ป.โทเอก Business Content

การเรียนต่อเพื่ออัปเดตทักษะและความรู้สำหรับคนทำงานในยุค AI

อัปเดตทักษะ

การเรียนต่อเพื่ออัปเดตทักษะและความรู้: กลยุทธ์คนทำงานในยุค AI

ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนการหยุดนิ่งเท่ากับการถอยหลัง สำหรับคนทำงาน การเรียนต่อเพื่ออัปเดตทักษะใหม่ๆ (Upskill & Reskill) ไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นความจำเป็นเพื่อความอยู่รอดและความก้าวหน้าในสายอาชีพ การปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กร บทความนี้จะชี้ให้เห็นถึงความสำคัญและแนวทางการปรับตัวขององค์กรและพนักงานเพื่อรับมือกับความท้าทายแห่งอนาคต

ทำไมการเรียนต่อและอัปเดตทักษะจึงสำคัญในยุค AI?

ผลกระทบของ AI ทำให้โลกการทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง การเรียนต่อและพัฒนาทักษะอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับคนทำงานทุกคนด้วยเหตุผลดังนี้

  • ป้องกันการถูกแทนที่: AI สามารถทำงานซ้ำซากและงานวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานได้ดีกว่ามนุษย์ คนทำงานจึงต้องยกระดับไปทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจที่ซับซ้อน และปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
  • เปิดประตูสู่ตำแหน่งงานใหม่: เทคโนโลยีใหม่ย่อมมาพร้อมกับตำแหน่งงานรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน การมีทักษะที่ตลาดต้องการทำให้คุณพร้อมสำหรับโอกาสเหล่านี้
  • เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน: ในตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูง การมีทักษะที่ทันสมัยและหลากหลายทำให้โปรไฟล์ของคุณโดดเด่นกว่าใคร
  • สร้างความมั่นคงในอาชีพ: การเรียนรู้ตลอดชีวิตช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และสร้างความมั่นคงในระยะยาว

ทักษะที่จำเป็นสำหรับคนทำงานในโลกยุคใหม่

ทักษะที่จำเป็นสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ Hard Skills ที่เกี่ยวกับเทคนิค และ Soft Skills ที่เกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์และการคิด

Hard Skills: ทักษะเชิงเทคนิค

  • การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics): ความสามารถในการอ่าน ตีความ และนำข้อมูลมาใช้ตัดสินใจเชิงธุรกิจ
  • ความเข้าใจด้าน AI และ Machine Learning: ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดได้ แต่ต้องเข้าใจหลักการทำงานและวิธีนำไปประยุกต์ใช้
  • การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing): เข้าใจเครื่องมือและกลยุทธ์การตลาดบนโลกออนไลน์
  • ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity): การตระหนักรู้และป้องกันภัยคุกคามทางดิจิทัล

Soft Skills: ทักษะสำคัญเพื่อการปรับตัวขององค์กรและคนทำงาน

  • การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking): การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีเหตุผลและแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
  • ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity): การคิดนอกกรอบเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ
  • ความยืดหยุ่นและการปรับตัว (Adaptability): ความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
  • ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence): การเข้าใจอารมณ์ตนเองและผู้อื่น เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

องค์กรจะสนับสนุนการเรียนต่อของพนักงานได้อย่างไร?

การปรับตัวขององค์กรถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาบุคลากร องค์กรที่ชาญฉลาดจะไม่ได้มองว่านี่เป็นค่าใช้จ่าย แต่มองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่ออนาคต

  • จัดโปรแกรมอบรม Reskill/Upskill: จัดหลักสูตรภายในที่สอดคล้องกับทิศทางขององค์กร
  • สนับสนุนค่าใช้จ่าย: ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อ หรือซื้อคอร์สออนไลน์จากแพลตฟอร์มชั้นนำ
  • สร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ (Learning Culture): ส่งเสริมให้การเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร ให้รางวัลแก่พนักงานที่กระตือรือร้นในการพัฒนาตนเอง
  • ให้ความยืดหยุ่น: จัดสรรเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นเพื่อให้พนักงานมีเวลาไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม

องค์กรที่ประสบความสำเร็จมักจะเริ่มต้นจากการทำ Digital Transformation ซึ่งการพัฒนาทักษะบุคลากรถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระบวนการนี้

——————————————————

รวมหลักสูตรปริญญาโท-เอก มหาวิทยาลัยศรีปทุม

 

หลักสูตรปริญญาเอก มหาวิทยาลัยศรีปทุม

รวม 8 หลักสูตร

  • หลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต (DOCTOR OF BUSINESS ADMINISTRATION)
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (DOCTOR OF PHILOSOPHY (EDUCATIONAL ADMINISTRATION))
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน (DOCTOR OF PHILOSOPHY (LOGISTICS AND SUPPLY CHAIN MANAGEMENT))
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี (DOCTOR OF PHILOSOPHY (ACCOUNTANCY))
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (DOCTOR OF PHILOSOPHY (INFORMATION TECHNOLOGY))
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิติรัฐกิจและการบริหาร (DOCTOR OF PHILOSOPHY (PUBLIC AND BUSINESS ADMINISTRATION JURISPRUDENCE))
  • หลักสูตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต (DOCTOR OF LAWS)
  • หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา (DOCTOR OF ENGINEERING (CIVIL ENGINEERING))

หลักสูตรปริญญาโท มหาวิทยาลัยศรีปทุม

รวม 9 หลักสูตร

  • หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MASTER OF BUSINESS ADMINISTRATION)
  • หลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต (MASTER OF MANAGEMENT ADMINISTRATION)
  • หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (MASTER OF PUBLIC ADMINISTRATION PROGRAM)
  • หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมการเรียนรู้และการสอน (MASTER OF EDUCATION (INNOVATIONS IN LEARNING AND TEACHING))
  • หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (MASTER OF EDUCATION (EDUCATIONAL ADMINISTRATION))
  • หลักสูตรบัญชีมหาบัณฑิต (MASTER OF ACCOUNTANCY)
  • หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต (MASTER OF LAWS)
  • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (MASTER OF SCIENCE (INFORMATION TECHNOLOGY))
  • หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา (MASTER OF ENGINEERING (CIVIL ENGINEERING))

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. การเรียนต่อจำเป็นต้องลาออกมาเรียนเต็มเวลาเสมอไปหรือไม่?

ไม่จำเป็นเลย ปัจจุบันมีทางเลือกมากมายที่ยืดหยุ่นสำหรับคนทำงาน เช่น คอร์สเรียนออนไลน์ระยะสั้น, ประกาศนียบัตร (Micro-credentials), การเข้าร่วม Workshop หรือ Bootcamp ซึ่งสามารถทำควบคู่ไปกับการทำงานได้

2. องค์กรจะได้ประโยชน์อะไรจากการลงทุนพัฒนาทักษะพนักงาน?

องค์กรจะได้รับประโยชน์มหาศาล ทั้งในด้านการเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ จากทักษะที่ทันสมัยของพนักงาน, ประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมที่สูงขึ้น, และที่สำคัญคือสามารถรักษาคนทำงานที่มีคุณภาพสูงไว้กับองค์กรได้ (Employee Retention) ซึ่งช่วยลดต้นทุนการสรรหาบุคลากรใหม่

3. หากไม่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยีเลย จะเริ่มเรียนรู้ทักษะ AI ได้อย่างไร?

สามารถเริ่มต้นได้จากการเรียนรู้แนวคิดพื้นฐานว่า AI คืออะไรและทำงานอย่างไรก่อน เพื่อสร้างความเข้าใจเบื้องต้นก่อนต่อยอดไปยังทักษะที่ซับซ้อนขึ้น

(Visited 9 times, 1 visits today)

Related posts

Human Skills อะไรบ้างที่ AI ไม่สามารถทดแทน? เจาะลึก Skill ต้องมีในโลกการทำงาน

Wadee

Tips เรียนต่อปริญญาโท-ปริญญาเอกสำหรับมนุษย์ทำงาน: เลือกเรียนสายไหน เดินหน้าสายอาชีพอย่างไรให้คุ้ม

Wadee

การตรวจสอบบัญชี: AI ช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างไร

Wadee