiation: นำเสนอไอเดียได้อย่างน่าเชื่อถือและเจรจาต่อรองได้

‘สกิลติดตัว’ จากรั้วบัญชี ศรีปทุม (SPU) ที่ใช้ได้จริงทั้งสองเส้นทาง

ไม่ว่าสาวๆ จะเลือกเดินเส้นทางไหน การเป็น บัณฑิตบัญชี ศรีปทุม ทำให้เรามีต้นทุนที่ดีกว่าใคร เพราะหลักสูตรของที่นี่ไม่ได้สอนแค่ทฤษฎีในตำรา แต่เน้นสร้าง ‘นักบัญชีมืออาชีพยุคดิจิทัล’ ที่พร้อมใช้งานจริง

• ความรู้ทางวิชาชีพที่เข้มข้น: พื้นฐานด้านการเงิน การบัญชี ภาษีอากร และการตรวจสอบ ที่อัปเดตตามมาตรฐานล่าสุด ทำให้เรามีความรู้ที่แน่นปึ้กพร้อมต่อยอด
• ทักษะการใช้เทคโนโลยี: การได้เรียนและฝึกใช้โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูปต่างๆ และมีความเข้าใจในเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ทำให้เราปรับตัวเข้ากับโลกธุรกิจยุคใหม่ได้เร็ว
• Connection และเครือข่ายศิษย์เก่า: SPU มีความร่วมมือกับบริษัทและสำนักงานบัญชีชั้นนำมากมาย เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกงานและสร้างคอนเนคชั่นตั้งแต่เนิ่นๆ รวมถึงเครือข่ายศิษย์เก่าที่แข็งแกร่งคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
• Mindset แบบนักปฏิบัติ: ด้วยการเรียนการสอนที่เน้น Case Study และการลงมือทำจริง ทำให้เรามีทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทั้งเจ้าของธุรกิจและที่ปรึกษา

บทสรุป: เลือกเส้นทางที่ใช่ แล้วไปให้สุด!

เห็นไหมว่าการจบบัญชีไม่ได้มีแค่ทางเลือกเดียว! ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอาณาจักรธุรกิจของตัวเองในฐานะ ‘เจ้าของกิจการ’ ที่เข้าใจตัวเลขทุกมิติ หรือการเป็น ‘ที่ปรึกษาทางบัญชี’ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหลากหลายบริษัท ทั้งสองเส้นทางต่างก็เป็นอาชีพที่มีเกียรติ สร้างรายได้ที่ดี และเติมเต็มความฝันของเราได้ไม่ต่างกัน

สิ่งสำคัญที่สุดคือการถามใจตัวเองว่าเรามีความสุขกับอะไร และอย่ากลัวที่จะเริ่มต้นก้าวแรก บัณฑิตบัญชีจากรั้ว มหาวิทยาลัยศรีปทุม ทุกคน มีศักยภาพและความพร้อมอยู่ในตัวอยู่แล้ว แค่เราต้องดึงมันออกมาใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา เชื่อมั่นในความรู้ที่เรียนมา พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ แล้วไม่ว่าเส้นทางไหน…เราก็จะไปถึงเส้นชัยได้อย่างแน่นอน!