รีวิวจัดเต็ม! เหตุผลที่ควรเลือกเรียนคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจในยุคเทรนด์ธุรกิจใหม่
สวัสดีน้องๆ ชาว Gen Z ทุกคน! พี่เชื่อว่าหลายคนตอนนี้ (โดยเฉพาะน้องๆ ม.ปลาย) คงกำลังยืนอยู่บนทางแยกใหญ่ของชีวิตที่ชื่อว่า “จะเรียนต่อคณะอะไรดี?” ใช่ไหมล่ะ? บางคนอาจจะมองคณะแพทย์ วิศวะ ตามสูตรสำเร็จเดิมๆ แต่บางคน… ลึกๆ แล้วมีความฝันที่อยากจะสร้างอะไรเป็นของตัวเอง อยากมีธุรกิจ อยากเป็นนายตัวเอง! ถ้าใครรู้สึกแบบหลัง บอกเลยว่าบทความนี้เขียนมาเพื่อน้องๆ โดยเฉพาะ!
คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ (Entrepreneurship) คืออะไร? ใช่คณะ ‘บริหาร’ เวอร์ชั่นอัปเกรดรึเปล่า?
ก่อนอื่นเลย พี่ขอเคลียร์ภาพให้ชัดๆ ก่อนนะ คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ หรือคณะผู้ประกอบการ ไม่ใช่แค่การเรียนบริหารธุรกิจ (BBA) แบบท่องจำทฤษฎีในตำราเก่าๆ แต่มันคือสนามทดลองจริง! ที่นี่ไม่ได้สอนให้น้องไปเป็น “ผู้จัดการ” ในบริษัทใหญ่ แต่มุ่งเน้นสอนให้เป็น “ผู้สร้าง” (Creator) และ “ผู้ก่อตั้ง” (Founder)
พูดง่ายๆ คือ เรียนตั้งแต่การมองหาปัญหา, เปลี่ยนปัญหาให้เป็นไอเดียธุรกิจ, วางแผนการเงิน, การตลาด, การสร้างทีม, ไปจนถึงการ Pitching ระดมทุนจากนักลงทุนจริงๆ คือเรียนครบวงจร จบออกมาพร้อมลุยสร้างธุรกิจของตัวเองได้เลย
แล้วทำไมคณะนี้ถึงโคตรจะ “In Trend” ไปดูกันเลย!
5 เทรนด์ธุรกิจใหม่ ที่ทำให้ “คณะผู้ประกอบการ” กลายเป็นคณะแห่งอนาคต
โลกหมุนเร็วมากนะน้องๆ สิ่งที่เคยเวิร์กเมื่อ 5 ปีก่อน วันนี้อาจจะใช้ไม่ได้แล้ว การเลือกเรียนในสิ่งที่ตอบโจทย์ “อนาคต” จึงสำคัญสุดๆ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมทักษะจากคณะนี้ถึงเป็นที่ต้องการ
1. ยุคทองของ Creator Economy และ Gig Economy: ทุกคนคือแบรนด์ ทุกที่เป็นออฟฟิศ
น้องๆ ลองเปิด TikTok, Instagram หรือ YouTube ดูสิ ทุกวันนี้เราไม่ได้เห็นแค่ดารา แต่เราเห็น “ครีเอเตอร์” เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นสายรีวิว, สายให้ความรู้, Streamer หรือแม้แต่คนขายของออนไลน์ผ่าน Live สด นี่แหละคือ Creator Economy ที่ทุกคนสามารถสร้างรายได้จากตัวตนและความสามารถของตัวเองได้
คณะนี้จะสอนให้น้องๆ มอง “ตัวเอง” เป็นเหมือน “ธุรกิจหนึ่ง” สอนให้รู้จักการสร้าง Personal Branding, การทำ Content Marketing, การวิเคราะห์ข้อมูลหลังบ้าน (Analytics) เพื่อดูว่าคนชอบคอนเทนต์แบบไหน และที่สำคัญคือการเปลี่ยนยอดไลค์ ยอดวิว ให้กลายเป็น “รายได้” ที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่การทำตามกระแสไปวันๆ
2. AI ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาเป็น “ผู้ช่วย” ที่เก่งที่สุดของเจ้าของธุรกิจ
หลายคนกลัวว่า AI จะมาแย่งงาน แต่สำหรับ “ผู้ประกอบการ” แล้ว AI คือเครื่องมือเทพ! ในอนาคตอันใกล้ การแข่งขันทางธุรกิจไม่ได้วัดกันที่ว่าใครมีทุนหนากว่าอย่างเดียว แต่วัดกันที่ว่า “ใครใช้เทคโนโลยีและ AI ได้ฉลาดกว่ากัน”
การเรียนในคณะนี้จะทำให้น้องๆ เข้าใจว่าเราจะเอา AI มาช่วยทำธุรกิจได้อย่างไรบ้าง เช่น:
- ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เพื่อทำการตลาดแบบ Personalization ที่ตรงใจสุดๆ
- ใช้ AI ช่วยสร้างคอนเทนต์ ทั้งรูปภาพ วิดีโอ หรือบทความ (ประหยัดเวลาและงบไปเยอะ!)
- ใช้ AI Chatbot ช่วยตอบคำถามลูกค้าได้ 24 ชั่วโมง
- ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโมเดลธุรกิจใหม่ๆ
แทนที่จะกลัวว่าจะถูกแทนที่ คณะนี้จะสอนให้น้องๆ เป็น “คนสั่งการ AI” เพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดด
3. ธุรกิจต้อง “ดีต่อโลก” ด้วยเทรนด์ ESG และ Social Enterprise
พี่รู้ว่าชาว Gen Z อย่างพวกเรา ไม่ได้อยากแค่รวย แต่อยากทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นด้วย เทรนด์ธุรกิจสมัยใหม่จึงพูดถึงเรื่อง ESG (Environmental, Social, Governance) กันเยอะมาก คือการทำธุรกิจที่ใส่ใจทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และมีธรรมาภิบาล
คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจยุคใหม่จะสอดแทรกแนวคิดนี้เข้าไปในหลักสูตร น้องๆ จะได้เรียนรู้การสร้าง ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่สามารถแก้ปัญหาสังคมไปพร้อมๆ กับการสร้างกำไรได้จริง เช่น ธุรกิจ Upcycling ขยะ, แพลตฟอร์มช่วยเกษตรกร หรือธุรกิจที่ส่งเสริมการจ้างงานผู้พิการ มันคือการทำธุรกิจที่ “เท่” และมีความหมายมากกว่าแค่ตัวเลขในบัญชี
4. โลกาภิวัตน์ยุคดิจิทัล: ตลาดของคุณคือ “คนทั้งโลก”
ลืมภาพการเปิดร้านเล็กๆ ที่มีลูกค้าแค่คนในซอยไปได้เลย! ด้วย E-commerce และ Digital Marketing ที่ทรงพลัง ทำให้ธุรกิจที่เริ่มต้นใน ประเทศไทย ก็สามารถขายของให้คนครึ่งโลกได้สบายๆ
การเรียนที่นี่จะสอนทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็น:
- Digital Marketing: ทำโฆษณาบน Google, Facebook, TikTok ยังไงให้ตรงกลุ่มเป้าหมายข้ามประเทศ
- E-commerce Platform: การเลือกใช้แพลตฟอร์มอย่าง Shopify, Amazon หรือ Lazada/Shopee ให้เหมาะสม
- Logistics & Supply Chain: การจัดการเรื่องการส่งของข้ามประเทศ
- Cross-cultural Communication: การสื่อสารเพื่อเข้าใจลูกค้าที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกัน
นี่คือทักษะที่ทำให้ธุรกิจเล็กๆ ของน้องๆ สามารถสเกลอัปไปสู่ระดับนานาชาติได้จริง
5. Soft Skills คือ Hard Skills ที่สำคัญที่สุดในอนาคต
งานรูทีน งานทำซ้ำๆ กำลังจะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติและ AI แต่สิ่งที่ AI ยังทำไม่ได้ (และอาจจะทำไม่ได้อีกนาน) คือ Soft Skills ซึ่งเป็นหัวใจของการเป็นผู้ประกอบการเลย
ตลอด 4 ปีในคณะนี้ น้องๆ จะถูกฝึกฝนทักษะเหล่านี้ผ่านการทำงานกลุ่ม, การทำโปรเจกต์, การนำเสนอแผนธุรกิจจริง:
- การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Complex Problem Solving): เจอปัญหาต้องไม่ท้อ แต่ต้องมองหาวิธีแก้ที่สร้างสรรค์
- ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity): การคิดนอกกรอบเพื่อสร้างความแตกต่าง
- การเป็นผู้นำและการทำงานร่วมกับผู้อื่น (Leadership & Collaboration): จะสร้างทีมที่แข็งแกร่งได้อย่างไร
- ความยืดหยุ่นและการปรับตัว (Resilience & Adaptability): ธุรกิจเจ๊ง? ล้มแล้วต้องลุกให้ไว เรียนรู้จากความผิดพลาด
- การเจรจาต่อรอง (Negotiation): สกิลสำคัญในการดีลกับซัพพลายเออร์และนักลงทุน
ทักษะเหล่านี้ต่อให้จบไปไม่ได้ทำธุรกิจของตัวเอง ก็เป็นที่ต้องการของทุกบริษัทชั้นนำแน่นอน พี่กล้าคอนเฟิร์ม!
Q&A ถามมา-ตอบไป สไตล์เด็กอยากเป็นเถ้าแก่
พี่รวบรวมคำถามที่น้องๆ น่าจะสงสัยมาให้แล้ว เพื่อช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
Q: เรียนไม่เก่งเลขเลย จะเรียนคณะนี้รอดไหมคะ/ครับ?
A: รอดแน่นอน! จริงอยู่ที่ต้องเจอวิชาการเงิน บัญชีบ้าง แต่คณะนี้ไม่ได้เน้นให้เราเป็นนักคณิตศาสตร์โอลิมปิกนะ! เขาเน้นให้เรา “อ่านตัวเลขทางธุรกิจเป็น” มากกว่า คือดูงบการเงินแล้วเข้าใจว่าตอนนี้ธุรกิจกำไรหรือขาดทุน, ต้องลดต้นทุนตรงไหน, ควรลงทุนเพิ่มไหม ซึ่งเดี๋ยวนี้มีโปรแกรมและ AI ช่วยคำนวณเยอะมาก ขอแค่เรามี Logic และเข้าใจ Concept ก็พอแล้ว
Q: ต้องมีไอเดียธุรกิจเจ๋งๆ ก่อนเข้าไปเรียนเลยรึเปล่า?
A: ไม่จำเป็นเลย! น้องๆ ส่วนใหญ่ที่เข้าไปก็ยังไม่มีไอเดียทั้งนั้นแหละ หน้าที่ของหลักสูตรคือการสอน “กระบวนการ” ในการค้นหาไอเดีย, การตรวจสอบไอเดียว่าดีจริงไหม (Idea Validation) และการพัฒนาไอเดียนั้นให้กลายเป็นธุรกิจ การเข้าไปแบบหัวโล่งๆ บางทีก็ดีเหมือนกันนะ เพราะเราจะเปิดรับความรู้ใหม่ๆ ได้เต็มที่
Q: ถ้าเรียนจบมาแล้วยังไม่พร้อมเปิดธุรกิจของตัวเอง จะตกงานไหม?
A: ไม่มีทาง! อย่างที่พี่บอกไป ทักษะที่ได้จากคณะนี้มันโคตรจะอเนกประสงค์ บัณฑิตจากคณะนี้เป็นที่ต้องการตัวมากในตำแหน่งงานใหม่ๆ เช่น:
- Product Manager: คนที่ดูแลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในบริษัทเทค
- Business Development: คนที่หาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับองค์กร
- Venture Capitalist (VC) Analyst: คนที่วิเคราะห์สตาร์ทอัปเพื่อเข้าไปลงทุน
- Intrapreneur: คนที่สร้างโปรเจกต์หรือธุรกิจใหม่ๆ ภายในองค์กรใหญ่ (เหมือนเป็นเจ้าของธุรกิจในบริษัทอีกที)
เรียกได้ว่ามีทางเลือกเพียบ และมักจะได้ทำงานในส่วนที่ท้าทายและเติบโตเร็วด้วย
Q: คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ ที่ SPU แตกต่างจากคณะบริหารธุรกิจ (BBA) ทั่วไปยังไง?
A: ต่างกันที่ “เป้าหมาย” และ “วิธีการสอน” เลยครับ
-
BBA ทั่วไป มักจะสอนตาม Function เช่น การตลาด, การเงิน, HR เพื่อให้นักศึกษาจบไปเป็นฟันเฟืองในองค์กรใหญ่
-
คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ SPU จะสอนแบบ “บูรณาการ” (Holistic View) เน้น Learning by Doing ให้ลงมือทำจริงตั้งแต่ปี 1 ทั้งการสร้างต้นแบบธุรกิจ (Prototype), ทดลองตลาดจริง, บริหารจัดการทรัพยากร และปรับ Business Model อย่างต่อเนื่อง
พูดง่าย ๆ คือ SPU ปั้นให้เราเป็น เจ้าของกิจการ/สตาร์ทอัพ ที่มองเห็นภาพรวมทั้งธุรกิจ ไม่ใช่แค่พนักงานเก่งเฉพาะด้านครับ
Q: ทำไมต้องเลือกเรียนคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม?
A: เพราะ SPU คือหนึ่งในไม่กี่มหาวิทยาลัยที่ จริงจังเรื่องการสร้างผู้ประกอบการ
-
หลักสูตรร่วมกับ Mentor และเจ้าของธุรกิจตัวจริง
-
ได้ทำ Startup Project ตั้งแต่ปีแรก พร้อมโอกาส Pitch กับนักลงทุน
-
มี SPU Business Incubator และ Co-Working Space ที่ช่วยบ่มเพาะไอเดียให้กลายเป็นธุรกิจจริง
-
มี Connection กับทั้ง เครือข่าย SME, Startup และ Corporate ใหญ่ ที่พร้อมซัพพอร์ตนักศึกษา
สรุปเลยคือ ถ้าน้องอยากโตมาเป็น เจ้าของธุรกิจที่พร้อมลุยตลาดจริง SPU คือเวทีที่เหมาะสุด ๆ
คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ไม่ใช่แค่การเรียนเพื่อ “ปริญญา” แต่คือการสร้าง “Mindset” สำหรับเจ้าของธุรกิจ
น้อง ๆ ครับ โลกในอีก 4-5 ปีข้างหน้าที่เราจะเรียนจบ มันไม่เหมือนเดิมแน่นอน
การเลือกเรียนในคณะที่ให้แค่ “ความรู้” อาจไม่พออีกต่อไปแล้ว แต่เราต้องเลือกคณะที่ให้ทั้ง ทักษะ + กรอบความคิด ที่พร้อมปรับตัว, เรียนรู้ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา
คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ SPU ก็คือหนึ่งในคำตอบนั้น
ที่นี่ไม่ได้สร้างแค่ “ผู้เรียน” แต่สร้าง “ผู้ประกอบการ” ตัวจริง ผ่านการเรียนแบบลงมือทำ (Learning by Doing) การสร้าง Startup Project, ทดลองตลาดจริง และได้ Mentor จากเจ้าของธุรกิจตัวจริงมาช่วยโค้ชทุกก้าว
มันไม่ใช่แค่เส้นทางสำหรับคนที่ “อยากรวย” แต่คือเส้นทางสำหรับคนที่อยาก สร้างความเปลี่ยนแปลง, อยากแก้ปัญหา, อยากเป็นเจ้าของชีวิตและอนาคตของตัวเอง
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วหัวใจเต้นแรง รู้สึกว่า “นี่แหละทางของเรา!”
พี่ขอเชียร์สุดใจเลยครับว่า ลุยเลย! คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ SPU อนาคตเศรษฐกิจของประเทศและของโลก อยู่ในมือของคนรุ่นใหม่อย่างพวกเรานี่แหละ
“`
คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ SPU
หลักสูตรยุคใหม่! ตอบโจทย์คนมีความสามารถหลากหลาย
หรืออยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง Design การเรียนในแบบที่ตัวเองชอบ
พร้อมสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ที่แตกต่างกับนักธุรกิจตัวจริง
- สหวิทยาการ เทคโนโลยีและนวัตกรรม
เรียนแบบ Project Based ที่เน้น Design Thinking เลือกเรียนได้ตามใจชอบ แบบไม่จำกัดคณะ - การเป็นเจ้าของธุรกิจและสร้างสรรค์นวัตกรรม
ปล่อย Idea ธุรกิจ แบบไม่มีขีดจำกัด เรียนกับเจ้าของธุรกิจตัว TOP และ Connect กับองค์กรชั้นนำ
>> สมัครออนไลน์ คลิกที่นี่ <<
