“มุ่งมั่น ตั้งใจ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”
– พ.ท.ดร.จิรศักดิ์ ทนุกิจ –
Admin ขอแสดงความยินดีกับ มหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตทุกท่าน ที่เข้าร่วมพิธีประสาทปริญญาบัตร ระดับบัณฑิตศึกษา ประจำปีการศึกษา 2560-2561 ไปหมาดๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา น้องๆทราบหรือไม่ว่า เรามีดุษฎีบัณฑิตที่มีอายุมากที่สุดสำเร็จการศึกษาในปีนี้ด้วยนะ
แอดมินได้มีโอกาสพูดคุยกับ “พ.ท.ดร.จิรศักดิ์ ทนุกิจ” วัย 89 ปี ผู้ชื่นชอบการศึกษาหาความรู้ และขยันหมั่นเพียรจนสามารถคว้าปริญญาเอก หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิติรัฐกิจและการบริหาร มาครอบครองได้สำเร็จ
เพราะหลักสูตรที่ทันสมัย น่าเรียน
ทำให้ตัดสินใจกลับมาเรียนอีกครั้ง
พ.ท.ดร.จิรศักดิ์ : ผมสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท เมื่อตอนอายุ 79 ปี หลังจากนั้นก็ได้เห็นประกาศของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่เปิดหลักสูตรที่น่าสนใจ ทันสมัยและทันเหตุการณ์ มีทั้ง กฎหมาย รัฐประศาสนศาสตร์ และการบริหารการจัดการ คณาจารย์ที่มาสอนก็มีความรู้ เลยตัดสินใจมาสมัคร ตอนนั้นอายุ 86 ปีแล้ว จำได้ว่าอาจารย์เข้ามาหากันหลายคนมาก คิดว่าเราพาหลานมาสมัครเรียน ก็เลยบอกว่า ผมสมัครเอง เท่านั้นแหละ ทุกคนต่างพากันเข้ามาดูตัวกันใหญ่เลย
หลังจากนั้นผมก็พยายามเรียนในห้องเรียนไม่ให้ขาดแม้แต่วันเดียว ชั่วโมงเดียว เพราะเราอายุมากแล้ว ต้องขยันหน่อย เราไม่ได้เก่งกว่าคนอื่น แต่คนอื่นเขามีภาระหน้าที่ ต้องทำงานทำการแล้วก็เลี้ยงดูบุตรภรรยา ส่วนผมมันไม่มีภาระอะไรแล้ว ด้วยอายุขนาดนี้ ลูกเรียนจบกันหมดแล้ว เราเลยได้เปรียบในข้อนี้
แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามตั้งใจเรียนและเขียนวิทยานิพนธ์ เรื่องของบริหารการจัดการ โยกย้ายถิ่นฐานของประชาชนเพื่อตั้งโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่ สปป.ลาว ให้ออกมาดีที่สุด จนจบการศึกษาภายในสามปี
หลานชวนปู่เรียน ….
เพราะเรียบจบแล้วมีงานดีๆ รองรับ
พ.ท.ดร.จิรศักดิ์ : ผมมีหลานเรียนอยู่ที่นี่คนหนึ่งครับ เป็นหลักสูตรระยะสั้น 3-6 เดือน แล้วก็ได้ทราบข่าวว่า เด็กๆแถวบ้านเขาก็มาเรียนที่นี่และสำเร็จไปได้งานทำ เพราะที่นี่จบไปมีงานที่ดีๆทำทุกคนครับ ผมจึงรู้สึกดีที่ได้มาเรียนที่ศรีปทุม น่าภูมิใจมากครับที่ได้เรียนที่นี่
อายุ…ไม่ใช่อุปสรรคต่อการเรียนรู้ ใครว่าอายุมากแล้วจะเรียนไม่ไหว
พ.ท.ดร.จิรศักดิ์ : ผมเป็นคนใฝ่รู้อยู่ตลอดเวลา ชอบเรียนครับ เรียนไม่เคยหยุดเลย ว่างๆ ก็ไปเรียนเกี่ยวกับด้านการเกษตร การทำสวนครัว แต่งเพลง ร้องเพลง เล่นดนตรีอยู่บ้าน และก็ไปเรียนคอมพิวเตอร์ครับ เพื่อให้เข้าถึงยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เรียกว่า ที่ไหนมีเปิดหลักสูตรเรียนก็จะไปหาเรียนครับ
“เราไม่จำเป็นต้องเรียนเอาปริญญาอย่างเดียว เราสามารถเรียนอะไรก็ได้ที่เป็นความรู้ นอกจากมันจะได้คลายเหงาแล้ว มันยังทำให้เรามีพัฒนาการที่ดีและสมองจะได้ทำงานอีกด้วย หลังจากนี้ก็คิดว่า จะไปเรียนอะไรต่อดี”
ชีวิตการทำงานของนายทหาร
แม้จะเกษียณแล้วก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้
พ.ท.ดร.จิรศักดิ์ : สมัยหนุ่มๆ ผมเป็นทหาร เคยสมัครอาสาไปรบที่ประเทศเกาหลี หลังจากนั้นก็ได้ไปอยู่สำนักงานติดต่อที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เสร็จแล้วกลับมาก็ได้ไปอยู่สถานทูตฝรั่งเศสอีก 3 ปี และไปรบต่อที่ประเทศเวียดนาม ภายใต้กองพลเสือดำ ก่อนถูกส่งไปเป็นเลขานุการที่ กรุงพนมเปญ กัมพูชา
สุดท้ายก็มาอยู่หน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษ จนอายุ 50 ปี ก็ลาออกจากราชการ เพราะว่าเหนื่อยมามากแล้ว ลูกๆ ก็บอกพ่อ พักผ่อนได้แล้ว เลยออกจากงานมาหาอะไรเรียนเพิ่มเติมแทนครับ เพราะเป็นคนอยู่ว่างไม่ได้จริงๆ
ดูแลสุขภาพกายให้ดี สุขภาพใจก็ดีตาม พร้อมเปิดรับกับอะไรใหม่ๆ
พ.ท.ดร.จิรศักดิ์ : นอนแต่หัวค่ำ ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ออกกำลังกายตอนเช้าครึ่งชั่วโมง ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ หาอะไรทำผ่อนคลาย เช่น เล่นดนตรี เปียโน ร้องเพลง เนี่ยแหละชีวิต ถ้าทำตามนี้ได้นะ สมองจะปลอดโปร่ง ที่สำคัญอายุยืนอีกด้วย
ความสำเร็จในวันนี้ ส่งต่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ
Focus เป้าหมายของเราให้ชัดเจน
พ.ท.ดร.จิรศักดิ์ : ฝากถึงลูกๆ หลานๆ การเรียนเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องขยันหมั่นเพียร คอยหาความรู้ใส่ตัวเองเสมอ ยุคสมัยมันปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เพราะฉะนั้น เราจะหยุดเรียนรู้ไม่ได้ ทุกๆ ก้าวที่เราเลือกเดิน มันคือการออกไปหาความรู้และประสบการณ์ทั้งนั้น ดูอย่างผมที่ไม่เคยหยุดเลยแม้แต่วันเดียว ทุกๆ อย่างผมมองเป็นการเรียนรู้ใหม่ๆ จำไว้เลยว่า สำเร็จช้า ดีกว่าไม่สำเร็จเลย
เห็นแล้วใช่ไหมคะว่า การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ แอดมินขอยกให้ท่านเป็น Idol ในเรื่องความขยันและความพยายามใฝ่เรียนรู้ แม้ว่าท่านจะมีอายุ 89 ปี แต่ยังคงเลือกที่จะเรียนรู้ หาอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอด เพราะฉะนั้นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เราก็ต้องหมั่นหาความรู้และประสบการณ์และนำมาปรับใช้กับตัวเองอยู่เสมอ เพื่อเตรียมพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอนาคตนะคะ