น้องๆ ม.ปลายคนไหนที่กำลังมองหาเส้นทางอนาคตที่น่าตื่นเต้น วันนี้พี่มีเรื่องราวสุดเจ๋งของรุ่นพี่สาขาวิศวกรรมระบบราง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มาเล่าให้ฟัง! บอกเลยว่างานนี้ไม่ได้แค่เรียนในห้อง แต่ได้ไปโชว์ฝีมือถึงสาธารณรัฐประชาชนจีน แถมยังคว้ารางวัลระดับโลกกลับมาด้วยนะ!
เมื่อไม่นานมานี้ สองนักศึกษาเก่งของเรา คือ ณัฐิวุฒิ เฮงเจริญสิญจ์ (พี่วุฒิ) และ ชนิษฐา สุระ (พี่ชมพู่) นักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมระบบราง ได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ “2025 Golden Seed Cup College Student Entrepreneurship Competition” ที่จัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัย Central South University สาธารณรัฐประชาชนจีน การแข่งขันนี้สุดยอดมากๆ เพราะมีทีมจากทั่วโลกกว่า 160 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จากทั้งหมดเกือบหมื่นโครงการเลยทีเดียว
โปรเจกต์สุดว้าว: ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ ปลอดภัยหายห่วง!
ผลงานที่ทีมของพี่วุฒิและพี่ชมพู่ส่งเข้าประกวดคือ “The End-Edge-Cloud Collaborative Smart and Safe Electricity System” หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะปลอดภัยด้วยการทำงานร่วมกันระหว่าง End-Edge-Cloud”
พี่วุฒิอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ระบบนี้จะช่วยป้องกันกระแสไฟรั่วได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะอยู่ในน้ำ! ไม่ว่าจะอยู่ในน้ำทั้งตัวโหลดที่เป็นหลอดไฟและตัวคอนเนคเตอร์ที่เป็นปลั๊กไฟ เราจึงสามารถเสียบปลั๊กและถอดปลั๊กใต้น้ำได้เลย หลอดไฟเองก็สามารถทำงานได้ปกติแม้กระทั่งอยู่ในน้ำ
ส่วนพี่ชมพู่เสริมว่า ทีมได้พัฒนาระบบป้องกันไฟฟ้ารั่วและไฟไหม้แบบอัจฉริยะ “ป้องกันตั้งแต่ต้นทาง + ควบคุมก่อนเกิดปัญหา” ด้วย 4 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่
- วัสดุฉนวนพิเศษ: ลดไฟรั่วได้ถึง 100 เท่า ใช้ได้แม้ในน้ำ คนโดนไฟก็ไม่ช็อต
- ระบบประมวลผลเร็ว: ตรวจสอบข้อมูลได้ 280 จุดในเวลาแค่ 0.04 วินาที เหมาะกับบ้านหรือโรงงานที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายเครื่อง
- AI ตรวจจับปัญหา: ระบบของเราวิเคราะห์อาการเสียได้ 685 แบบ เจอปัญหาแม่น 97% และหาตำแหน่งได้ถูกเป๊ะถึง 95%
- ตัดไฟเร็วสุดๆ: ระบบตอบสนองเร็วแค่ 0.04 วินาที ซึ่งเร็วกว่าปกติถึง 20 เท่า ทำให้เราหยุดเพลิงไหม้จากไฟฟ้าได้ก่อนที่จะเกิดเหตุ
ดังนั้น ระบบนี้จึงทำให้ไม่เกิดไฟฟ้าช็อต ไฟไหม้จากไฟฟ้า และปลอดภัยแม้จะมีบางอย่างผิดปกติ เปลี่ยนจาก “รอให้เสียแล้วค่อยแก้” เป็น “ป้องกันก่อนเกิดปัญหา” นั่นเองค่ะ”
ความท้าทายที่ต้องเผชิญหน้า
แน่นอนว่าการทำงานระดับนานาชาติย่อมมีอุปสรรค! พี่วุฒิบอกว่าท้าทายทุกขั้นตอน เพราะพูดกับเพื่อนร่วมทีมชาวจีนไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนไปแรกๆ ภาษาอังกฤษเค้าก็ไม่พูดด้วย ต้องคอยแปลภาษาคุยกันอย่างเดียวเลย ส่วนพี่ชมพู่เสริมว่า เรื่องภาษาเป็นปัญหาหลัก เพราะมีคำศัพท์หลายคำเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าที่เป็นคำศัพท์เฉพาะ ค่อนข้างยากที่จะเข้าใจ ระบบการทำงานข้างในก็ซับซ้อนมาก รวมถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมของคนจีน-คนไทย บางอย่างเราทำเป็นเรื่องปกติแต่สำหรับเขาเป็นเรื่องที่ซีเรียสทำไม่ได้ แต่พวกเขาก็ผ่านมันมาได้ด้วยการพยายามฝึกทั้งพูดและฟังบ่อยๆ มีอาจารย์ซึ่งทำหน้าที่เป็นล่าม และแอปแปลภาษาตลอดเวลา
เรียนรู้และเติบโตบนเวทีโลก
จากการทำงานร่วมกับนักศึกษาจีน พี่วุฒิได้เรียนรู้ว่าคนจีนเวลาเค้าจะทำอะไร ไม่ว่าสเกลงานจะเล็กแค่ไหน เค้าไม่มีการทำเล่นๆ เลย ส่วนพี่ชมพู่สังเกตว่านักศึกษาจีนทำงานภายใต้ความกดดันมาก และตรงต่อเวลา ทุกอย่างต้องเป๊ะและสมบูรณ์เสมอ ทุกอย่างที่ผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็หมายถึงคะแนนที่ลดลง ซึ่งส่งผลต่อการแข่งขันมาก แต่พอทุกอย่างเสร็จสิ้นพวกเขาก็เป็นเพื่อนและอาจารย์ที่น่ารักมาก ไม่ว่าใครจะทำอะไรผิดพลาดก็ไม่ถูกตำหนิอย่างรุนแรง พวกเรานำปัญหาเหล่านั้นมาพูดคุยและแก้ไขปรับปรุง เป็นบทเรียนสำหรับครั้งต่อๆไป
การแข่งขันครั้งนี้แตกต่างจากการเรียนในห้องเรียนอย่างมาก! พี่วุฒิเปรียบเทียบว่าเหมือนเป็นห้องเรียนเหมือนกันแต่เป็นห้องเรียนที่ใหญ่และมีแต่คนหัวกะทิอยู่เต็มไปหมดเลย
พี่ชมพู่ก็เห็นด้วยว่าในห้องเรียนนักเรียนมักจะสนใจแค่สิ่งที่ตนเองอยากสนใจ หรือสำคัญต่อการสอบเท่านั้น แต่ในการแข่งขัน ทุกอย่างจริงจังและกดดันมาก ต้องพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและดีขึ้นในวันถัดไป
ทักษะสำคัญที่พี่วุฒิคิดว่าได้จากการแข่งขันคือ การเดาความหมายของคำที่เราไม่รู้ว่าคืออะไร แต่เราจะมโนเออ ออ ไปก่อนว่าใช่ แล้วค่อยไปคอนเฟิร์มกับเค้าอีกที่ว่าใช่สิ่งนี้จริงใช่มั้ย วิธีนี้ทำให้เขาไม่ค่อยกลัวกับการคุยกับคนจีนเลย และน่าจะมีโอกาสได้ใช้อีกแน่นอนถ้ามีโอกาสไปต่างประเทศ
ส่วนพี่ชมพู่คิดว่าทักษะสำคัญที่สุดคงเป็นเรื่องภาษา ไม่ใช่แค่ภาษาจีนแต่ยังได้ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารด้วย ดังนั้นการแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ๆ แต่เป็นการฝึกภาษาแบบเข้มข้น และหวังว่าในอนาคตจะนำประสบการณ์ครั้งนี้ไปปรับใช้และต่อยอดในที่ทำงาน หวังว่าจะเป็นวิศวกรที่มีความรู้ทั้งด้านภาษาและระบบรางในเวลาเดียวกัน
อนาคตของวิศวกรรมระบบรางในสายตาเด็กไทย
พี่วุฒิมองว่าระบบรางสามารถที่จะไปได้ทั่วถึงกว่านี้อย่างแบบที่จีน และเชื่อว่ารถไฟฟ้าความเร็วสูงสามารถเชื่อมต่อกับทั้งประเทศได้ พี่
ชมพู่เองก็เห็นว่าจากการที่ได้ไปศึกษาและใช้ชีวิตที่ประเทศจีน ระบบรางเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิตหลายอย่างมาก ทั้งการประหยัดเวลา ประหยัดเงิน ลดปัญหารถติด และสะดวกสบายต่อการเดินทาง การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นในอนาคตวิศวกรรมระบบราง ไม่ใช่แค่ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น แต่ยังส่งผลถึงเศรษฐกิจและอื่นๆอีกมากมาย
ฝากถึงน้องๆ ม.ปลายที่กำลังค้นหาตัวเอง
พี่วุฒิอยากฝากถึงน้องๆ ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรือกำลังเลือกไม่ถูกว่าถ้ามีโอกาสให้ลอง ลองเลยอย่าไปกลัว เพราะเราจะรู้ว่าชอบมั้ยมันเกิดจากการที่เราได้ลองเองกับตัวเท่านั้น
พี่ชมพู่ก็อยากเชิญชวนให้มาลองสัมผัส “วิศวกรรมระบบราง” ที่ถึงแม้จะดูเป็นของแปลกน่าลอง แต่ก็เป็นของน่าลองมากๆ เพราะเราไม่ได้เรียนแค่เฉพาะความรู้ในห้องเรียน เรายังได้ทดลองลงมือทำจริง เหนื่อยจริง ร้อนจริง สนุกจริง เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้ง่ายๆ และไม่ใช่แค่เรียนสนุก เรายังมีโอกาสในการหางานมากมาย เพราะว่าเป็นของแปลกน่าลอง ดังนั้นจึงมีงานรองรับมากมาย ในระหว่างเรียนเรายังสามารถค้นหาสิ่งที่เราถนัดมากขึ้นไปอีกได้ด้วย
เรื่องราวของพี่วุฒิและพี่ชมพู่เป็นตัวอย่างที่ดีว่าความมุ่งมั่น ตั้งใจ และการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ สามารถพาเราไปได้ไกลกว่าที่คิดจริงๆ! หวังว่าเรื่องราวนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ ม.ปลายหลายคนหันมาสนใจโลกของวิศวกรรม โดยเฉพาะวิศวกรรมระบบราง ที่กำลังมาแรงและเป็นอนาคตของการคมนาคมในบ้านเรานะ!
#ระบบรางSPU #วิศวกรรมระบบราง #วิศวะศรีปทุม #spusoe #SPURailwayEngineering #เรียนลึกฝึกจริง #คณะวิศวกรรมศาสตร์
