
กระถางย่อยสลายจากพีทมอส-ใยมะพร้าว
ผลงานนักศึกษาวิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
เมื่อปัญหาโลกร้อนและขยะพลาสติกกลายเป็นวาระเร่งด่วนของโลก นักศึกษาจากวิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยศรีปทุม จึงลุกขึ้นมาคิดค้น “กระถางย่อยสลายได้จากพีทมอสและใยมะพร้าว” นวัตกรรมสุดสร้างสรรค์ที่ไม่เพียงลดขยะพลาสติก แต่ยังเพิ่มคุณค่าให้กับภาคเกษตรกรรมไทย พร้อมต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืนในอนาคต
ความโดดเด่นของโครงการยังได้รับการยอมรับในระดับประเทศ ด้วยการคว้า “รางวัลเหรียญเงิน” จากเวที THAILAND NEW GEN INVENTORS AWARD 2025 (I – NEW GEN AWARD 2025) และ “รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2” จากการประกวดโครงงานความยั่งยืนของนักศึกษา ประจำปี 2567 ในการประชุมวิชาการเครือข่ายมหาวิทยาลัยยั่งยืนแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 9 ตอกย้ำถึงศักยภาพของนักศึกษาไทยในการสร้างนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

จากแนวคิดสู่ผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนโลก
แรงบันดาลใจของทีมเริ่มต้นจากการเห็นปัญหาขยะพลาสติกจากกระถางต้นไม้ที่ใช้แล้วทิ้งจำนวนมาก โดยเฉพาะในแวดวงเกษตรเมืองและการตกแต่งสวนในเมืองใหญ่
“เราคิดว่า ถ้าเปลี่ยนวัสดุให้ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และยังช่วยบำรุงดินได้ด้วย จะดีแค่ไหน?” นางสาวชนิสรา คงกระพันธ์ ตัวแทนทีมผู้พัฒนา กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของแนวคิด
การค้นคว้าวิจัยจึงเริ่มต้นขึ้น โดยเลือกใช้ พีทมอส ซึ่งมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำและสารอาหาร ผสานกับ ใยมะพร้าว ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่มีเส้นใยแข็งแรง เมื่อนำมาอัดขึ้นรูปด้วยเครื่องจักร ทำให้ได้กระถางที่แข็งแรง น้ำหนักเบา และย่อยสลายได้จริงในธรรมชาติ
จุดเด่นของ “กระถางพีทมอส+ใยมะพร้าว”
กระถางจากพีทมอสและใยมะพร้าว โดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ 100% ที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ โดยเมื่อกระถางเริ่มสลายตัวลง ยังช่วยปลดปล่อยสารอาหารกลับคืนสู่ดิน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างยั่งยืน โครงสร้างของกระถางมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรองรับน้ำหนักของดินและพืชได้อย่างมั่นคง ขณะเดียวกันก็มีน้ำหนักเบา ช่วยลดต้นทุนและพลังงานในการขนส่ง ทั้งยังออกแบบให้ย่อยสลายได้ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อลดภาระของขยะตกค้างในสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ วัสดุที่นำมาใช้ยังหาได้ง่ายในท้องถิ่น ทำให้กระบวนการผลิตมีต้นทุนต่ำ เหมาะสำหรับการพัฒนาในระดับอุตสาหกรรมอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน

ตอบโจทย์โลจิสติกส์สีเขียว-ตลาดเกษตรเมือง
ผลงานนี้สอดคล้องกับแนวทาง “โลจิสติกส์สีเขียว” อย่างแท้จริง โดยช่วยลดการใช้วัสดุใหม่ ลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่ง และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร จากรายงานคาดการณ์ว่าตลาดกระถางย่อยสลายจะเพิ่มส่วนแบ่งจาก 15% ในปี 2023 เป็น 20% ในปี 2025 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของตลาดที่เน้นความยั่งยืน
โครงการนี้ไม่เพียงเป็นผลงานนักศึกษาเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างของการบูรณาการความรู้เชิงวิชาการกับการปฏิบัติจริง โดยอาศัยองค์ความรู้จากหลายรายวิชา เช่น การวางแผนซัพพลายเชน การคำนวณต้นทุนการผลิต-ขนส่ง การเลือกใช้วัสดุ และการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
ความท้าทายสำคัญที่ทีมเผชิญคือการทดลองหาสัดส่วนส่วนผสมที่ลงตัวที่สุด ทั้งความแข็งแรง น้ำหนักเบา และการย่อยสลายได้ดี จนสามารถพัฒนาให้มีศักยภาพในการผลิตเชิงอุตสาหกรรมได้
เดินหน้าสู่ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน
เป้าหมายถัดไปของทีมคือการต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ ด้วยการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดส่งออก การร่วมมือกับภาคเอกชน และการจดสิทธิบัตรเพื่อสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เกษตรสีเขียวที่เป็นของตนเอง
นวัตกรรมนี้ไม่เพียงเป็นความภูมิใจของนักศึกษา แต่ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของมหาวิทยาลัยศรีปทุม (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 12: การบริโภคและผลิตอย่างยั่งยืน, เป้าหมายที่ 13: การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเป้าหมายที่ 15: การอนุรักษ์ระบบนิเวศทางบก
“นวัตกรรมไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องแล็บ แต่มันเกิดขึ้นได้จากความใส่ใจปัญหาใกล้ตัวและความกล้าลงมือทำ”
นี่คือก้าวเล็กๆ แต่ทรงพลังของนักศึกษาโลจิสติกส์ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของภาคเกษตรไทยให้เขียวขึ้น…และยั่งยืนขึ้นอย่างแท้จริง

สมาชิกในทีม
- นางสาวชนิสรา คงกระพันธ์
- นายปฏิภัสร์ กี่สุ้น
- นายธนภัทร์ ไพศาลนิชากร
อาจารย์ที่ปรึกษา
- ดร.ชยพล ผู้พัฒน์
- อาจารย์ศุภลักษณ์ ไชยสิทธิ์
#SPU #showcase #DEKSPU #วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน #มหาวิทยาลัยศรีปทุม #Sripatum University #เรียนกับตัวจริงประสบการณ์จริง #เรียนโลจิสติกส์