เคยสงสัยไหมว่าทำไมคณะศิลปศาสตร์ถึงดึง 2 ศาสตร์ ทั้งด้านภาษาและธุรกิจการค้า
มาควบรวมให้น้องๆ ได้เรียนกัน
มาค้นหาคำตอบไปพร้อมๆ กับพี่แอดมินกันเถอะค่ะน้องๆ
อย่างแรกเลย คือ.. เปิดโอกาสให้เลือกสายงานได้กว้างกว่า อย่างที่เกริ่นไปช่วงต้นกันแล้วนะคะว่ามีการเรียนถึง 2 ศาสตร์ที่แตกต่างกัน อย่างภาษาและการเจรจาธุรกิจการค้า ในด้านภาษาที่น้องๆ เลือกเรียนได้เลยตามความชอบเลยก็คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น และภาษาจีน แน่นอนว่าหากเรามีมากกว่าสกิลเดียวทางเลือกของเราย่อมมากกว่าอยู่แล้ว ไปได้มากกว่า ไกลกว่า ไม่ว่าจะเป็นบริษัทต่างชาติในประเทศไทย หรืออาจจะอยาก Go inter หาประสบการณ์ในต่างแดนก็ไปได้
เมื่อได้เรื่องสกิลภาษา แน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นสกิลเฉพาะบุคคล น้องๆ จะมีเงินเดือน Start สูงยิ่งกว่า เพื่อนๆ ที่ทำงานในสายงานเดียวกัน บอกเลยว่าก้าวเร็ว ประสบการณ์ล้นๆ แถมได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานต่างวัฒนธรรม และยังได้เรียนรู้ความแตกต่างของวัฒนธรรมระหว่างองค์กรอีกด้วยค่ะ
ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดงาน ที่ต้องมีสกิลมากกว่า 1
ความต้องการบุคคลที่จะเข้าทำงานในแต่ละองค์กรในทุกวันนี้นั้น แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องการคนที่มีความสามารถและทำงานได้หลายอย่าง และคณะศิลปศาสตร์ดันตอบโจทย์สกิลที่น้องๆ ต้องการได้ตรงใจมากซะด้วย เพราะได้ทั้งภาษาและสกิลด้านธุรกิจ ที่บอกเลยว่าเจรจาธุรกิจคล่องมาก พี่แอดมินรับรองเลยค่ะ
ต่อยอดได้ทั้งการเรียนต่อ การต่อยอดธุรกิจส่วนตัว และการประกอบอาชีพ
ไม่ว่าในอนาคตน้องๆ จะมีเป้าหมายชีวิตในด้านไหน ความรู้จากคณะศิลปศาสตร์พร้อม Support น้องๆ ในทุกด้านแน่นอนค่ะ จะเรียนต่อ ทำงานในประเทศหรือในต่างประเทศก็เอาอยู่
คณะนี้ตรงใจน้องๆ คนไหนบ้าง ที่เล่ามาตั้งแต่ต้น
การันตีได้เลยว่าตอบโจทย์ความต้องการของน้องๆ ได้ตรงใจแบบสุดๆ
หรือถ้ายังลังเลสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Link นี้เลยค่ะ www.spu.ac.th/fac/liberal-arts/
หรือยังมีความเอ๊ะอยู่ เข้ามาถามพี่ๆ แอดมินในทุกช่องทางโซเชียลได้เลยค่ะ ^^