คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจFaculty

สร้างธุรกิจด้วยงบน้อย! ไอเดียธุรกิจสำหรับนักศึกษา คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

สร้างธุรกิจด้วยงบน้อย! ไอเดียธุรกิจสำหรับนักศึกษา คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

สร้างธุรกิจด้วยงบน้อย! 10 ไอเดียธุรกิจสำหรับนักศึกษาคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ

โย่ว! ว่าไงเพื่อนๆ ชาวคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและบริหารกิจการ (หรือคณะ SME ที่เราเรียกกันติดปาก) เคยรู้สึกเหมือนกันมั้ย? ว่าเราเรียนทฤษฎีการเป็นเจ้าของธุรกิจมาเต็มหัว ทั้ง Marketing Funnel, Business Model Canvas, Lean Startup แต่พอหันกลับมามองตัวเอง… อ้าว! ยังไม่มีธุรกิจเป็นของตัวเองเลยนี่หว่า! ปัญหาคลาสสิกที่เจอกันทุกคนคือ “ไม่มีทุน” ใช่ปะ? วันนี้ในฐานะเพื่อนร่วมคณะ เราจะมาพังกำแพงข้ออ้างนั้นทิ้งไป! เพราะเราได้รวบรวมไอเดียธุรกิจฉบับ “ทุนน้อย เน้นสมองและสองมือ” มาให้แล้ว บอกเลยว่าทำได้จริงระหว่างเรียนแน่นอน!

สร้างธุรกิจด้วยงบน้อย!  ไอเดียธุรกิจสำหรับนักศึกษา คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

ทำไมต้องเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่ตอนเรียน? มันไม่เร็วไปเหรอ?

เอาจริง ๆ นะ ไม่มีคำว่าเร็วไปสำหรับการเรียนรู้ โดยเฉพาะการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง การเริ่มทำธุรกิจเล็ก ๆ ตั้งแต่ตอนเรียน เปรียบเสมือนการได้ลง “สนามซ้อม” ที่ดีที่สุดในโลก เพราะอะไรน่ะเหรอ?

  • ต้นทุนความล้มเหลวต่ำ: เจ๊งตอนนี้ก็ไม่เป็นไรมาก อย่างน้อยก็ได้บทเรียนราคาถูกไปปรับปรุงในธุรกิจจริงจังในอนาคต ดีกว่าไปเจ๊งตอนทุ่มเงินเก็บทั้งชีวิตนะเพื่อน
  • สร้าง Portfolio สุดปัง: ตอนไปสมัครงานหรือหาพาร์ทเนอร์ในอนาคต การบอกว่า “ผมเคยทำธุรกิจ…มาครับ” มันเท่และน่าเชื่อถือกว่าเกรด 4.00 อย่างเดียวนะ
  • ใช้ความรู้ในห้องเรียนทันที: เรียนเรื่อง Digital Marketing มาวันนี้ พรุ่งนี้เอาไปยิงแอดเพจตัวเองได้เลย มันคือการเรียนรู้ที่เห็นผลและสนุกที่สุดแล้ว
  • คอนเนคชันและทรัพยากรมหา’ลัย: เรามีอาจารย์ที่ปรึกษา, เพื่อนต่างคณะเก่ง ๆ (เช่น ให้เพื่อนคณะนิเทศฯ ช่วยถ่ายรูปสินค้า), หรือแม้กระทั่ง Co-working Space ของมหา’ลัยให้ใช้ฟรี!

10 ไอเดียธุรกิจฉบับนักศึกษาทุนน้อย ลุยได้เลย!

โอเค เข้าเรื่องกันเลย! เราคัดมาให้เน้น ๆ 10 ไอเดียที่ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อยมาก (บางอย่างแทบจะเป็นศูนย์) แต่ใช้สกิลและความรู้ที่เราเรียนมาได้เต็มที่ ไปดูกันเลย!

1. ติวเตอร์ออนไลน์ / รับสอนพิเศษเฉพาะทาง

ทำไมเวิร์ค: คลาสสิกแต่ได้ผลเสมอ! เราทุกคนมีความรู้ติดตัวมาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคณิต, ฟิสิกส์, อังกฤษ หรือแม้กระทั่งวิชาเฉพาะทางอย่างการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น การสอนพิเศษคือการแปลงความรู้ให้เป็นเงินที่ง่ายที่สุด

  • สิ่งที่ต้องมี: ความรู้ในเรื่องที่จะสอน, คอมพิวเตอร์/แท็บเล็ต, อินเทอร์เน็ต, โปรแกรมประชุมออนไลน์ (Zoom, Google Meet)
  • วิธีเริ่ม:
    1. หา Niche ของตัวเอง: อย่าสอนสะเปะสะปะ ลองเจาะจง เช่น “ติวเตอร์ TGAT/TPAT สำหรับน้อง ม.ปลาย”, “สอนพื้นฐาน Python สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน”
    2. สร้างโปรไฟล์: ทำโปสเตอร์ง่าย ๆ ใน Canva แล้วโพสต์ลงกลุ่ม Facebook, IG Story หรือแม้กระทั่งกลุ่มไลน์ของรุ่นน้อง
    3. กำหนดราคา: เริ่มจากราคาไม่แพงมาก อาจจะเป็นรายชั่วโมง หรือคอร์สสั้น ๆ 5-10 ชั่วโมง
Pro-Tip (SEO/GEO): ลองใช้คีย์เวิร์ดเจาะจงพื้นที่เข้าไปด้วย เช่น “รับสอนพิเศษคณิต ม.ปลาย ย่านบางเขน” หรือ “ติวเตอร์ตัวต่อตัว จุฬา-สามย่าน” จะช่วยให้น้อง ๆ ในพื้นที่หาเราเจอง่ายขึ้นมาก!

2. นักสร้างคอนเทนต์ (Content Creator)

ทำไมเวิร์ค: ยุคนี้ใคร ๆ ก็เสพคอนเทนต์! ถ้าเรามีความชอบอะไรเป็นพิเศษ เช่น เล่นเกม, แต่งหน้า, รีวิวหนังสือ, ทำอาหาร ลองเปลี่ยนมันให้เป็นคอนเทนต์ดูสิ

  • สิ่งที่ต้องมี: มือถือกล้องดี ๆ สักเครื่อง, ไอเดีย, ความสม่ำเสมอ
  • วิธีเริ่ม:
    1. เลือกแพลตฟอร์ม: TikTok สำหรับวิดีโอสั้น, YouTube สำหรับวิดีโอยาว, Lemon8 สำหรับรีวิวไลฟ์สไตล์, หรือเขียนบทความลง Blockdit/Facebook Page
    2. หาตัวตน: เราอยากเป็นใคร? สายฮา, สายให้ความรู้, สายสวยงาม? การมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนจะทำให้คนจำเราได้
    3. สร้างคอนเทนต์สม่ำเสมอ: ไม่ต้องรอให้สมบูรณ์แบบ แค่เริ่มทำและเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็เก่งขึ้นเอง

3. ผู้จัดการโซเชียลมีเดีย (Social Media Manager)

ทำไมเวิร์ค: ร้านค้าเล็ก ๆ หรือธุรกิจ SME แถวบ้าน/มหา’ลัย หลายร้านไม่มีเวลาดูแลเพจ Facebook หรือ IG ของตัวเอง นี่คือโอกาสทองของเรา! เราโตมากับโซเชียลมีเดีย เรื่องแค่นี้สบายมาก

  • สิ่งที่ต้องมี: ความเข้าใจในแพลตฟอร์มต่าง ๆ (FB, IG, TikTok), ทักษะการเขียนแคปชัน, ทำกราฟิกง่าย ๆ ได้ (Canva คือเพื่อนรัก)
  • วิธีเริ่ม:
    1. สร้าง Portfolio: ลองทำเพจของตัวเองให้ปังก่อน หรืออาสาช่วยดูแลเพจชมรมฟรี ๆ เพื่อเก็บผลงาน
    2. เสนอตัว: เดินเข้าไปคุยกับร้านกาแฟ, ร้านเสื้อผ้า, หรือร้านอาหารแถวมหา’ลัยเลย! “พี่ครับ สนใจให้ผมช่วยดูแลเพจมั้ยครับ/คะ?”
    3. ทำแพ็คเกจราคา: เช่น แพ็คเกจ Basic (โพสต์วันละ 1 ครั้ง + ตอบคอมเมนต์) หรือ แพ็คเกจ Pro (เพิ่มการยิงแอด, คิดแคมเปญ)

4. ฟรีแลนซ์เฉพาะทาง (Specialized Freelancer)

ทำไมเวิร์ค: ถ้าเรามีสกิลเฉพาะทางติดตัว นี่คือขุมทรัพย์เลยนะ! ไม่ว่าจะเป็นการเขียน, ออกแบบกราฟิก, ตัดต่อวิดีโอ, แปลภาษา, หรือเขียนโค้ด

  • สิ่งที่ต้องมี: สกิลเฉพาะทาง, Portfolio ผลงาน, แพลตฟอร์มหาลูกค้า (Fastwork, Upwork, หรือกลุ่ม Facebook)
  • วิธีเริ่ม:
    1. รวบรวมผลงาน: เอาโปรเจกต์ที่เคยทำตอนเรียนมาจัดเรียงให้สวยงามใน Portfolio (อาจจะทำเป็นเว็บง่ายๆ หรือไฟล์ PDF)
    2. สร้างโปรไฟล์บนแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์: เขียนอธิบายตัวเองและสกิลให้ชัดเจน น่าเชื่อถือ
    3. โปรโมทตัวเอง: แชร์โปรไฟล์และผลงานลงในโซเชียลมีเดียของตัวเอง

5. ธุรกิจ Dropshipping / พรีออเดอร์

ทำไมเวิร์ค: อยากขายของแต่ไม่อยากสต๊อกของเอง? Dropshipping คือคำตอบ! เราทำหน้าที่แค่การตลาดและการขาย ส่วนเรื่องสต๊อกและจัดส่งให้ Supplier จัดการ หรือจะรับพรีออเดอร์สินค้าที่กำลังเป็นกระแสก็ได้

  • สิ่งที่ต้องมี: ร้านค้าออนไลน์ (สร้างง่าย ๆ บน IG, Facebook Page, หรือ Line MyShop), ความสามารถในการหาสินค้าที่น่าสนใจ, ทักษะการตลาด
  • วิธีเริ่ม:
    1. หาสินค้าและ Supplier: อาจจะเป็นสินค้าจากจีน (ผ่าน AliExpress) หรือสินค้าจากร้านค้าส่งในไทย
    2. สร้างหน้าร้าน: ถ่ายรูปสินค้า (หรือขอรูปจาก Supplier) แล้วลงขาย พร้อมเขียนรายละเอียดให้น่าสนใจ
    3. ทำการตลาด: โปรโมทสินค้าในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง หรือยิงแอดเล็กน้อย

6. Personal Shopper / รับหิ้วสินค้า

ทำไมเวิร์ค: เหมาะกับสายช้อป! คนที่อยู่กรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่จะได้เปรียบมาก เพราะสามารถเข้าถึงร้านค้าหรืออีเวนต์พิเศษได้ง่ายกว่าคนต่างจังหวัด

  • สิ่งที่ต้องมี: ความเร็วในการอัปเดตเทรนด์, ความน่าเชื่อถือ, การจัดการออเดอร์ที่ดี
  • วิธีเริ่ม:
    1. สร้างตัวตน: เปิด IG หรือ Twitter สำหรับรับหิ้วโดยเฉพาะ
    2. เจาะกลุ่มเป้าหมาย: จะรับหิ้วอะไร? เสื้อผ้าจากสยาม, ของจาก Pop-up Store, สินค้าจาก MUJI, หรือของจากงานหนังสือ?
    3. คิดค่าบริการ: อาจจะคิดเป็นชิ้น หรือบวกเปอร์เซ็นต์จากราคาสินค้า

7. ทำขนม/อาหารกล่อง (Made-to-Order)

ทำไมเวิร์ค: สำหรับคนที่มีสกิลการทำอาหารหรือทำขนม นี่คือธุรกิจที่เริ่มต้นจากในครัวที่บ้านได้เลย

  • สิ่งที่ต้องมี: ฝีมือ, อุปกรณ์ในครัว, แพ็คเกจจิ้งที่ดูดี
  • วิธีเริ่ม:
    1. หาเมนูเด็ด: อะไรคือ Signature Dish ของเรา? บราวนี่, คุกกี้, ข้าวคลุกกะปิ?
    2. ถ่ายรูปสวย ๆ: อาหารหน้าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง! เรียนรู้เทคนิคถ่ายรูปอาหารจาก YouTube ได้เลย
    3. เปิดรับออเดอร์: เริ่มจากเพื่อน ๆ ในคณะ ในมหา’ลัยก่อน อาจจะเปิดเป็นรอบ ๆ เพื่อควบคุมต้นทุน

8. รับทำ Presentation / Resume / Portfolio

ทำไมเวิร์ค: แก้ปัญหา (Pain Point) ให้เพื่อน ๆ ได้ตรงจุด! หลายคนมีข้อมูลที่ดี แต่พรีเซนต์ไม่สวย ออกแบบไม่เป็น นี่คือช่องว่างให้เราเข้าไปช่วย

  • สิ่งที่ต้องมี: ทักษะการออกแบบ (ใช้ PowerPoint, Keynote, Canva เก่ง ๆ), ความคิดสร้างสรรค์
  • วิธีเริ่ม:
    1. สร้างตัวอย่างผลงาน: เอาสไลด์งานกลุ่มที่เราเคยทำแล้วอาจารย์ชม มาปรับปรุงให้สวยขึ้นแล้วทำเป็น Portfolio
    2. โปรโมทในกลุ่มนักศึกษา: บอกต่อแบบปากต่อปาก รับรองว่ามีคนสนใจแน่นอน
    3. กำหนดขอบเขตงานและราคาให้ชัดเจน: เช่น ราคาต่อสไลด์ หรือราคาเหมาทั้งไฟล์

9. จัด Workshop ขนาดเล็ก

ทำไมเวิร์ค: ถ้าเรามีความสามารถพิเศษ เช่น วาดรูปสีน้ำ, ถักไหมพรม, สอนใช้โปรแกรม Canva, หรือแม้กระทั่งสอนเล่นกีตาร์ ลองเปิด Workshop เล็ก ๆ สอนคนอื่นดูสิ

  • สิ่งที่ต้องมี: ทักษะที่จะสอน, สถานที่ (อาจจะเป็น Co-working Space ของมหา’ลัย หรือร้านกาแฟ), อุปกรณ์สำหรับผู้เรียน
  • วิธีเริ่ม:
    1. ออกแบบคอร์ส: กำหนดว่าใน 2-3 ชั่วโมง ผู้เรียนจะได้เรียนรู้อะไรและได้ผลงานอะไรกลับไป
    2. คำนวณต้นทุนต่อหัว: ค่าอุปกรณ์, ค่าสถานที่ (ถ้ามี) แล้วบวกกำไรเข้าไปเพื่อตั้งราคา
    3. เปิดรับสมัคร: จำกัดจำนวนคนแค่ 4-5 คนก่อนในรอบแรก เพื่อให้เราดูแลได้อย่างทั่วถึง

10. พอดแคสต์ / Youtuber เฉพาะทาง (Niche Down)

ทำไมเวิร์ค: อาจจะไม่ได้เงินในทันที แต่เป็นการสร้าง Personal Branding และ Community ในระยะยาวที่ดีมาก

  • สิ่งที่ต้องมี: ไมโครโฟน (เริ่มจากหูฟังมือถือก็ได้), โปรแกรมตัดต่อเสียง/วิดีโอ (มีของฟรีเยอะมาก), เรื่องที่สนใจจะเล่าอย่างลึกซึ้ง
  • วิธีเริ่ม:
    1. หา Niche ที่แคบแต่ลึก: แทนที่จะทำ “ช่องรีวิวหนัง” ลองเจาะเป็น “ช่องวิเคราะห์หนังของผู้กำกับ Wes Anderson” หรือแทนที่จะทำ “พอดแคสต์พัฒนาตัวเอง” ลองเป็น “พอดแคสต์สรุปหนังสือ Business เดือนละเล่ม”
    2. วางแผนคอนเทนต์: คิดหัวข้อล่วงหน้าสัก 10 ตอน จะได้มีอะไรทำต่อเนื่อง
    3. ลงมือทำและโปรโมท: อัด, ตัดต่อ, แล้วแชร์ไปทุกช่องทางที่เรามี!

Q&A: คำถามที่พบบ่อยสำหรับนักศึกษาอยากทำธุรกิจ

Q: จะแบ่งเวลาเรียนกับทำธุรกิจยังไงไม่ให้พังทั้งคู่?

A: บริหารเวลาคือหัวใจ! ใช้ Google Calendar หรือแอป Planner วางแผนตารางเรียน, อ่านหนังสือ, และเวลาทำธุรกิจให้ชัดเจน เริ่มจากเล็กๆ ก่อน อย่าเพิ่งรับงานเยอะเกินตัว ใช้เวลาว่างช่วงเย็นหรือเสาร์-อาทิตย์ให้เป็นประโยชน์ ที่สำคัญคือต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง ถ้าช่วงไหนสอบหนัก ก็ต้องกล้าที่จะเบรคงานธุรกิจไว้ก่อน

Q: ไม่มีเงินทุนเลยจริงๆ เริ่มจากศูนย์ได้มั้ย?

A: ได้แน่นอน! ให้โฟกัสที่ “ธุรกิจบริการ” (Service-based Business) ก่อนเลย เพราะใช้แค่สมองและเวลาของเราเป็นต้นทุน เช่น ไอเดียข้อ 1, 3, 4, 8 ที่เราลิสต์ไว้ พอเริ่มมีเงินเก็บเล็กน้อย ค่อยขยับไปทำธุรกิจที่ต้องใช้เงินทุนมากขึ้นอย่างการขายของก็ได้

Q: จะทำการตลาดโปรโมทธุรกิจของตัวเองแบบฟรีๆ ได้ยังไง?

A: ใช้พลังของโซเชียลมีเดียให้เต็มที่! สร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ในช่องทางของตัวเอง (Content Marketing), บอกต่อเพื่อนๆ และคนรู้จัก (Word-of-Mouth), เข้าร่วมกลุ่ม Facebook ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเราแล้วเข้าไปพูดคุยให้ความรู้ (อย่าสักแต่ขายของ), และใช้เครือข่ายในมหา’ลัยให้เป็นประโยชน์

Q: จำเป็นต้องจดทะเบียนบริษัทเลยมั้ย?

A: ยังไม่จำเป็นในตอนเริ่มต้น! สำหรับการเริ่มต้นเล็กๆ ที่รายได้ยังไม่เยอะมาก เราสามารถทำในรูปแบบบุคคลธรรมดาไปก่อนได้ แต่สิ่งสำคัญคือควรศึกษาเรื่องภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาไว้บ้าง เมื่อธุรกิจเริ่มโตและมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอในระดับหนึ่ง (เช่น หลักหลายหมื่นถึงแสนต่อเดือน) ค่อยปรึกษาผู้รู้เพื่อพิจารณาการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในอนาคต

อย่ารอให้พร้อม แต่จงพร้อมที่จะเรียนรู้

สุดท้ายนี้ อยากจะบอกเพื่อน ๆ ทุกคนว่า การเป็น “นักศึกษา” คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการลองผิดลองถูก เราไม่จำเป็นต้องรอให้เรียนจบ ไม่ต้องรอให้มีเงินทุนเป็นล้าน แค่เลือกไอเดียที่ใช่และใกล้ตัวที่สุด ลงมือทำมันด้วยความรู้และเครื่องมือที่เรามีอยู่ตอนนี้

ธุรกิจแรกอาจจะไม่ได้ทำให้เรารวยเลยก็ได้ แต่มันจะให้บทเรียน, ประสบการณ์ และความมั่นใจที่หาไม่ได้จากในตำราเรียนแน่นอน… ว่าแล้วก็เลือกสักไอเดียแล้วไปลุยกันเลยเพื่อน!

 

 

คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ SPU

ไม่ใช่แค่เรียนเพื่อ “ปริญญา” แต่คือการสร้าง “Mindset” ของการเป็นเจ้าของธุรกิจจริง!
ที่นี่น้อง ๆ จะได้ ลงมือทำธุรกิจจริงตั้งแต่ปี 1 ผ่านโปรเจกต์ Startup, การสร้าง Prototype, การทดลองตลาด และ Pitch Idea กับนักลงทุนจริง มี Mentor ตัวจริงจากวงการธุรกิจ มาสอนและให้คำปรึกษาใกล้ชิด มี SPU Business Incubator + Co-working Space ช่วยบ่มเพาะธุรกิจและเชื่อมต่อกับเครือข่าย SME, Startup และบริษัทใหญ่ ได้ฝึกทั้ง ทักษะ + กรอบความคิดผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Mindset) ไม่ใช่แค่ความรู้ทฤษฎี เหมาะกับคนที่อยากเป็นเจ้าของชีวิต อยากแก้ปัญหา และอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลก 

>> สมัครออนไลน์ คลิกที่นี่ <<

(Visited 2 times, 1 visits today)

Related posts

8 คณะยอดฮิตของ “เด็กสายศิลป์” มาค้นหาคณะที่ใช่ สไตล์ที่ชอบกัน!

P'Krish

อยากรู้!! จบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์เรียนอะไร แล้วทำงานอะไรได้บ้าง? มาหาคำตอบกับ SPU

P'Krish

ไม่รู้ไม่ได้! 4 อาชีพสายวิศวกรรมยานยนต์สมัยใหม่

P'Menu SPU