สวัสดีน้องๆ ทุกคนค่ะ วันนี้พี่แอดมินได้รับเกียรติจากท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุม หรือท่าน ดร.รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน ซึ่งให้เกียรติสัมภาษณ์กับพวกเรา ในหัวข้อสุดพิเศษอย่าง I Believe In You หรือ ฉันเชื่อในตัวคุณ เปิดหัวข้อมาได้น่าสนใจขนาดนี้ ทุกคนคงสงสัยกันแล้วสิว่า I Believe In You ของท่านอธิการบดีนั้นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรบ้าง มาลองอ่านกันได้เลยค่ะ
I Believe In You ขอให้เธอนั้นมั่นใจ
ท่านอธิการบดี : สำหรับคำว่า I Believe In You ในหัวข้อพิเศษนี้ หากถามว่าทำไมดิฉันถึงเชื่อในตัวเด็กๆ ทุกคน คงเพราะว่ามนุษย์ทุกคนนั้น ย่อมมีอะไรที่ซ่อนอยู่ในตนเองโดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัว หรือเราอาจยังไม่มั่นใจ แต่แท้จริงแล้วทุกคนนั้นมีสิ่งดี ๆ อยู่ในตัวเองอย่างแน่นอน ดิฉันจึงเชื่อว่าเด็กทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง โดยมหาวิทยาลัยศรีปทุมนั้นจะเป็นเวทีให้นักศึกษาทุกคนได้แสดงออกถึงศักยภาพของตนเองที่ซ่อนอยู่ค่ะ
S P U เวทีนี้ให้ทุกคนได้เลือกเรียนตรงตามความฝันของตัวเอง
ท่านอธิการบดี : ในเรื่องการเปิดเวทีให้นักศึกษาได้ทำตามฝัน เราเริ่มกันตั้งแต่หลักสูตรเลยค่ะ เพราะหลักสูตรของเรานั้นให้นักศึกษาได้เป็นผู้เลือกเรียนตามที่อยากเรียน ดังนั้นเขาจะไม่ได้เรียนแบบสมัยก่อนซึ่งเป็นการเรียนรู้ด้านเดียว แต่ปัจจุบันเด็กๆ จะ ได้ Shopping วิชาที่เขาสนใจ สามารถเลือกเรียนข้ามสายข้ามคณะได้อิสระ เพราะเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเติมเต็มทักษะของนักศึกษาเพื่อนำไปใช้ในอนาคต และคือเวทีที่เราเปิดอันดับแรกค่ะ
ได้ลงสนาม ได้เรียนจากตัวจริง
ท่านอธิการบดี : นอกจากนี้มหาวิทยาลัยศรีปทุมยังเน้นในเรื่องการได้ลงมือทำจริง เรียนรู้จริงกับผู้ที่มีประสบการณ์จริงในทุกสายที่เขาเรียน เพราะฉะนั้นนักศึกษาจะได้รับประสบการณ์จริง ได้เห็นและได้ลงมือทำจริงอย่างเต็มที่ อีกทั้งที่นี่เรามีเวทีเปิดอีกหลายเวทีให้นักศึกษาของเราแสดงฝีมือ ตัวอย่างเช่นคณะนิเทศศาสตร์ ที่มีทีม Sim Agency ซึ่งเป็นบริษัทเอเจนซี่จำลอง และมีนักศึกษามารับงานในมหาวิทยาลัย นักศึกษาก็จะได้งานได้เงินจริง และมีเวทีในการสร้างผลงานจริง เรียนรู้ถูกและผิดเก็บเกี่ยวประสบการณ์กันก่อนที่จะเรียนจบ
เวทีของคนชอบประกวด เราก็มีพื้นที่ให้ปล่อยของ
ท่านอธิการบดี : ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ เรายังมีเวทีที่จะส่งนักศึกษาเข้าประกวดผลงานในด้านต่างๆ ซึ่งในแต่ละปีภาพรวมของมหาวิทยาลัยนั้นเราได้คว้ารางวัลมาเยอะมากๆ และเป็นรางวัลจากความสามารถของนักศึกษา ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าภูมิใจค่ะ เราได้พยายามผลักดันนักศึกษาของเรามาตลอด เพราะอย่างที่กล่าวคือเราเชื่อมั่นว่าทุกคนมีศักยภาพ
อาจารย์ยุคใหม่ ไม่ใช่แค่มีองค์ความรู้
ท่านอธิการบดี : ต้องยอมรับว่าโลกของเราเปลี่ยนไปเยอะมาก ดังนั้นในด้านตัวอาจารย์ผู้สอน นอกจากจะต้องมีองค์ความรู้ บทบาทของอาจารย์ของเราจะต้องทำหน้าที่เป็นโค้ชมากขึ้น เราให้เด็กรุ่นใหม่หลายหลักสูตรเรียนสิ่งที่เรียกว่า Project Base คือการคิดจะทำอะไรร่วมกันในโปรเจคหนึ่งแล้วมีอาจารย์ผู้เป็นที่ปรึกษามาทำหน้าที่เป็นโค้ชหรือเมนเทอร์คอยช่วยเด็ก โค้ชนั้นมีหน้าที่คอยชี้แนะ หรือว่ารับฟังให้คำปรึกษา เพราะเราต้องฟังเขาแล้วคอยเติมคอยแนะนำให้สิ่งนั้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
S P U Dynamic University
เพราะเราไม่เคยหยุดนิ่ง
ท่านอธิการบดี : ที่มาในความเป็น Dynamic University มหาวิทยาลัยศรีปทุมนั้นมีความไดนามิกมาตลอดเวลา นั่นคือการที่เราปรับเปลี่ยนตัวเองในทุกยุคทุกสมัย และจากการที่เราได้วิเคราะห์ตัวเองว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามหาวิทยาลัยของเรามีคาแรคเตอร์ยังไง ก็ได้ความว่าเรามีความไดนามิกมาก เราเปลี่ยนแปลงได้ทันสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลงให้ทันกระแสของโลกและมีความยืดหยุ่น มีการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มีความเข้าใจคนรุ่นใหม่ เพราะฉะนั้นเราเลยสรุปว่านี่แหละคือความเป็นศรีปทุม นั่นคือเราไม่หยุดนิ่งค่ะ
ไม่ว่าสถานการณ์ไหน
เด็กของเราต้องได้เรียนตามปกติ
ท่านอธิการบดี : อย่างสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดคือโรคโควิด-19 ที่ทำให้หลายธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลง ในส่วนของมหาวิทยาลัยศรีปทุมเองจึงต้องคำนึงถึงว่าเราจะทำยังไงให้นักศึกษายังได้เรียนอยู่แม้จะเข้ามหาวิทยาลัยมาเรียนไม่ได้ ซึ่งจุดนี้เราไม่ได้เริ่มทำเพราะเกิดสถานกาณ์โควิด แต่เราทำระบบ e – Learning เป็นระบบเรื่องการเรียนการสอนออนไลน์มานานแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดสถานการณ์นี้เราเลยปรับตัวได้ง่าย ทั้งอาจารย์ยังสอนออนไลน์ได้เลย เพราะฉะนั้นนี่เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยนั้นคำนึงถึง และได้วางรางฐานในเรื่องของการเรียนออนไลน์มานานแล้ว แค่โควิด-19 ทำให้เห็นข้อนี้ได้ชัดเจนขึ้น
ขอฝากถึงทุกคนที่กำลังทำตามฝัน
ท่านอธิการบดี : นักศึกษายุคนี้เป็นนักศึกษาที่มีเป้าหมายอยู่แล้วว่าต้องการเลือกเรียนที่ไหน เลือกเรียนอะไร นั่นเป็นสิ่งที่เราเห็นความต้องการของเขาตั้งแต่แรก ดังนั้น SPU ของเราจึงมีหลายสิ่งซึ่งคอยซัพพอร์ต เช่นหลักสูตรต่างๆ เองก็จะมีองค์ความรู้ใหม่ๆ มีวิธีการเรียนการสอนแบบใหม่ และมีการทำโปรเจคกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้ ได้เห็นและได้ลงมือทำจริง พอทำเยอะทุกคนก็จะเก่งขึ้น สามารถพัฒนาทักษะตนเองได้ ดังนั้นในสี่ปีนี้อยากให้นักศึกษาทุกคน เก็บเกี่ยวเรียนรู้เยอะๆ และพยายามเลือกเรียนรู้รายวิชาที่ข้ามศาสตร์ข้ามคณะ เพื่อที่เราจะได้มีความรู้และทักษะนอกเหนือจากรายวิชาที่เป็น รายวิชาหลักของเรา สุดท้ายสิ่งที่อยากฝากไว้คือให้เรียนรู้ ลงมือทำ และอย่ากลัวนะคะ
อ่านจบแล้ว ทุกคนคงรู้แล้วว่า ท่าน ดร.รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน ได้เชื่อมั่นในตัวทุกคนกันอย่างไร และความเชื่อมั่นนี้ได้ถูกส่งต่อไปในหลักสูตรการเรียนใหม่ๆ เวทีหลากหลายเวทีที่เปิดโอกาสให้ทุกคนและเหล่าอาจารย์ผู้เป็นโค้ชที่ดีเยี่ยมให้นักศึกษา โดยที่ทุกคนที่เรียนที่นี่จะได้ลงมือทำตามความฝัน ได้ฝึกทักษะ ได้เจอตัวจริงประสบการณ์จริงกันอย่างแน่นอนค่ะ