Home SPU Special Farm to Branding! เด็ก SPU ปั้นแบรนด์จากแปลงเกษตรบ้านเกิด!

Farm to Branding! เด็ก SPU ปั้นแบรนด์จากแปลงเกษตรบ้านเกิด!

by author

Farm to Branding!
เด็ก SPU ปั้นแบรนด์จากแปลงเกษตรบ้านเกิด!

บ้านเกิดไม่ใช่แค่จุดเริ่มต้น แต่คือแรงบันดาลใจ รุ่นพี่ SPU  ได้นำภูมิปัญญาครอบครัวเกษตรกร มาต่อยอดสร้างแบรนด์ด้วยสินค้าจากแปลงเกษตรสดใหม่ ทำด้วยความรัก ความตั้งใจ ส่งถึงมือผู้บริโภค ผ่านการเรียนที่ SPU ซึ่งช่วยสร้างไอเดียในหัวสู่แบรนด์ธุรกิจได้จริง เพื่อพิสูจน์ว่า “บ้านเกิดของเรา” คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่ยั่งยืน

PROFILE :

นุกนิก – ยลลดา กระจ่างโพธิ์

รุ่นพี่คณะบริหารธุรกิจ

เรียนสาขา : บริหารธุรกิจ

จบจากโรงเรียน : สังขะ จังหวัดสุรินทร์

ช่องทางติดตาม : 

  • IG : nook_nickk_

เด็กสร้างธุรกิจ : แบรนด์ข้าวจันทร์ศิริ

ข้าวจากท้องทุ่งนา สู่ตลาดออนไลน์ แบรนด์ข้าวที่เริ่มด้วยใจนักสู้

พี่เกิดมาในครอบครัวชาวนา บ้านทำนาเป็นอาชีพหลัก ตั้งแต่เด็กก็เห็นพ่อแม่ขายข้าวเปลือกให้โรงสี กิโลละ 8–16 บาท…ซึ่งบอกเลยว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับแรงและต้นทุนที่ลงไป ทั้งค่าเครื่องจักร ค่าปุ๋ย ค่าคนงาน พี่ก็เลยคิดว่า “ทำไมเราไม่เพิ่มมูลค่าเองล่ะ?” โชคดีที่บ้านมีโรงสีเล็กๆ อยู่แล้ว แถมข้าวบ้านพี่คือข้าวหอมมะลิสุรินทร์ ของดีประจำจังหวัด ที่มีกลิ่นหอม นุ่ม ไม่เหมือนใคร มีข้าวกล้องที่เหมาะกับคนรักสุขภาพและผู้ป่วยเบาหวาน พี่เลยเริ่มสร้างแบรนด์ข้าวของตัวเอง ขายตรงไม่ผ่านคนกลาง ทำการตลาดเองตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้แรงบันดาลใจจากการเรียนที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่สอนให้รู้จักคิด ทำ และลงมือสร้าง นี่แหละเสน่ห์ของการเรียนในสายที่ใช่ โดยไม่ต้องรอให้เรียนจบก็สามารถเริ่มธุรกิจและปั้นฝันให้เป็นจริงได้ตั้งแต่วันนี้!

เริ่มแบรนด์ง่ายๆ ด้วยคลาสที่ SPU

ตอนเริ่มต้นแบรนด์ พี่วางแผนบริหารเวลาให้ลงตัวกับชีวิตนักศึกษา ทำงานหลังเลิกเรียนไม่กระทบการเรียนเลยค่ะ ที่ SPU มีคลาสผู้ประกอบการและการตลาดดิจิทัล ที่ช่วยให้พี่เข้าใจวิธีวางแผนธุรกิจและทำตลาดออนไลน์ได้จริง ใช้ได้ทันที เห็นผลชัดเจนเลย!

จับธุรกิจด้วยไอเดียที่ใช่ และวิชาที่ใช้งานได้จริง

พี่เลือกไอเดียธุรกิจนี้เพราะผูกพันกับการเห็นพ่อแม่ทำนามาตั้งแต่เด็ก และข้าวก็เป็นสิ่งใกล้ตัวที่กินทุกวัน เลยอยากต่อยอดสิ่งที่รู้จักจริง พอเข้า ม.ศรีปทุม ก็มีวิชาสอนทำธุรกิจ ที่ช่วยให้เข้าใจการวางแผน หาเป้าหมายลูกค้า ทำให้จับจุดธุรกิจได้ชัดเจนและเริ่มทำได้จริง! ตอนทดลองตลาดครั้งแรก พี่เลือกกลุ่มเป้าหมายคือคนรักสุขภาพ แล้วเริ่มขายผ่านเพื่อน ตลาดนัด และออนไลน์ พอขายแล้วก็ปรับสินค้าและกลยุทธ์ตามความต้องการจริง สิ่งเหล่านี้พี่ได้จากวิชาผู้ประกอบการ ที่ให้นักศึกษาทดลองขายของจริง ซึ่งสามารถพัฒนาจากโปรเจกต์กลายเป็นสร้างแบรนด์เราได้เลย!

ฝันให้ไกล ลงมือให้ไว ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้!

อยากให้น้องๆ ทุกคนที่มีความฝัน กล้าลงมือทำเลยค่ะ มาลองผิดลองถูก เรียนรู้จากประสบการณ์จริง เพราะประสบการณ์จะสอนเราเองว่าอะไรดีอะไรควรปรับ พี่เชื่อว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ถ้าเราไม่พยายาม จงเชื่อมั่นในตัวเองไว้เลย เพราะโลกนี้ไม่มีใครที่ทำไม่ได้ แค่ยังไม่เริ่มลงมือทำเท่านั้นเอง

PROFILE :

กั๊ง – ชลิตา หวานซึ้ง

รุ่นพี่คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ

เรียนสาขา : สหวิทยาการ เทคโนโลยีและนวัตกรรม

จบจากโรงเรียน : แม่สะเรียง”บริพัตรศึกษา” จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ช่องทางติดตาม : 

  • IG : llllllllllllllllllllll.iiiiiii

เด็กสร้างธุรกิจ : Laan Phak ตู้กดผักอัตโนมัติ

แค่ได้เริ่ม ก็เหมือนชนะไปครึ่งทางแล้ว

พี่เริ่มสนใจอยากทำแบรนด์ของตัวเองตั้งแต่ยังเรียนอยู่ เพราะรู้สึกว่าถ้าได้ลองเริ่มทำธุรกิจอะไรที่เกี่ยวกับครอบครัว มันก็เหมือนบรรลุเป้าหมายหนึ่งในชีวิตแล้ว แบรนด์ที่พี่อยากทำเกี่ยวกับ “ผัก” ค่ะ เพราะที่บ้านมีทั้งเครือข่ายเกษตรกร และโรงงานตัดแต่งที่ได้มาตรฐานสากล พี่มองว่าทางต้นน้ำกับกลางน้ำเรามีพร้อมอยู่แล้ว เลยอยากเป็นคนที่ช่วยส่งต่อให้ถึงปลายน้ำคือผู้บริโภค ให้ทุกคนได้ของที่มีคุณภาพ สด สะอาด และตอบโจทย์ชีวิตคนยุคนี้ที่สุด การเริ่มต้นธุรกิจอย่ารอให้ทุกอย่างพร้อม แค่เริ่มจากสิ่งที่มี แล้วพัฒนาไปเรื่อยๆ ความสำเร็จมันจะค่อยๆ ตามมาเองค่ะ

จับโปรเจกต์มาใช้จริง! เริ่มธุรกิจตั้งแต่ยังเรียน

พี่เริ่มทำโปรเจกต์ “ลานผัก” มาตั้งแต่ปี 1 จนตอนนี้อยู่ปี 3 แล้วค่ะ ตอนแรกเริ่มจากการทำ prototype แอปฯ ซื้อขายผัก แล้วค่อยๆ พัฒนาแนวคิดมาเป็น “ตู้จำหน่ายผักอัตโนมัติ” เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ในโปรเจกต์นี้พี่ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับการยอมรับของผู้บริโภคด้วย ซึ่งผลออกมาดีมาก เลยทำให้มั่นใจมากขึ้นว่าสิ่งที่เราคิดมีโอกาสไปต่อได้จริง ตอนนี้พี่กำลังจะเริ่มฝึกงานยาว 6 เดือนค่ะ ช่วงนี้ก็จะใช้โอกาสนี้พัฒนาแผนธุรกิจให้ชัดเจนและรอบด้านมากขึ้น พอจบฝึกงานก็ตั้งใจว่าจะทดลองตลาดจริงกับตู้จำหน่ายผักเลย

เรียนไปด้วย สร้างแบรนด์ไปด้วย…เริ่มต้นยังไงให้ไม่หลุดโฟกัส?

ตอนเริ่มทำแบรนด์ พี่พยายามวางแผนให้เหมาะกับชีวิตเด็กมหาวิทยาลัยที่สุดค่ะ เลือกทำช่วงที่ไม่ได้เรียนหนักมาก และค่อยๆ เริ่มจากสิ่งที่ถนัด คลาสที่ช่วยพี่ได้เยอะมากคือวิชา Startup ของ SPU เพราะเนื้อหาลึกขึ้นจากที่พี่เคยเรียนพวก Design Thinking มาในคณะ ซึ่งไม่ได้แค่สอนให้คิดไอเดีย แต่เจาะลึกไปถึงการวิเคราะห์ตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคจริงๆ ซึ่งพี่เอามาใช้กับธุรกิจผักสดที่พี่ทำอยู่ได้แบบตรงจุดเลยค่ะ ที่สำคัญคือในคลาสยังมีโอกาสให้เราเอาไอเดียไปแข่งขัน ได้ฟังคำแนะนำจากมุมมองของคนอื่น ซึ่งช่วยพัฒนาแนวคิดให้ไปต่อได้ไกลขึ้นอีก

คำแนะนำคือ “เริ่มจากสิ่งที่เรารู้ดีที่สุด แล้วใส่ใจมันให้สุดทาง”

พี่มองว่าทุกวันนี้มีธุรกิจเกิดขึ้นเยอะมาก คู่แข่งก็เต็มไปหมด ถ้าจะเลือกทำอะไรสักอย่าง พี่เลยเริ่มจากสิ่งที่อยู่กับเรามาตั้งแต่เด็ก สิ่งที่เราคุ้นเคย เข้าใจ และเห็นปัญหาของมันจริงๆ พอเรารู้ลึก มันจะทำให้เราอยากแก้ไขอย่างจริงจัง และมีไฟที่จะพัฒนาธุรกิจให้ไปต่อได้เรื่อยๆ พี่อยากบอกน้องๆ ว่า เรายังเด็กมากเลยนะ ยังไม่ต้องกังวลเรื่องความมั่นคงมากนัก แต่ลองถามตัวเองดูว่า ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ จะเสียใจไหม? ล้มบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะแค่ลุกขึ้นมาใหม่ก็ยังทันอยู่เสมอค่ะ อย่าปล่อยให้ความกลัวมาขวางทางฝันนะ ลงมือทำเลย!

You may also like