สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ สกุลวรา ด้วงแสง ชื่อเล่น เดียร์ นะคะ รหัส 64 ค่ะ
พี่จบม.6 จากโรงเรียนสารวิทยาค่ะ แผนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษ
ปัจจุบันพี่เรียนอยู่วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ภาค Dual Degree สาขาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานและการตลาดดิจิทัลค่ะ
เห็นแล้วชื่อกับสาขาที่เรียนก็จะดูยาวๆ หน่อยนะคะ แต่ว่ายาวขนาดนี้ก็แปลว่าต้องมีความพิเศษอยู่แน่ๆ เลย แล้วความพิเศษมันคืออะไร? ทำไมพี่ต้องเลือกเรียน? วันนี้พี่จะมาเล่าให้ฟังค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนที่ SPU?
ตอนที่พี่อยู่ม.6 พี่มีความลังเลอยู่ 2 คณะที่พี่อยากเรียนค่ะ นั่นก็คือ “การตลาดดิจิทัล” กับ “โลจิสติกส์” พี่คิดและหาข้อมูลอยู่นานว่าจะไปเรียนคณะไหนดี จนสุดท้ายตัดสินใจเลือกเรียนโลจิสติกส์ฯ ค่ะ
พี่ทำการหาข้อมูลอยู่นานว่าเรียนโลจิสติกส์ฯ มอไหนดี และพี่ก็มาเจอที่นี่ค่ะ ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม
เพราะว่าที่นี่เป็นไม่กี่มหาวิทยาลัยที่มีวิทยาลัยโลจิสติกส์แยกออกมา นั่นทำให้สาขาโลจิสติกส์ของมหาวิทยาลัยเราอยู่ลำดับต้นๆ ของประเทศ
พอพี่เจอแบบนี้ พี่ก็โอเค เอาล่ะ เอาที่นี่แหละ พี่เลยเริ่มศึกษาข้อมูลต่างๆ ของวิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชนของมหาวิทยาลัยศรีปทุม และพี่ก็มาเจอกับ Dual Degree หรือหลักสูตร 2 ใบปริญญานั่นเองค่ะ
โดย Dual Degree ของที่นี่จะมีให้เลือกหลายวิชา แต่พี่เลือกสาขาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานและการตลาดดิจิทัล เพราะพี่อยากเรียนการตลาดดิจิทัลอยู่เป็นเดิมทุนอยู่แล้ว ทีนี้ก็ได้เรียน 2 สาขาไปเลย ไม่ต้องตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้เรียนสิ่งที่ชอบทั้ง 2 อย่างไปเลย ถึงจะเรียนหนักหน่อย แต่ได้รับวุฒิปริญญาตรีทั้ง 2 สาขาวิชา พี่ว่าคุ้ม!
นอกจากได้เรียน 2 วิชาที่ชอบแล้ว ที่มหาวิทยาลัยของเรายังมีทุน 100 % อีกด้วย เมื่อพี่รู้แบบนี้ พี่จึงตัดสินใจยื่นทุนทันที และพี่ก็ได้รับโอกาสเข้ามาเรียนที่นี่ในฐานะนักเรียนทุนค่ะ
ถ้าถามว่าการเรียนเป็นอย่างไรบ้าง? พี่ขอแยกเป็น 2 พาร์ทแล้วกันค่ะ
พาร์ทแรก “โลจิสติกส์” พี่ได้เรียนเกี่ยวกับขบวนการขนส่งทั้งหมด ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เพราะโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ไม่ใช่แค่การขนส่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงขั้นตอนการจัดหา จัดเก็บ รักษา และอื่นๆ อีกมากมาย
หลายคนคิดว่าเรียนโลจิสติกส์ต้องมาทำขนส่งอย่างเดียว แต่ไม่เลย มันมีอะไรมากกว่าที่เราคิดไว้เยอะมาก มีคำนวณด้วยนะ แล้วถ้าถามว่าเรียนโลจิสติกส์แล้วเรียนคำนวณไปจะได้ใช้อะไร? พี่จะบอกเลยว่าใช้เยอะมาก เราจะได้เรียนรู้การคิดต้นทุนการผลิต การคิดค่าแรง การวางแผนการขนส่ง วางแผนการจัดเก็บสินค้า ค่าเสียโอกาส และอีกมากมายเลย
ส่วนรูปแบบของการเรียนก็ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด การเรียนมีทั้งการนั่งฟังบรรยาย การเชิญวิทยากรจากภายนอกมาให้ความรู้ การเข้า Lap เพื่อเข้าไปทดลองใช้โปรแกรมต่างๆ การ Work Shop ที่ให้เราได้เรียนรู้และลองผิดลองถูกไปพร้อมกัน เรียกว่า เรียนสนุก ลุกนั่งสะดวก แถมบวกความรู้ไปเต็มเปี่ยม
ส่วน “การตลาดดิจิทัล” เราจะได้เรียนเกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปแบบธุรกิจ การคิดโปรโมชั่นต่างๆ การทำคอนเทนต์ลงในโซเซียลมีเดีย และการยิงแอดโฆษณา รูปแบบการเรียนก็อาจจะดูตึงๆ หน่อยค่ะ เพราะว่าอาจารย์ส่วนใหญ่จะเน้นให้นักศึกษาเป็นผู้สร้างหรือลงมือทำ ดังนั้นงานในวิชานี้ก็จะต้องทำออกมาเป็นโปรเจคเป็นส่วนใหญ่ค่ะ แต่พี่บอกเลยนะ ตึงๆ แบบนี้แต่ได้ทำเอง ทำจริง และทำเป็น เรียกว่าเรียนแล้วเอาไปประกอบอาชีพสามารถใช้งานได้จริงเลยค่ะ
อาจารย์ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง? อาจารย์ที่นี่น่ารัก ใจดี อาจจะมีสั่งงานเยอะหน่อย แต่เข้าใจเด็กค่ะ มีอะไรไม่เข้าใจตรงไหน ถามได้ตลอด แถมยังมีกิจกรรมดีๆ มาให้เล่นเสมอเลย แต่ถ้าจะให้พี่พูดถึงอาจารย์ซักคน พี่คงต้องขอพูด 2 คนนะคะ เพราะพี่เรียน 2 ภาค 55555
ท่านแรก อาจารย์นิว หรือ ดร.สรพล บูรณกูล อาจารย์สอนดีมาก ดีมากกก มากแบบตะโกนเลย ถ้าตั้งใจฟังอาจารย์จริงๆ จะได้รับความรู้ไปแบบเต็มๆ เลย อาจารย์จะสอนหลายรายวิชาเลย แต่พี่เจออาจารย์ครั้งแรกตอนเรียนวิชาการคำนวณต้นทุนการผลิต อยากจะบอกว่าเรียนสนุกมาก อาจารย์ชอบให้ตอบคำถามเก็บคะแนนพิเศษ พี่กวาดทุกคาบเลยก็ว่าได้ 5555555 อาจารย์เป็นกันเอง สอนสบายๆ ไม่เข้าใจตรงไหนถามได้ อาจารย์สอนใหม่ให้ ทวนให้ตลอด ถ้าพูดถึงเรื่องการสอนแล้วเข้าใจ พี่ก็ยกให้อาจารย์นิวเป็น Number 1 ในดวงใจเลย
ต่อมาจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก อาจารย์สุเมธ สันติกุล อาจารย์สอนในวิชาการตลาด เกี่ยวกับยิงแอดโฆษณาและการคิดคอนเทนต์ค่ะ อาจารย์ใจดีและสอนดีมาก สั่งงานเข้าใจที่สุด ไม่เข้าใจตรงไหน มีปัญหาอะไร ติดต่อและสอบถามอาจารย์ได้ตลอด (พี่รับงานนอกมาปรึกษาอาจารย์ก็ยังให้คำแนะนำเลยค่ะ) แต่อาจารย์จะค่อยข้างซีเรียสเรื่องความตรงเวลาและความถูกต้องของงาน เรียกว่าถ้าไม่ดีจริง ได้คะแนนจากอาจารย์ยากค่ะ แต่นั่นก็คือข้อดีที่จะฝึกให้พวกเราแข็งแกร่ง ถ้าผ่านอาจารย์ผ่านได้ เราทำงานได้สบายค่ะ รูปแบบการเรียน อาจารย์จะเน้นให้เราทำโปรเจคได้ลงมือทำจริงๆ เรียกกว่าเรียนมาเพื่อประกอบอาชีพและต่อยอดของจริงค่ะ
บรรยากาศในมหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง? ในมอเราก็จะชิวๆ ค่ะ ไม่เงียบเหงา เวลาว่างรอเปลี่ยนคาบก็มีที่นั่งให้เลือกหลายที่เลย ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดที่มีถึง 4 ชั้นจุกๆ ถามยังมีที่นอนไว้ให้พักสายตาอีกด้วย โดยในห้องสมุดเนี่ยก็จะมีห้องประชุมไว้ให้เราจองสำหรับคุยงาน มีคอมพิวเตอร์ไว้ให้ค้นหาข้อมูลอีกด้วยนะ นอกจากนั้นยังมีห้อง Lounge ของวิทยาลัย ที่สามารถเข้าไปนั่ง ไปนอน ไปทำการบ้านได้ตามใจเลยค่ะ เรียกว่ามีที่ให้อยู่ได้ทั้งวัน ส่วนเรื่องอาหารการกินไม่ต้องห่วงเลยยย เรามีทั้ง Cafe Amazon, True Coffee และร้านคาเฟ่เล็กๆ ในมออีกเพียบ! แถมยังมีโรงอาหารให้ถึง 2 แห่ง หาอะไรกินได้สบาย แถมอาหารอร่อยอีกต่างหาก
แต่!! ถ้าไม่อยากกินในมอก็เดินออกหน้ามอไปนิดเดียวก็เจอรถไฟฟ้าเลย เอาล่ะ ทีนี้อยากจะไปไหนก็ได้เลย 55555
สังคมเพื่อนที่นี่น่ารักมาก เพื่อนๆ เป็นกันเอง หลายๆ คนอาจคิดว่าเอกชนต้องแข่งกันแต่งตัว แบ่งพรรคแบ่งพวก แต่กับที่นี่ไม่เลย เพื่อนๆ ช่วยกันเรียน ช่วยกันทำงาน ชวนกันไปเที่ยวไปหาอะไรกิน ทำอะไรสนุกๆ ด้วยกัน เรียกว่า ช่วยกันเรียน+ชวนกันเล่นเลยก็ว่าได้
ส่วนรุ่นพี่ของเราก็น่ารักไม่แพ้กัน เป็นกันเองกับน้องๆ คอยให้คำแนะนำตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การทำงาน การวางตัว รวมถึงการใช้ชีวิตหรือสกิลต่างๆ ในมหาลัย เรียกว่าคอยซัพพอร์ตตลอด มีอะไรทักมา ช่วยได้พี่พร้อมช่วยเสมอ
ส่วนเรื่องการแต่งตัว เรียกว่าเอาที่เราสะดวก แต่ขอสุภาพหน่อยนะคะ เอาจริงๆ คือเราจะใส่อะไรมาเรียนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นชุดนักศึกษาแบบมีสไตล์ หรือชุดนักศึกษาแบบเต็มเครื่องแบบ ชุดพละ ชุดไปรเวท ได้หมดเลย แต่ส่วนใหญ่พี่จะใส่เสิ้อโปโลของมอหรือคณะกับกระโปรงนักศึกษาหรือกางเกงขายาวค่ะ มีไปรเวทบ้างก็จะแต่งตัวชิวๆ ตามสไตล์พี่ เสื้อยืด กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ
อ๋อ ที่สำคัญมอเราแอร์เย็น แขนยาวขายาวกันหนาวต้องพร้อมด้วยนะ
อยากบอกอะไรกับน้องๆ ที่จะมาเรียนสาขาวิชานี้เหรอ? มาเลย!
แต่ก่อนมาเตรียมรับแรงกระแทกมาก่อนนะ 555555 (ล้อเล่น) อยากจะบอกว่าการเรียนแบบ 2 ปริญญาเนี่ยอาจจะเหนื่อยหน่อยแต่สนุกแน่ อยากให้มาเรียน มาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเรียนกับอาจารย์ที่พร้อมจะถ่ายทอดความรู้ให้เราแบบ 100% มาลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ รับประกันว่าน้องๆ จะได้รับแต่สิ่งดีๆ จบออกไปมีงานทำแน่นอน!
ใครมีอะไรสงสัยเพิ่มเติม ถามพี่ได้เลยที่ Facebook S’sakul Dear นะคะ