4 สัญญาณบวกที่มั่นใจได้ว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการจะกลับมาปัง ปัง และยิ่ง ปัง กว่าเดิมแน่นอน
หลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต้องซบเซา บุคลากรต้องพลัดพรากกระจัดกระจาย จากแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่เมื่อประชากรส่วนใหญ่บนโลกได้รับวัคซีนเป็นที่ครอบคลุมแล้ว หลายประเทศจึงเริ่มนโยบายเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการควบคุม ทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว ทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศมากขึ้น รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิถีของผู้คนให้อยู่ร่วมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังดำเนินอยู่ต่อไปได้ และนี่คือ 4 สัญญาณบวกที่มั่นใจได้ว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการจะกลับมาปัง ปัง และยิ่ง ปัง กว่าเดิมแน่นอน

1. GDP ของการท่องเที่ยวโลกปี 2022 กำลังไต่ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลจาก World Travel & Tourism Council (WTTC) คาดการณ์ว่า GDP ของการท่องเที่ยวโลกปี 2022 ในภาพรวมจะโตขึ้น 31.7% นักท่องเที่ยวในประเทศใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 24.3% และการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่หดตัวก่อนหน้านี้จะกลับมาฟื้นตัวได้สูงถึง 93.8%

2. ภูมิภาคอเมริกา และเอเชีย-แปซิฟิก สองพื้นที่ ที่การท่องเที่ยวจะกลับมาก่อนใคร

คาดการณ์ว่าภูมิภาคอเมริกาจะขึ้นแท่นเป็นผู้นำในของตลาดการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวได้เร็วที่สุด ด้วยอัตรา GDP ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเติบโตราว 36.8% ตามมาด้วยภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (36.3%) แอฟริกา (27.7%) ตะวันออกกลาง (27.1%) และยุโรป (23.9%) เมื่อเจาะลงไปในภูมิภาคอเมริกาจะพบว่าภูมิภาคที่เติบโตมากสุดคือ แคริบเบียน (47.3%) ตามมาด้วยอเมริกาเหนือ (37.9%) และละตินอเมริกา (26%)

3. การท่องเที่ยวในประเทศ ละแวกที่อยู่อาศัย และคนรุ่นใหม่ คือหัวใจของการฟื้นฟู

รายได้จากการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งมีข้อมูลระบุว่าตลาดท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่มีแนวโน้มจะกลับมาเติบโต คือ ตลาดนักท่องเที่ยวภายในประเทศ (Domestic Market) รวมถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ผู้คนเลือกเดินทางท่องเที่ยวในระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตรจากเมืองที่อยู่อาศัย และกลุ่มที่มีแนวโน้มจะเดินทางกลุ่มแรก คือ นักท่องเที่ยวกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการออกเดินทางเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ จากที่เคยห่างหายไปในช่วงการแพร่ระบาด

4. ททท.เดินหน้าเร่งแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวเต็มพิกัด คาดว่ารายได้จะกลับมาฟื้นตัวได้กว่า 80% ในปี 2566

“ททท.ตั้งเป้าหมายการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทยปี 2565 โดยผลักดันให้โรงแรมที่พักทั่วประเทศมีอัตราการเข้าพัก 50% สูงกว่าค่าเฉลี่ย 28% พร้อมฟื้นอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ให้ได้ไม่น้อยกว่า 70% โดยยังคาดการณ์ว่าในปี 2566 รายได้รวมจากการท่องเที่ยวจะมีมูลค่าอยู่ที่ราว 2.4 ล้านล้านบาท คิดเป็นการฟื้นตัว 80% จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 20 ล้านคน ฟื้นตัว 50% เมื่อเทียบกับยอดเกือบ 40 ล้านคนเมื่อปี 2562
 
และทั้งหมดนี้ก็เป็นข่าวสารอัปเดต เกี่ยวกับสถานการณ์การเดินทางการท่องเที่ยวรวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องเช่นภาคโรงแรม ที่เรารวบรวมมาอัปเดตกัน ซึ่งคงจะพอทำให้พอเห็นแนวโน้มสัญญาบวกอย่างต่อเนื่องว่าภาคการท่องเที่ยวและการบริการกำลังจะกลับมาในไม่ช้านี้แล้ว
และแม้จะยังไม่มีคำตอบชัดเจนว่าเมื่อพวกเขาได้กลับมาเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่คุ้นเคยหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนคือ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยและทั่วโลกนับแต่นี้ไป จะถูกพัฒนาไปในทิศทางที่ยั่งยืน สร้างความแข็งแกร่งจากรากฐานมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน