รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1! การศึกษาความเหมาะสมในการเลือกใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลในท่าอากาศยานภูเก็ต

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1

ประเภทโครงงานกลุ่มสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และการจัดการ

“ความเหมาะสมในการเลือกใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล”

(The suitability of the personal protective equipment for workers in Phuket International Airport)

ในโลกของอุตสาหกรรมการบิน ความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานคือสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด โดย นางสาวธนาพร งามวงศ์รัตนชื่น นักศึกษาวิทยาลัยการบินและคมนาคม สาขาวิชาการจัดการความปลอดภัยการบิน มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้จัดทำรายงานวิจัยสหกิจศึกษาในหัวข้อ “ความเหมาะสมในการเลือกใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลสำหรับผู้ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานภูเก็ต” ปีการศึกษา 2563

ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย:

  1. ความสำคัญของอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE): งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าการเลือกใช้อุปกรณ์ PPE อย่างเหมาะสมกับลักษณะงาน เช่น การทำงานในที่สูง สภาพแวดล้อมที่มีสารเคมี หรือการปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับเครื่องจักร เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดอุบัติเหตุและความเสี่ยงในการทำงาน
  2. การวิเคราะห์อุปกรณ์ที่ใช้งานจริงในสนามบิน: มีการสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานภูเก็ต พบว่ามีบางกรณีที่อุปกรณ์คุ้มครองไม่สอดคล้องกับลักษณะงาน หรือไม่ได้มาตรฐานที่กำหนด ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออันตราย
  3. ผลกระทบจากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม: การใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่เหมาะสมส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน และเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งในเชิงทรัพย์สินและชีวิต

ข้อเสนอแนะจากงานวิจัย

เพื่อพัฒนาความปลอดภัยในสนามบินให้ดียิ่งขึ้น งานวิจัยได้เสนอแนวทางดังนี้:

  1. การจัดหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน:
    • สนับสนุนให้มีการใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล เช่น ISO, ANSI หรือ EN
    • จัดซื้ออุปกรณ์ที่สอดคล้องกับลักษณะงานของผู้ปฏิบัติงาน เช่น อุปกรณ์ป้องกันเสียงสำหรับพื้นที่ที่มีเสียงดัง หรือหมวกนิรภัยที่รองรับแรงกระแทก
  2. การอบรมความปลอดภัยและการใช้งาน PPE:
    • จัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์คุ้มครองส่วนบุคคล เพื่อเพิ่มความเข้าใจและการใช้งานที่ถูกต้อง
    • สร้างความตระหนักในความสำคัญของการใช้อุปกรณ์ PPE ให้ผู้ปฏิบัติงานทราบถึงผลกระทบของการไม่ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม
  3. การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ PPE:
    • กำหนดแผนการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ PPE เป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ในสภาพสมบูรณ์
    • จัดทีมงานหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบคุณภาพอุปกรณ์เป็นประจำ
  4. การจัดทำแนวทางปฏิบัติ (SOP):
    • จัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operating Procedures – SOP) สำหรับการเลือกใช้อุปกรณ์ PPE ในงานต่างๆ และเผยแพร่ให้ผู้ปฏิบัติงานรับทราบ
  5. การประเมินความเสี่ยงเป็นประจำ:
    • ดำเนินการประเมินความเสี่ยงของงานในแต่ละพื้นที่ของสนามบิน เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงการเลือกใช้อุปกรณ์ PPE ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น

ความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการบินอย่างยั่งยืน

การวิจัยครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของสหกิจศึกษา โดยได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และความร่วมมือจากฝ่ายมาตรฐานท่าอากาศยานและอาชีวอนามัยในท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมการบิน

เราภูมิใจในความมุ่งมั่นและความสำเร็จของนักศึกษาของเรา ที่พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในสายงานการบินและคมนาคม

Most Popular

Categories