จีจี้ – เบ็ญจมาพร พันธัง
นักศึกษาสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
จากความชอบการวางแผนและคิดเป็นระบบ สู่เส้นทางนักศึกษาวิศวกรรมอุตสาหการที่พัฒนานวัตกรรมแดชบอร์ดวิเคราะห์ข้อมูลอัตโนมัติ คว้ารางวัลระดับประเทศ พร้อมเป้าหมายใช้เทคโนโลยียกระดับวงการอุตสาหกรรมไทย
หลายคนอาจมองว่าวิศวกรรมเป็นเรื่องของตัวเลข เครื่องจักร หรืออะไรที่ดูซับซ้อน แต่สำหรับ พี่จีจี้ – เบ็ญจมาพร พันธัง นักศึกษาสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม “วิศวกรรม” ไม่ใช่แค่ศาสตร์ของความแม่นยำ แต่คือการคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้น และนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้พี่จีจี้เลือกเรียนในสายนี้
พี่จีจี้เล่าว่า ตัวเองเป็นคนที่ชอบวางแผน รักการคิดเป็นลำดับขั้นตอน และสนุกกับการหาวิธีทำให้กระบวนการต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่แค่ในแง่ของการผลิตสินค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดการ การวิเคราะห์ และการปรับปรุงระบบโดยรวม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับวิศวกรรมอุตสาหการโดยตรง และทำให้มั่นใจว่านี่คือเส้นทางที่ใช่
เมื่อพูดถึงการตัดสินใจเลือกมหาวิทยาลัย พี่จีจี้เล่าว่าความประทับใจแรกเกิดขึ้นในวันที่ได้มาเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยศรีปทุมในงาน Open House สิ่งที่สัมผัสได้ในวันนั้นคือบรรยากาศที่เป็นกันเอง อาจารย์และรุ่นพี่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทำให้รู้สึกว่านี่แหละคือพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ได้เติบโตและพัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในช่วงฝึกงานสหกิจที่บริษัท ไทยโทเรซินเทติคส์ จำกัด พี่จีจี้ได้ลงมือพัฒนาแดชบอร์ด OEE (Overall Equipment Effectiveness) ด้วย Power BI ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ประสิทธิภาพการผลิต เพราะเห็นว่าโรงงานยังใช้วิธีบันทึกข้อมูลด้วยมือและ Excel อยู่ จึงเสนอแนวทางพัฒนาแดชบอร์ดที่เชื่อมต่อกับระบบ I-Reporter เพื่อให้สามารถแสดงผลได้แบบเรียลไทม์และวิเคราะห์ข้อมูลได้แม่นยำยิ่งขึ้น
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงช่วยลดเวลาการสรุปข้อมูลจากสองวันเหลือเพียงสามสิบนาที แต่ยังช่วยลดข้อผิดพลาด ประหยัดกระดาษ และลดต้นทุนได้มากกว่า 200,000 บาทต่อปี ผลงานของพี่จีจี้จึงได้รับรางวัลรองดีเด่นอันดับ 3 จากเวทีประกวดผลงานสหกิจศึกษาระดับประเทศ ซึ่งเป็นรางวัลที่สะท้อนถึงการนำทฤษฎีไปใช้งานจริงอย่างมีประสิทธิภาพ
แม้จะเคยเรียนการใช้ Power BI ในชั้นเรียนมาบ้าง แต่การใช้งานจริงในโรงงานก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พี่จีจี้ต้องฝึกฝนเพิ่มเติม ศึกษาระบบของโรงงาน และทดลองใช้งานซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนสามารถออกแบบแดชบอร์ดที่ใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ทั้งฝ่ายผลิตและฝ่ายบริหาร
พี่จีจี้บอกว่าเหตุผลที่เลือกใช้ Power BI ไม่ใช่เพราะอยากลองของใหม่ แต่เพราะโรงงานมีระบบนี้อยู่แล้ว จึงเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด อีกทั้ง Power BI ยังแสดงผลข้อมูลในรูปแบบกราฟที่เข้าใจง่าย สามารถสื่อสารได้ดีในทุกระดับขององค์กร
ช่วงเวลาที่ได้ฝึกงาน ยังทำให้พี่จีจี้ได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับหลายฝ่าย ตั้งแต่ฝ่ายผลิต ฝ่ายซ่อมบำรุง ไปจนถึงฝ่ายวางแผน ทำให้ได้เห็นภาพรวมของการทำงานในโรงงานจริง และสามารถเชื่อมโยงความรู้จากห้องเรียนมาใช้ในการแก้ไขปัญหาและออกแบบระบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“
รางวัลที่ได้รับไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย แต่เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่ใหญ่ขึ้น พี่จีจี้วางแผนจะเรียนต่อในสายวิศวกรรมอุตสาหการ เพื่อเข้าใจระบบให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และอยากใช้ความรู้ด้านนี้ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้โรงงานสามารถดำเนินงานได้อย่างยั่งยืน
“
นอกจากความสนใจด้านวิศวกรรมแล้ว พี่จีจี้ยังมีอีกหนึ่งความฝันที่อาจไม่ค่อยมีใครคาดคิด — นั่นคือการเป็นนักแสดงหรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ พี่จีจี้อยากนำความรู้ที่มีมาสื่อสารให้เข้าใจง่ายผ่านคอนเทนต์ อยากให้ผู้คนเห็นว่าวิศวกรรมก็สามารถสื่อสารอย่างสร้างสรรค์และเข้าถึงได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าใจยากหรือไกลตัวเสมอไป
ก่อนจบบทสนทนา พี่จีจี้ฝากแรงบันดาลใจถึงเพื่อน ๆ และน้อง ๆ วัยมัธยมว่า อย่ารอให้พร้อมแล้วค่อยเริ่ม เพราะบางครั้งโอกาสก็มากับความกล้าในช่วงเวลาที่เรายังไม่มั่นใจ ทุกปัญหาที่เจอคือบทเรียนสำคัญที่ไม่มีสอนในห้องเรียน
และสำหรับคำถามที่หลายคนอาจยังสงสัยว่า “ผู้หญิงเรียนวิศวกรรมได้ไหม?” พี่จีจี้ยืนยันอย่างมั่นใจว่า ทุกเพศสามารถเรียนและทำงานในสายนี้ได้ เทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยให้การทำงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับแรงกายเพียงอย่างเดียว และผู้หญิงก็มีจุดแข็งด้านความละเอียดและการสื่อสาร ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในยุคที่วิศวกรรมเน้นการวางระบบและการจัดการข้อมูลมากขึ้น
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าใครจะเริ่มต้นจากตรงไหน เพศอะไร หรือมีพื้นฐานแค่ไหน ถ้า ‘กล้าที่จะลอง’ และ ‘ไม่หยุดพัฒนา’ ก็สามารถสร้างเส้นทางในแบบของตัวเองได้เสมอ พี่จีจี้คืออีกหนึ่งตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ทั้งความคิดและหัวใจ ก้าวเดินบนเส้นทางวิศวกรรมอย่างมั่นคง พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไปอย่างเต็มเปี่ยม
