…. พี่อ๊อฟ พงศกร เคยสนิท ….
ดีกรีผู้ช่วยผู้พิพากษา
ศิษย์เก่า ทุนนักกีฬามหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับ 1
สาขากฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
“พี่เป็นนักกีฬากอล์ฟ ทุนมหาวิทยาลัยศรีปทุม 100% ตอนเรียน นิติศาสตรบัณฑิต พี่ใช้เวลาเพียง 3 ปีครึ่ง ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 และเป็นที่ 1 ของรุ่น ก่อนสอบเป็น เนติบัณฑิตไทย รุ่นที่ 68 และเรียนต่อ นิติศาสตร์มหาบัณฑิต สาขากฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา แต่ที่ภูมิใจที่สุด คงเป็นครั้งนี้ ที่พี่เพิ่งสอบผ่านได้เป็น ผู้ช่วยผู้พิพากษา เป็นความฝันอีก 1 อย่าง ที่เราทำสำเร็จ ซึ่งทั้งหมดนี้พี่ได้มาเพราะความขยัน มุ่งมั่น ตั้งใจเรียน เรียกว่าหายเหนื่อยเลยครับ”
เรื่องเล่า…จุดเริ่มต้น
เส้นทางสู่ ผู้ช่วยผู้พิพากษา
พี่อ๊อฟ : สวัสดีครับน้องๆ วันนี้พี่จะมาเล่าให้ฟังว่า กว่าพี่จะได้เป็นผู้ช่วยผู้พิพากษา พี่ต้องผ่านกับอะไรมาบ้าง ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว พี่ก็เหมือนพวกเราทุกคน เรียนจบ ม.6 กำลังอยู่ในช่วงเลือกเส้นทางชีวิต ที่จะกำหนดอนาคตเราต่อจากนี้ จำได้ว่าตอนนั้นพี่ตัดสินใจไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่เลือกที่จะเดินสายนักกีฬาอย่างเต็มตัว เพราะพี่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟมากๆ ซึ่งทางบ้านก็เข้าใจและพร้อมสนับสนุนพี่ทุกทางจนวันนึงจุดเปลี่ยนของชีวิตพี่ก็เกิดขึ้น เมื่อพี่มีโอกาสได้รับทุนการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยศรีปทุม โควต้านักกีฬา แน่นอนพี่ตัดสินใจคว้าโอกาสนี้ในทันที และเลือกเรียนคณะนิติศาสตร์ ด้วยเหตุผลที่ตลกมากๆ คือคณะนี้ไม่เช็คชื่อ ไม่มีการบ้าน ไม่มีคะแนนเก็บ สอบปลายภาค 100 คะแนนล้วนๆ พี่จะได้มีเวลาไปฝึกซ้อมและแข่งกอล์ฟได้เต็มที่วันแรกของการเป็นนักศึกษา
ในรั้ว SPU รู้สึกอย่างไร
พี่อ๊อฟ : วันรายงานตัว พี่เดินทางเข้ากรุงเทพฯโดยคุณพ่อเป็นคนมาส่ง พร้อมกับเช่าหอพักให้ใกล้ๆ มหาวิทยาลัยให้อยู่ แล้วคุณพ่อก็ขึ้นเครื่องบินกลับทันที ปล่อยให้พี่ฝึกการใช้ชีวิตด้วยตัวเองให้ได้ ซึ่งชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของพี่ค่อนข้างเหนื่อยและหนักกว่าเพื่อนๆ 2-3 เท่าตัว เพราะพี่ต้องเรียน อ่านหนังสือ เดินทางไปซ้อมกอล์ฟและออกแข่งขันไปพร้อมๆ กันและด้วยนิสัยส่วนตัว พี่เป็นคนมีความรับผิดชอบสูง และเคร่งครัดมากๆ ทุกอย่างต้องห้ามบกพร่อง ทำให้พี่ทิ้งการเรียนไม่ลง แม้ใจจะอยากเล่นแต่กีฬาก็ตาม พี่จึงตั้งใจเรียนที่อาจารย์สอน จะได้ไม่ต้องมาเครียดตอนใกล้สอบ และได้มีเวลาไปซ้อมกอล์ฟได้เต็มที่ ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่น“แต่ใช่ว่าไม่มีอุปสรรคเลยนะ มีครั้งนึงพี่ต้องไปแข่ง 1 อาทิตย์ ซึ่งเราไม่สามารถเลือกเวลาแข่งได้อยู่แล้ว ทำให้ต้องพลาดเข้าเรียนไปหลายวิชา แต่พี่ก็ยอมเหนื่อยกว่าคนอื่น โดยตัดสินใจไปแข่งปกติ แต่ตกเย็นของวันนั้นๆ พี่จะโทรกลับไปถามเพื่อนๆ ว่าวันนี้เรียนอะไรกันบ้าง แล้วนำหนังสือที่พกไปด้วยมาเปิดอ่านตาม จนมักจะโดนเพื่อนๆ นักกอล์ฟแซวเรื่องนี้อยู่เสมอๆ”
และในที่สุดพี่ก็สามารถคว้าเหรียญและถ้วยรางวัลให้แก่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้ ส่วนการเรียนพี่ก็สามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 ในระยะเวลา 3 ปีครึ่ง มาได้อีกด้วย ซึ่งหลายๆ คนคิดว่านี่คือการประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว แต่พี่คิดว่านี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น ชีวิตเรายังอีกยาวไกล มีด่านอีกหลายด่านที่เราต้องผ่านไปให้ได้ เพราะฉะนั้นอย่ามัวหลงระเริงในวันที่เรารับปริญญา แต่จงวางแผนชีวิตว่าจะเดินต่อไปอย่างไรในอนาคต
ชีวิตหลังจากเรียนจบ
กับ
… Step ต่อไปที่วางไว้ …
พี่อ๊อฟ : หลังรับปริญญา พี่ก็เข้าเรียนต่อที่ เนติบัณฑิตยสภา ทันที และพี่ก็ทำได้ และเรียนต่อปริญญาโท อย่างต่อเนื่อง จนวันนี้พี่สามารถประสบความสำเร็จสอบผ่านการทดสอบความรู้ความสามารถ เป็นผู้ช่วยผู้พิพากษา(สนามใหญ่) มาได้ และยังคงไม่หยุดอยู่เฉยๆ พี่ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังอยากทำ และต้องทำให้ได้“สุดท้ายนี้ พี่หวังว่า เรื่องราวของพี่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนที่ท้อแท้หมดหวังลุกขึ้นสู้อีกครั้งนะครับ ย้ำอีกครั้ง!!! พี่ไม่ใช่คนเก่งมาจากไหน เพียงแค่เราต้องรู้จักรับผิดชอบกับหน้าที่ของตนเอง เด็กคนไหนอยากได้ดี คุณต้องเหนื่อยกว่าคนอื่น ขยันกว่าคนอื่น คุณต้องยอมตายเพื่อไปให้ถึงความฝันอันยิ่งใหญ่ ถ้าคนเราจะต้องตายเพราะความขยัน ความอดทน ก็ให้มันรู้กันไปสิ สู้ๆ ครับนักล่าฝันทุกท่าน”
แทบัก! สุดยอดไปเลยมั้ยหล่ะ กับรุ่นพี่ของเรา น้องๆ คนไหนที่กำลังท้อแท้ ขอให้รู้ไว้ว่า เรายังมี พี่อ๊อฟ และ พี่แอดมิน คอยเป็นกำลังใจอยู่เสมอน้า เพราะฉะนั้น หายเหนื่อยแล้วก็ต้องลุกขึ้นสู้ ทำความฝันให้เป็นจริง เด็ก SPU ของเราเก่งอยู่แล้ว ✌️