จบ ปวส. แล้วไปไหนต่อ? อัปเวลสู่ป.ตรี
ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม ดีกว่าเห็นๆ!
เฮ้! ชาว ปวส. ทุกคน ก่อนอื่นต้องขอปรบมือดังๆ ให้กับความเจ๋งของพวกเราทุกคนเลย การเรียนสายอาชีพจนจบ ปวส. ได้เนี่ยแปลว่าเรามีสกิล มีฝีมือติดตัว พร้อมลุยงานได้จริงแบบไม่อายใคร แต่…เคยถามตัวเองมั้ยว่า สกิลที่เรามีมันสุดได้แค่นี้จริงเหรอ? หรือเราจะไปต่อให้สุดกว่านี้ได้อีก?
การเรียนจบ ปวส. ก็เหมือนเรามีไอเทมระดับ Rare ติดตัว แต่โลกการทำงานจริงมันคือสนามรบที่คู่แข่งเพียบ การมีแค่ไอเทม Rare อาจจะไม่พอ ถ้าอยากเป็นตัวตึงในสายงาน การอัปเกรดตัวเองสู่ระดับ Legendary อย่างวุฒิ “ปริญญาตรี” คือเส้นทางที่ต้องเลือกเดิน และ มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) ก็พร้อมเป็นฐานทัพอัปเกรดให้เราแบบติดจรวดเลยล่ะ!
ทำไมแค่ ปวส. ถึงอาจไม่พอในยุคนี้?
ยอมรับกันตรงๆ ว่าวุฒิ ปวส. ทำให้เราหางานได้ แต่การจะ “เติบโต” ในสายงานนั้น วุฒิปริญญาตรีมันจำเป็นมาก! มาดูกันว่าทำไมการเรียนต่อถึงเป็น The Must!
1. อัปเกรด “ฐานเงินเดือน” และ “ตำแหน่งงาน”
เรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้! ในหลายๆ บริษัท วุฒิปริญญาตรีคือใบเบิกทางสู่ฐานเงินเดือนเริ่มต้นที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญคือ “เพดาน” การเติบโตมันสูงกว่ามาก จากช่างเทคนิค อาจจะโตไปเป็นวิศวกร, จากพนักงานปฏิบัติการ ก็สามารถขึ้นไปเป็นระดับหัวหน้า หรือผู้จัดการได้ ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้ส่วนใหญ่ Require วุฒิ ป.ตรี ทั้งนั้น
2. ความรู้ที่ “ลึก” และ “กว้าง” กว่าเดิม
ปวส. เน้นให้เรา “ทำเป็น” ซึ่งเป็นเรื่องดีมากๆ แต่ ป.ตรี จะสอนให้เรา “คิดเป็น” และ “วางแผนเป็น” เราจะได้เรียนรู้ทฤษฎีเบื้องหลัง สิ่งที่ทำให้เทคโนโลยีนั้นๆ เกิดขึ้น การบริหารจัดการ การตลาด การวางกลยุทธ์ ซึ่งสกิลเหล่านี้แหละที่จะทำให้เราไม่ใช่แค่ “ผู้ทำตาม” แต่เป็น “ผู้สร้างสรรค์” และ “ผู้นำ” ในอนาคต
3. เปิดประตูสู่ “โอกาส” ที่ไม่เคยเห็น
มีอาชีพหลายอย่างที่ถูกล็อคไว้สำหรับคนจบปริญญาตรีเท่านั้น เช่น การสอบใบประกอบวิชาชีพบางสาขา (ก.ว. ของวิศวกร), การทำงานในองค์กรระหว่างประเทศ หรือแม้แต่การสมัครงานในบริษัทชั้นนำที่ตั้งเงื่อนไขวุฒิการศึกษาไว้ชัดเจน การเรียนต่อ ป.ตรี ก็เหมือนเราได้กุญแจมาสเตอร์คีย์ ที่จะไขประตูบานไหนก็ได้ที่เราอยากเข้าไป
4. สร้าง “คอนเนคชัน” ขั้นเทพ
ชีวิตในมหาวิทยาลัยไม่ได้มีแค่การเรียนในห้อง เราจะได้เจอเพื่อนใหม่ๆ จากร้อยพ่อพันแม่ รุ่นพี่ที่อยู่ในวงการทำงานแล้ว อาจารย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในวงการ คอนเนคชันเหล่านี้คือทรัพย์สินล้ำค่าที่จะช่วยดึง ช่วยดันเราในโลกการทำงานจริงแบบที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
ทำไมต้องเป็น SPU? มหา’ลัยที่เข้าใจเด็ก ปวส. ที่สุด!
โอเค ตัดสินใจจะเรียนต่อแล้ว แต่ทำไมต้องเป็นที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม? บอกเลยว่าที่นี่เขาเกิดมาเพื่อชาว ปวส. อย่างเราๆ จริงๆ!
หลักสูตร “เทียบโอนหน่วยกิต” ที่โคตร Cool!
จุดเด่นที่สุดของ SPU คือความเข้าใจในสิ่งที่เราเรียนมาแล้ว หลักสูตรเทียบโอนของที่นี่ถูกออกแบบมาให้ยืดหยุ่นสุดๆ เราไม่ต้องไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ วิชาพื้นฐานหรือวิชาชีพที่เคยเรียนมาในระดับ ปวส. สามารถนำมาเทียบโอนได้เยอะมาก ทำให้เราประหยัดทั้ง “เวลา” และ “ค่าใช้จ่าย” หลายคนจบ ป.ตรี ได้ในเวลาแค่ 2 ปี เท่านั้นเอง! เรียกได้ว่าพุ่งตรงสู่เป้าหมายแบบไม่เสียเวลา
เรียนกับ “ตัวจริง ประสบการณ์จริง”
ลืมภาพการนั่งเรียนเลคเชอร์น่าเบื่อๆ ไปได้เลย ที่ SPU อาจารย์หลายท่านเป็นมืออาชีพที่ทำงานในวงการนั้นจริงๆ เราจะได้เรียนรู้จาก Case Study จริงๆ ได้ทำ Workshop ที่เข้มข้น และมีโอกาสไปฝึกงานกับบริษัทพาร์ทเนอร์ชั้นนำของประเทศเพียบ! เป็นการต่อยอดสกิลปฏิบัติที่เรามีอยู่แล้วให้เฉียบคมและทันสมัยยิ่งขึ้น
คณะ/สาขา สุดปัง ตอบโจทย์โลกอนาคต
SPU มีคณะและสาขาให้เลือกเยอะมาก และล้วนเป็นสาขาที่ตลาดงานกำลังต้องการตัว ไม่ว่าจะเป็น:
- คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT): ต่อยอดสกิลช่างคอมสู่ Developer, Data Sci, Cyber Security
- คณะดิจิทัลมีเดีย: อัปสกิลงานกราฟิกสู่การเป็น Game Designer, Animator, VFX Artist ระดับโปร
- คณะวิศวกรรมศาสตร์: จากช่างฝีมือสู่การเป็นวิศวกรผู้ออกแบบและควบคุมโครงการ
- คณะบริหารธุรกิจ: เรียนรู้การจัดการ การตลาด เพื่อก้าวสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจหรือผู้จัดการมือทอง
- วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน: สายงานสุดฮอตที่ต้องการคนมีความสามารถอีกเพียบ!
- คณะนิติศาสตร์: ปั้นนักกฎหมายรุ่นใหม่ เข้าใจทั้งกฎหมายไทยและสากล พร้อมต่อยอดสู่การเป็นทนาย ผู้พิพากษา หรือที่ปรึกษากฎหมายองค์กร
- คณะบัญชี: เส้นทางสู่สายอาชีพนักบัญชีมืออาชีพ ผู้ตรวจสอบบัญชี นักวิเคราะห์การเงิน และ CFO ที่ตลาดงานต้องการไม่เคยพอ!
Ecosystem ที่พร้อมซัพพอร์ตให้เรา “ปล่อยของ”
ที่ SPU มีพื้นที่ Co-working Space สุดเจ๋ง มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีศูนย์บ่มเพาะธุรกิจสำหรับคนอยากมีกิจการของตัวเอง มีกิจกรรมเสริมหลักสูตรมากมายที่ช่วยให้เราได้ค้นพบศักยภาพใหม่ๆ ของตัวเอง มันคือสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เราอยากเรียนรู้และเติบโตอยู่ตลอดเวลา
Q&A ถามมา-ตอบไป สไตล์เด็ก SPU
Q: ใช้เวลาเรียนกี่ปีถึงจะจบ?
A: ส่วนใหญ่แล้วสำหรับหลักสูตรเทียบโอน จะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ถึง 2 ปีครึ่ง ขึ้นอยู่กับจำนวนหน่วยกิตที่เทียบโอนได้และแผนการลงทะเบียนเรียนของเราเอง ถือว่าเร็วมากๆ สำหรับการอัปวุฒิสู่ปริญญาตรี
Q: ค่าเทอมแพงรึเปล่า? มีทุนการศึกษาให้มั้ย?
A: SPU มีทุนการศึกษาหลากหลายประเภทมากๆ ทั้งทุนสำหรับคนเรียนดี ทุนความสามารถพิเศษ และที่สำคัญคือ “ทุนสำหรับผู้เรียนต่อจากสายอาชีวะ (ปวส.)” โดยเฉพาะด้วยนะ! แถมยังสามารถกู้ กยศ. ได้อีกต่างหาก เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ใช่ปัญหาใหญ่อย่างที่คิดแน่นอน ลองเข้าไปดูรายละเอียดทุนในเว็บไซต์ SPU ได้เลย
Q: พื้นฐาน ปวส. ไม่ค่อยแน่น กลัวจะเรียนตามเพื่อนไม่ทัน
A: ไม่ต้องกังวลเลย! มหาวิทยาลัยเข้าใจดีว่าแต่ละคนมีพื้นฐานมาไม่เท่ากัน ในช่วงแรกอาจจะมีวิชาปรับพื้นฐานให้ และอาจารย์ที่ SPU ก็พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเราเต็มที่ ขอแค่เรามีความตั้งใจและเปิดใจที่จะเรียนรู้ ที่เหลือก็สบายมาก!
ถึงเวลาติดปีกให้ตัวเองที่ SPU
การตัดสินใจเรียนต่อปริญญาตรีหลังจากจบ ปวส. ไม่ใช่แค่การเรียนเพื่อเอาวุฒิ แต่มันคือการลงทุนเพื่อ “อนาคต” ของตัวเราเอง คือการเปิดโลกทัศน์ อัปเกรดสกิล ความคิด และสร้างโอกาสใหม่ๆ ที่จะพาเราไปได้ไกลกว่าเดิม
อย่าให้ใครมาบอกว่าสิ่งที่เรามีนั้น “ดีพอแล้ว” เพราะศักยภาพในตัวเรามันไปได้ไกลกว่านั้นอีกเยอะ! ถ้าพร้อมแล้วที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ มาปลดล็อกศักยภาพขั้นเทพในตัวคุณที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) สนามอัปเกรดที่พร้อมจะเปลี่ยนเด็ก ปวส. มือดี ให้กลายเป็นบัณฑิตปริญญาตรีตัวตึงแห่งโลกการทำงานจริง!
“`
…………………………….
“เรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง”
มหาวิทยาลัยเอกชนอันดับ 1 ตอบโจทย์ Lifestyle Dek New Gen
พร้อมเป็นที่ 1 ในแบบของตัวเองได้แล้ววันนี้ที่ SPU
>> สมัครออนไลน์ คลิกที่นี่ <<