สวัสดีครับน้องๆ พี่ชื่อเบลนะครับหรือชื่อจริง นายอภิวัฒน์ อินมั่น
จบจากโรงเรียนบ้านคาวิทยาคม จังหวัดราชบุรี
ตอนนี้พี่เป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้าครับ
พี่ต้องขอเล่าตั้งแต่พี่เรียนมัธยมก่อนนะครับ
พี่เป็นเด็กต่างจังหวัดที่มีความฝันในอาชีพมากมายเลยไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ ครู หรือหมอ แต่ท้ายที่สุดพี่ตัดสินใจที่จะเรียนวิศวะครับเพราะเหตุผลหลายๆ อย่าง
แต่เหตุผลที่สำคัญคือ พี่มองว่าเป็นอาชีพที่รายได้ดีมั่นคงและดูเท่ครับ พอจบม.6 พี่เลยเริ่มหาข้อมูลมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ พี่ก็ดูอยู่หลายที่อยู่เหมือนกันครับ แต่สุดท้ายพี่เลือกมหาวิทยาลัยศรีปทุมเพราะการเดินทางสะดวกสบาย มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านหน้ามอ สภาพแวดล้อมสะอาดร่มรื่น สภาพสังคมดี และที่สำคัญคือหลักสูตรที่เปิดสอนได้รับการรับรองจากสภาวิศวกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือก็คือจบไปสามารถยื่นสอบกว. หรือใบประกอบวิชาชีพทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ได้อย่างแน่นอนครับ
และสำหรับน้องที่สนใจมาเรียนที่เดียวกับพี่พี่จะมาเล่าประสบการณ์ของพี่ให้ฟังนะครับพร้อมทั้งจะแนะนำให้รู้จักอาจาย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้าให้รู้จักด้วยครับ
มาเริ่มกันที่ประสบการณ์ในตอนเข้ามาเรียนใหม่ๆ กันเลยครับ
ในเทอมแรกที่มหาลัยจะมีการปูพื้นฐานให้กับน้องๆ ทุกคนเลยนะครับ เช่น พวกวิชา คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ซึ่งจะนำไปต่อยอดกับวิชาเฉพาะด้านวิศวกรรมศาสตร์ต่อไปครับ ในปี 1 น้องๆ ทุกคนจะได้เรียนเหมือนกันทุกสาขาเลยนะครับในส่วนของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า เครื่องกล ยานยนตร์ หรือโยธา และพอขึ้นปี 2 น้องๆ ถึงจะได้เลือกสาขาที่น้องๆ สนใจครับ (ในส่วนของพี่ พี่เลือกสาขาไฟฟ้าครับ)
พอถึงตอนนี้น้องๆ ที่สนใจเลือกเรียน วิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้าแบบพี่ พี่จะมาเล่าเนื้อหาที่น้องๆ จะได้ศึกษาให้ฟังนะครับ
วิศวกรรมไฟฟ้าจะศึกษาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าทั้งหมดเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นระบบการผลิตไฟฟ้า ระบบส่ง ระบบจำหน่าย รวมทั้งการวิเคราะห์และออกแบบต่างๆ ทางไฟฟ้าสำหรับอาคารบ้านเรือนหรือโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ และจะมีงานควบคุมอัตโนมัติต่างๆ เช่น การใช้งาน Arduino หรือระบบ PLC ที่เป็นที่นิยมใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยครับและสามารถนำไปประยุกต์ใช้หรือต่อยอดได้อีกมากมายเลยครับ ฟังดูแล้วน้องๆ อาจจะคิดว่าทำไมเรียนเยอะจังจะเรียนไหวไหม อันนี้ไม่ต้องห่วงครับ เพราะพอมาเรียนจริงๆ จะคอยมีเพื่อนๆ ที่ช่วยกันเรียนและรุ่นพี่คอยแนะนำอยู่เสมอครับ
เดี๋ยวพี่จะมารีวิวเพื่อนๆ กับรุ่นพี่ที่นี่ให้ฟังนะครับว่าคอยช่วยเหลือและคอยซัพพอร์ตเรายังไง
เพื่อนๆ และรุ่นพี่ ตอนเข้ามาเรียนที่นี่ใหม่ๆ
พี่มากับเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน 2 คนครับ ตอนนั้นก็รู้สึกอุ่นใจที่มีเพื่อนมาเรียนด้วยกัน แต่พอเรียนได้ประมาณ 2 อาทิตย์เพื่อนพี่ก็ตัดสินใจไม่เรียนต่อด้วยเหตุส่วนตัว ตอนนั้นพี่รู้สึกคิดมากสุดๆ เพราะตอนนั้นยังไม่มีเพื่อนที่สนิทสักคน เลยกลัวว่าต้องเรียนคนเดียวไปจนจบปี 4
แต่พอเรียนมาได้ประมาณอาทิตย์ที่ 3 ก็มีที่ต้องทำงานกลุ่มกัน ตอนนั้นและที่พี่ได้รู้จักกับเพื่อนๆ ที่คบกันมาจนถึงปัจจุบัน เอาจริงๆ พี่เป็นคนที่เข้าสังคมไม่ค่อยเก่ง เลยไม่กล้าที่จะเข้าหาใครก่อนเพราะกลัวนั้นกลัวนี่ แต่เอาจริงๆ เพื่อนๆ ที่นี่ใจดีมากพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกเรื่อง เช่นในวิชาไหนที่พี่ไม่ค่อยเก่งก็จะคอยมาช่วยอธิบายและสอนให้พี่เข้าใจอยู่เสมอ มันก็เลยทำให้เราสนิทกันมาก พอจะสอบเราก็จะมาจับกลุ่มกันติวใครถนัดวิชาไหนก็จะมาติววิชานั้นๆ ให้กับเพื่อนคนอื่นๆ
และสำหรับรุ่นพี่ที่นี่ก็น่ารักมากคอยช่วยติวให้ก่อนสอบและคอยแนะนำสิ่งดีๆ ให้อยู่เสมอปรึกษาได้ตลอดไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือเรื่องอื่นๆ จะคอยให้คำแนะนำในการทำงาน ว่าต้องเจออะไรเป็นยังไงแตกต่างจากตอนเรียนแบบไหนและควรปรับตัวยังไง ทำให้พี่ได้เตรียมตัวตั้งแต่ต้นๆ
บรรยากาศในมอและรอบมอ บรรยากาศในมอก็จัดว่าร่มรื่นครับ ลมแรงมาก มีมุมสบายๆ หลายที่เลย มีที่นั่งเล่นเยอะแยะ มีโรงอาหาร 2 ที่เราเรียกว่าโรงร้อน กับโรงเย็นครับ มีสนามกีฬาให้ออกกำลังกาย 2 ที่เช่นกัน มีทั้งสนามบาส ฟุตซอล ปิงปอง แล้วแต่เราจะเลือกเล่นเลยครับ จะมีการจัดแข่งกีฬาประเภทต่างๆ ทุกปีด้วย พี่เองก็ลงแข่งฟุตซอลด้วยเดี๋ยวเอารูปมาอวดหน่อยละกัน5555
และถ้าว่างๆ ส่วนใหญ่ก็ไปนั่งเล่นที่ห้องสมุดกัน เพราะที่นั่นมีทั้งมุมเงียบไว้อ่านหนังสือ ไว้แอบงีบหลับ (พี่ทำบ่อย 555) และก็มีมุมนอนพัก นั่งเล่นคุยกับเพื่อนๆ ทำงานกลุ่ม
จะบอกว่าห้องสมุดที่นี่มีหนังให้ดูด้วย มีห้องให้ร้องคาราโอเกะด้วย ห้องสมุดศรีปทุมก็คือมีหลายชั้นมาก ส่วนตัวพี่ชอบชั้น 4 มากเพราะมีโซฟาไว้นอนพักเวลาเรียนมาเหนื่อยๆ
ส่วนเรื่องหอพักก็เยอะมากๆ มีรอบมหาลัยฯ ไม่ว่าจะตรงข้ามหรือว่าซอยข้างๆ มหาลัยฯ เลือกอยู่ได้เลยครับ
ถ้าถามถึงวัฒนธรรมในมอ พี่ว่ามันดีนะ ทุกคนอยู่ด้วยกันแบบเป็นครอบครัวเลย ทั้งอาจารย์ ทั้งรุ่นพี่ มันอบอุ่นมาก สามารถปรึกษา และให้ความช่วยเหลือกันได้
และในส่วนของอาจารณ์คณะวิศวกรรมไฟฟ้ามีทั้งหมด 16 ท่าน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการวิเคราะห์ระบบไฟฟ้ากำลังเสถียรภาพ แรงดันไฟฟ้าการเชื่อมต่อพลังงานหมุนเวียน การจัดการพลังงาน พลังงานทดแทน ระบบไฟฟ้า ที่ปรึกษาพัฒนาระบบการจัดการพลังงานและวิเคราะห์การดำเนินการทางเทคนิคสำหรับมาตรการอนุรักษ์พลังงาน และอื่นๆ อีกมากมาย
เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกองความรู้เกี่ยวกับวิศวกรรมไฟฟ้าเลยก็ว่าได้
และพี่จะขอแนะนำอาจารณ์สัก 2 ท่านที่คอยให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาให้กับพี่ในทุกๆ เรื่อง
มาเริ่มกันที่ท่านแรก นั้นก็คือผู้ช่วยศาสตราจารย์เอกชัย ดีศิริ
ท่านมีความเชี่ยวชาญทางด้านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในงานอุตสาหกรรม ระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ ออกแบบวงจรดิจิตอล อิเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคุม ระบบสมองกลฝังตัว
เป็นคนที่สามารถสอนเรื่องที่เข้าใจได้ยาก อย่างวิชาอิเล็กทรอนิกส์ให้พี่เข้าใจได้แบบไม่ยากนัก เพราะท่านเป็นคนที่ใจดีและเข้าถึงได้ง่ายทำให้นักศึกษากล้าที่จะถามคำถามต่างๆ ที่สงสัย ไม่ว่าจะในคาบเรียนหรือนอกเวลาเรียนก็สามารถติดต่อผ่านช่องทางต่างๆ ไปปรึกษาส่วนตัวได้เสมอ
และอีกท่านไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิชชากร เฮงศรีธวัช ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของพี่เอง เป็นอีกคนหนึ่งที่อารมณ์ดีและใจดีมากๆ ในเวลาสอนอาจารณ์มักจะปล่อยมุกให้นักศึกษาได้ขำอยู่เสมอ ทำให้บรรยากาศในห้องเรียนอย่างวิชาที่น่าปวดหัวอย่างเครื่องจักรกลไฟฟ้าเป็นวิชาที่สนุกและน่าเรียนไปเลย
ประกอบกับการอธิบายที่เข้าใจได้ง่ายของอาจารณ์ทำให้การเรียนและเข้าใจวิชานี้เป็นอะไรที่ไม่ยากอีกต่อไป
ที่ม.ศรีปทุม ก็จะประมาณนี้แหละครับ สำหรับพี่พี่คิดว่าพี่เลือกไม่ผิดนะที่เรียนที่นี่ ได้เจอเพื่อน ได้เจออาจารย์ และได้เรียนรู้ประสบการณ์หลายๆ อย่างเลย พี่เป็นเด็กต่างจังหวัดมาเรียนกรุงเทพ ก็เลยรู้สึกประทับใจเลยที่ได้มาเรียนที่นี่
ถ้าพูดถึงอาชีพวิศวกรไฟฟ้านั้นเป็นอาชีพที่มีความต้องการสูงมาก เพราะทุกที่มีการใช้ไฟฟ้า ตัวเนื้องานนั้นค่อนข้างกว้างและหลากหลาย สามารถปรับเปลี่ยนพลิกแพลงได้หลายอย่าง เรียนจบมาไม่ตกงานอย่างแน่นอนครับ และสำหรับน้องๆ ที่มีความฝันที่อยากจะเป็นวิศวะไฟฟ้าแบบพี่ พี่อยากจะบอกว่าการเรียนวิศวะนั้นไม่ได้ยากอย่างที่น้องๆ คิด ขอแค่น้องมีความตั้งใจ อดทน และขยันที่จะเรียนรู้ พี่เชื่อว่าน้องๆ ทุกคนก็สามารถเรียนจบและเป็นวิศวกรที่มีคุณภาพได้อย่างแน่นอนครับ
สุดท้ายนี้สิ่งที่พี่อยากจะบอกกับน้องๆ ทุกคน
สิ่งที่พี่ได้จากการเรียนวิศวะไฟฟ้านั้นไม่ใช่แค่ความรู้ที่จะนำไปประกอบอาชีพได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่พี่ยังได้เรียนรู้ถึงการคิดแบบเป็นระบบมีแบบแผน ซึ่งพี่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
ใครอยากถามอะไรพี่เพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยนะครับ
Facebook:Apiwat inmon